รายการโปรด
ต้องยอมรับว่าพ่อแม่ยุค 4.0 นี้ คงไม่มีใครอยากเห็นลูกตื่นตั้งแต่ ตีสี่ ตีห้า มาใช้ชีวิตอยู่บนถนนที่รถติดเป็นชั่วโมงๆ เพื่อเข้าไปเรียนใจกลางกรุงแต่เช้าหรอก ดังนั้นหนึ่งในวิธีแก้ปัญหาคือ...
การซื้อคอนโดที่อยู่ใกล้กับที่เรียนให้ลูก จึงเป็นแนวคิดที่คุ้มค่าเงินที่สุด แบบว่าอยู่ได้ตั้งแต่เรียนไปจนตอนทำงานกันเลย และไปจนถึงอนาคตที่อยากขายต่อ เพื่อขยับขยาย ก็ต้องขายได้กำไรงามๆ เป็นทุนต่อยอดให้ลูกหลานตัวเองอีกด้วย
ขณะเดียวกันก็ต้องดูเรื่องฟังก์ชั่นที่เอาใจลูกหลานด้วยนะ เพราะคนรุ่นใหม่เดี๋ยวนี้แต่ละคนมีความชอบที่แตกต่างกันไป ดังนั้น แต่ละคนจะมีมุมโปรดไม่เหมือนกัน บางคนมีความสุขกับการได้หลับพักผ่อนที่ห้องนอน อีกคนชอบดูทีวีในห้องนั่งเล่น หรือผ่อนคลายกับการได้ใช้เวลาส่วนตัวที่ห้องน้ำ และใครที่รักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ ก็คงหนีไม่พ้นห้องครัว...
แล้วคุณคิดว่า เลิศแค่ไหน ถ้ามีคอนโดใจกลาง จุฬา-สามย่าน ที่ทำออกมาได้ โดนใจคนรุ่นใหม่มากๆ รับรองว่า ถ้าได้มาเห็น เค้าจะต้องหลงรักห้องนี้ ได้ทุกมุม ในทุกๆ ตารางเมตร เลยทีเดียว!!!
CHAPTER จุฬา-สามย่าน
แค่ชื่อโครงการ ก็บอกได้อย่างตรงเป๊ะ ว่าอยู่ใกล้หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของไทยอย่างจุฬาฯ ที่นับว่าเป็นทำเลที่มาแรงแซงโค้งไม่น้อยหน้าใคร ซึ่งถ้าเอาแบบที่ตั้งเฉพาะเจาะจงคือ อยู่บนถนนสี่พระยาใกล้จุฬา เพียงไม่กี่ร้อยเมตรนี่เอง
สามารถเดินทางสะดวกง่ายมากด้วย MRT ลงสถานีสามย่าน ที่ห่างจากตัวโครงการประมาณ 600 เมตร มี Shuttle Bus บริการรับส่ง หรือถ้า ใช้รถยนต์ส่วนตัว ก็ขับสบายๆ เพราะถนนหน้าโครงการเป็นแบบ Twoway เดินทางเข้าออกง่าย ไปได้หลายเส้นทาง ทั้งถนนพระราม 4 ถนนสีลม - สาธร และถนนเจริญกรุง
และที่สำคัญคือมีเซอร์วิส MuvMi รถระบบไฟฟ้า คอยบริการรับส่ง โดยมีจุดจอดอยู่หน้าโครงการ เพื่อเอาใจคนจุฬา-สามย่าน นอกจากนี้ยังเสริมความเป็น Curated Urban Experince อีกด้วย หรือจะข้ามไปเรียนจุฬาก็สบายมากๆ
อีกทั้งยังใกล้แหล่ง 2 CBD ที่อยู่แถวนี้ก็ต้องนึกถึง สยามและสีลม… อยากรู้แล้วล่ะซี้ ว่าทำเลนี้มีอะไรดีๆ อีกบ้าง คลิกเข้าไปลิงก์นี้เลย >>> Chapter จุฬา-สามย่าน Limited Edition บนทำเลจุฬาฯ สามย่าน ที่ต้องรีบคว้าก่อนจะไม่มีโอกาส มีบอกไว้ครบอ่านปุ๊บเข้าใจปั๊บแน่นอน แต่อ่านเสร็จแล้วอย่าลืมกลับมาอ่านอันนี้กันต่อนะ เดี๋ยวพลาดของเจ๋งๆ ไม่รู้ด้วย
โครงการ CHAPTER จุฬา-สามย่าน ของทีมพรีเมี่ยม บริษัทพฤกษา เรียลเอสเตท ที่มั่นใจได้ถึงดีไซน์ และการทำ Product ที่เป็นจุดเด่นของทีมนี้ คอนโด Freehold ที่ออกแบบสไตล์ Modern Eccentric มีความแตกต่างแต่ลงตัว และ ฉีกรูปแบบเดิมๆ ของคอนโดทั่วไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ คือมีความเป็นเหลี่ยมเป็นมุม ที่ไม่ใช่แค่รูปทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา
เรื่องของการตกแต่งภายใน จะเน้นโทนสีเข้มเป็นหลักอย่างสี Brown Black รวมการเลือกใช้สีที่เป็นสีเข้ม อย่างสีเขียว และสีคอปเปอร์ ผนวกกับการตกแต่งวัสดุเฟอร์นิเจอร์ส่วนอื่นๆ จึงทำให้การผสมผสาน ระหว่างสไตล์และวัสดุ ความเก่าแก่ของทำเลที่มีความ Classic บวกกับความใหม่ ความ Modern ของคนรุ่นใหม่ที่สร้างสีสรรในย่านนั้น ให้เข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะ ซึ่งพอเป็นรูปร่างแล้ว คงจะโดดเด่นที่สุดในย่านนี้เลยก็ว่าได้
โดยเป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น และมีแค่ 181 ยูนิตเท่านั้น ยูนิตต่อชั้นสูงสุดแค่ 11 ยูนิตเองอ่ะ ได้ความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุดอย่างมาก คือถ้าใครไม่เคยอยู่คอนโดที่มี 800-1,000 ยูนิต คงไม่รู้หรอกว่า จำนวนห้องต่อชั้นน้อยๆ นี่คือความ Luxery อีกแบบหนึ่ง อยู่สบาย เสียงรบกวนน้อย คุณภาพชีวิตเทียบกันไม่ได้เลยครับ
ซึ่ง Facilities ไม่มีการลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด เพราะมีมาให้ถึง 5 ชั้น ขอไล่ไปตั้งแต่ชั้นล่าง ที่ให้จอดรถแบบ Automated Parking ได้ถึง 64% ต่อด้วย The Chapter Hall (Lobby) ที่แขกไปใครมาหาเห็นแล้วก็ต้องชอบ อยากนั่งรอ และ The Garden Edge สวนสวยสีเขียวร่มรื่น จะออกไปเดินเล่น นั่งเล่น หรือทำงาน เพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ก็ได้ชิลล์ๆ
ถัดมาที่ ชั้น 2 The Co-Working Edge มีทั้ง Nap pods, Co-working space, Private Room และ Common Pantry พื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างเต็มที่ อ่านหนังสือ นั่งเล่น หรือนัดประชุมแบบส่วนตัวก็ทำได้
ตรงดิ่งไปที่ ชั้น 23 The Urban Forest สวน 3 ชั้น ที่ไม่เคยมีใครกล้าทำโดยการให้สวนขนาดใหญ่ติดต่อกันถึง 3 ชั้น และได้วิว 360 องศา รวมถึง The Private Deck อีกหนึ่งสเปซสำหรับพื้นที่สีเขียว พร้อมอีกหนึ่งมุมมองของวิวเมืองที่คงสวยงามไม่เบา
ขึ้นมา ชั้นที่ 24 The Blue Edge และ Steam - Sauna แม้กระทั่งสระว่ายน้ำก็ยังออกแบบให้มีความเหลี่ยมมุมเพื่อล้อไปกับสไตล์ Modorn Eccentric โดยยาวติดต่อกัน 30 เมตร มีทั้ง Indoor และ Outdoor ส่วน Jacuzzi ก็มีเหมือนกันนะ แต่ไฮไลท์ของสระว่ายน้ำ อยู่ที่ไฟในสระที่สามารถเปลี่ยนสีได้เหมือน Club ที่กําลังจัด Pool Party ยามค่ำคืนล้อไปกับแสงไฟ City จากตึกสูงต่างๆ
สุดท้าย ชั้น 25 The Fit Edge และ Steam - Sauna มีเครื่องเล่นเพียบพร้อมสำหรับออกกำลังกาย แถมยังมองเห็นวิวได้ถึง 180 องศา อีกด้วย
และยิ่งไปกว่านั้นคือ Facilities เกือบทั้งหมด เปิดตลอด 24 ชม. (เว้นชั้น 24 ที่เปิดถึงเที่ยงคืน) จะลงมาดึกหรือเช้าแค่ไหนก็รอต้อนรับเสมอ
แต่ที่รู้สึกเซอร์ไพรส์คือ การดีไซน์ห้องใหม่ที่เป็นแบบ Interlock Room! ซึ่งไม่ใช่แค่ห้องสี่เหลี่ยมเท่ากัน ตามแพทเทิร์นเดิมๆ เพราะ โครงการเน้นความสมบูรณ์แบบ ของการใช้งานได้เต็มฟังก์ชั่น และรู้ใจไลฟสไตล์คนเมือง มากกว่าแค่ความสวยงามแต่ใช้งานจริงไม่ได้ ตามคอนเซ็ปต์ Curated Living Experience แถมงานนี้ยังไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อนอีกต่างหาก โดยมีห้องให้เลือกทั้งหมด 3 Type
1 ห้องนอน ขนาด 32.54 - 34.96 ตร.ม.
1 ห้องนอน พลัส ขนาด 43.28 - 49.33 ตร.ม.
2 ห้องนอน ขนาด 50.22 - 72.74 ตร.ม.
นอกจากนี้ ตอนนี้โครงการยังมีโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าลงทะเบียน มาพร้อมเครื่องปรับอากาศ และ Digital Door Lock แต่ที่เหลือจะจัดเต็มให้เยอะขนาดไหน เลื่อนอ่านบรรทัดถัดไปกันเลย!
รับ!!! Furniture Package แบบครบเซ็ต และ Smart Mirror
ห้องตัวอย่างของที่นี่จะมีให้ชม 2 Type ห้องแรกกับ 1 ห้องนอน ขนาด 34.80 ตร.ม. เปิดประตูเข้าไปก็เข้าใจได้ทันที ว่าแปลกตาแต่น่ามองน่าอยู่ เป็นอย่างนี้นี่เอง คือผนังทั้ง 4 ด้าน มีลูกเล่นความเหลี่ยมไม่เท่ากันสักด้าน จึงทำให้ห้องดูมีมิติดูกว้างเป็นพิเศษ พื้นทำจากไวนิลพิเศษ ปูแบบแผ่นต่อแผ่น และเทคโนโลยีที่ไม่ต้องใช้กาว ทำให้ดีต่อสุขภาพ เป็นลาย Herringbone White Oak และพื้นถึงฝ้าสูงถึง 2.7 เมตร ยิ่งทำให้ห้องดูโปร่งกว่าเดิม
ด้านหนึ่งมีตู้เก็บของและเก็บรองเท้าที่สูงถึงเพดาน หน้าบานทำจากลามิเนตสีเทา มีลูกเล่นที่เปิดได้จาก 2 ด้าน ทั้งจากในห้องนอนและห้องน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จก็สามารถหยิบเสื้อผ้าแต่งตัวได้ทันที อีกฝั่งจะเป็น ห้องครัว แบบครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน เคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ หน้าบาน ตัว Top เป็น Solid Surface ลายเทอร์ราซโซ ดูสวยงามแต่ก็มีความแข็งแรง ทนทาน และไม่สะสมความชื้น ไม่เกิดเชื้อรา ดีต่อสุขภาพ จะทำอาหารจริงจังแค่ไหน ก็ไม่มีปัญหา และอ่างล้างจานของ Mex ตัวก๊อกของ Teka
ผนังหลังเตาติดกระจก Backsplash เพื่อให้เช็ดคราบทำความสะอาดได้ง่ายๆ ชั้นเก็บของด้านบนบิวท์มาให้ยาวเต็มผนัง สามารถเก็บของได้เยอะพอสมควร สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว จะได้เตาไฟฟ้า 2 หัว พร้อมเครื่องดูดควันของ Hafele ด้านข้างมีพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง อันนี้โครงการก็ให้หมดเหมือนกัน
ห้องน้ำ ขนาดกำลังดีเข้าได้แบบไม่อึดอัด ซึ่งตอนนี้โครงการให้ Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ ที่สามารถดูหนัง ฟังเพลง ดู Youtube หรือจะเช็กสภาพอากาศก่อนออกจากบ้านก็ได้ ต่อด้วยสุขภัณฑ์ที่จัดมาให้ครบ ตัวก๊อกน้ำเป็นสี Polished Black ที่ดูเท่มาก พร้อมติดฉากกั้น แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้แล้ว
ส่วนของห้องนอนจะรวมกับห้องนั่งเล่น มีสเปซเหลือเฟือ เดินได้สบายๆ ซึ่งสิ่งที่เราเห็นคือได้เกือบหมดทุกอัน ไม่ว่าจะเป็น เตียง 5 ฟุตแบบมีที่พิงหลัง เหนือขึ้นไปทำซ่อนไฟเพื่อความเก๋มีสไตล์
ข้างๆ ติดกับทีวี เป็นโต๊ะทำงาน หรือจะทำเป็นโต๊ะแต่งหน้าก็ได้เหมือนกัน ริมสุดตรงหน้าต่างวางโซฟาเบดขนาด 2 ที่นั่ง ให้นอนเอกเขนกแบบชิลล์ๆ
ตู้เสื้อผ้าก็บิวท์มาให้สุดเพดานทำอย่างดี หน้าบานเป็นกระจกเงาสีดำ เก็บเสื้อผ้าได้เยอะอยู่
ระเบียงเป็นประตูกระจกใสแบบบานเปิดเดี่ยว พื้นที่ขนาดกว้างได้มาตรฐาน ไม่เล็กจนเกินไป วางเครื่องซักผ้าแล้วก็ยังมีพื้นที่เหลือประมาณหนึ่ง
ขณะที่อีกห้องเป็น 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 44.24 ตร.ม. จะเจอเข้ากับตัวตู้เก็บของและเก็บรองเท้าก่อน ซึ่งได้ขนาดใหญ่และเยอะกว่าเดิม ส่วนครัวจะได้เป็นครัวเปิด รูปแบบคล้ายกับห้องนอนแรก
เคาน์เตอร์ครัวแม้จะได้ไม่ยาวเท่าห้องแรก แต่ก็มีพื้นที่ในการทำอาหาร ที่เก็บของด้านบนทำเป็นตู้ปิดกันฝุ่น และตัวโต๊ะกินข้าวก็เพิ่มเป็น 3 ที่นั่ง
เครื่องใช้ไฟฟ้าของ Hafele ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันเหมือนกับในภาพเลย และยังมีที่คว่ำจานในตู้มาให้ด้วย
ห้องน้ำ สามารถเข้าออกได้สองทาง คือทางห้องครัวกับในส่วนของห้องนอน เพื่อความสะดวกต่อผู้อยู่ ได้ทุกอย่างไม่ต่างกันทั้ง Smart Mirror กระจกอัจฉริยะ สุขภัณฑ์ของ Roca และติดกระจกกั้นเป็นสัดส่วนพร้อมใช้งาน
ถัดไปเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง โต๊ะกลางตัวเล็ก และชั้นวางทีวี แต่ก็ยังมีระยะให้เดินได้แบบสบายๆ ไม่แคบ
เพื่อไปยังห้องอเนกประสงค์ (Flexible Edge) ที่ชอบมากคือเฟอร์นิเจอร์ที่ให้เป็นโซฟา ที่สามาถขยายทำเป็นเตียงนอนได้อย่างสบายๆ ถ้าไม่ใช้งานก็แค่พับเก็บ รวมถึงมีโต๊ะทำงาน และเก้าอี้ ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น ด้วยกระจกเงาบานใหญ่ 2 ฝั่ง และหน้าต่างบานกระทุ้ง
อีกห้องจะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ห้องนอน กั้นด้วยประตูทึบเพื่อแยกความเป็นส่วนตัว ซึ่งสายตาเราเพ่งมองไปที่ Walk-in Closet ก่อนเป็นอันดับแรก โครงการบิวท์ตู้เสื้อผ้ามาให้ถึง 2 ฝั่ง สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะมากจริงๆ ใครชอบแต่งตัวถ้าเห็นแล้วจะต้องฟิน
ด้านริมสุดวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต และโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมเก้าอี้ ที่โครงการก็มีมาให้เช่นเดิม ฝั่งตรงข้ามบิวท์ชั้นวางทีวีขนาดยาว
ระเบียงห้องนี้ได้ประตูกระจกแบบบานเลื่อน ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าห้องที่แล้ว จะปลูกต้นไม้หรือกลางคืนใครอยากออกมานั่งมองดาวชมจันทร์ ก็ทำได้ไม่ยาก
สำหรับราคาเริ่มต้น ของโครงการ CHAPTER จุฬา - สามย่าน 1 ห้องนอน เริ่ม 5.9 ล้านบาท!!! เห็นราคาแล้ว ถึงกับต้องหันไปถามเซลล์อีกครั้ง เพราะให้ครบจนไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่ม แถมสเปคเทพมากในโซนนี้ เหมาะแก่การซื้ออยู่หรือเก็บไว้ในอนาคต เพราะอย่างที่รู้กันโซนนี้ Up sight gain ดีเยี่ยมเป็นตัวเลือกที่ดีมาก
ก็จะไม่ให้อึ้งได้ยังไง ดูตัวโครงการที่ว่ามาสิทุกคน คือเกินราคาไปไกลโข เพราะนอกจาก ความเป็นส่วนตัว ที่จัดมาให้แบบหนักหน่วง ยังเล่นมาพร้อมกับคาแรคเตอร์รูปแบบใหม่ ในสไตล์ Modern Eccentric ที่แตกต่างแต่ลงตัว โดยเฉพาะ การออกแบบของห้อง ที่ดีไซน์ความเป็นเหลี่ยมต่างๆ ได้อย่างไม่เหมือนใคร ขณะเดียวกันก็ตอบโจทย์คนยุคใหม่ ที่ไม่ชอบอะไรเดิมๆ ได้อย่างครบถ้วน
แต่ที่ชอบใจนอกจากเรื่องแปลนห้องแล้ว คงเป็น ความสายเปย์ของโครงการ ที่ได้ Fully Furnished ขนานแท้ ไม่มีการโชว์ของอีกอย่าง แต่ได้ของจริงอีกแบบ โต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงานก็ได้แยกกัน ยิ่ง 1 ห้องนอน พลัส ที่จริงๆ แล้วมันคือ ฟังก์ชั่น 2 ห้องนอน เพราะได้เฟอร์นิเจอร์คูณ 2 โซฟา 2 ตัว โต๊ะกินข้าว โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง คือแยกกันหมดทุกชิ้น ไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัวว่าจะประยุกต์ใช้ยังไง อย่างนี้สิถึงเรียกว่าขนเสื้อผ้ามาอย่างเดียว ก็พร้อมอยู่ที่แท้ทรู
โครงการ CHAPTER จุฬา-สามย่าน จึงเป็นท็อปอันดับต้นๆ ในเรื่องของความคุ้มค่า ที่สามารถ อยู่ได้ตั้งแต่ตอนเป็นนักเรียน นักศึกษา ยันตอนทำงาน และต่อยอดอยากขายในอนาคต ก็บอกเลยว่าจะมีมูลค่าอย่างมาก ซึ่งครอบครัวไหนอยากซื้อไว้เป็นมรดกให้ลูกหลาน หรือหนุ่มสาวชาวออฟฟิศที่ทำงานอยู่แถวนี้เกิดสนใจขึ้นมา ต้องรีบเดี๋ยวนี้ทันที!!!
จูงมือกันมาเป็นครอบครัว จะเดินฉายเดี่ยว หรือใครจะมาเป็นคู่ ก็เข้าไปดูได้ทั้งนั้น โดยจะมีงาน Open House 25-26 พฤษภาคมนี้ เพื่อรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท*, Free iPad Pro 11 นิ้ว 256 GB*, Smart Mirror ทุกยูนิต, Free Furniture Package มูลค่าสูงสุด 400,000 บาท* แต่ห้ามพลาดคลิกลงทะเบียนกันด้วยนะ >>> http://bit.ly/2TYkSYR
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-11
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
ชอบบทความดีไซด์มากเลยค่ะ ได้ไอเดียไปด้วย
ถ่ายรูปสวยมาเลยครับ
นักเขียนมืออาชีพ งานคุณภาพและมีประโยชน์มากค่ะ
น่าติดตามค่ะ