รายการโปรด
การลงทุนกับคอนโดเป็นสิ่งที่ได้กำไรค่อนข้างมาก แต่จะลงทุนทั้งทีเราก็ต้องมีข้อมูลให้พร้อม รู้ให้เยอะที่สุด ประมาณว่า รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ซึ่งหลักๆ การลงทุนคอนโดมีอยู่ 2 รูปแบบ โดยมีความแตกต่างกันพอสมควรตามนี้
1. การลงทุนระยะสั้น
เป็นการจองคอนโดในราคาที่ต่ำกว่า ซึ่งส่วนมากจะเป็นช่วงพรีเซล แล้วนำมาขายต่อในราคาที่สูงขึ้นในตอนที่โครงการใกล้จะเสร็จ ที่แน่นอนว่าพอถึงเวลานั้นตัวคอนโดจะขายแพงกว่าเรา โดยการลงทุนแบบนี้ เป็นการซื้อมาขายไป และเพื่อการเก็งกำไรของจริง
ขอบคุณภาพ : rawpixel
ข้อดีของการลงทุนระยะสั้น คือ ใช้เงินน้อยกว่าการลงทุนระยะยาว สมมติว่า รวมค่าจอง ทำสัญญา และดาวน์อะไรเรียบร้อย เบ็ดเสร็จอยู่ที่ 80,000 บาท แต่อยากได้กำไรสัก 60% ก็ต้องขายสักประมาณ 128,000 บาท นับว่าได้กำไรมาพอสมควร ถ้าชำนาญแล้วหล่ะก็ สามารถขายได้หลายๆ ห้องหรือหลายๆ โครงการ ได้พร้อมกันเลยล่ะ
จึงไม่แปลกถ้าคนจะชอบเลือกเล่นระยะสั้นแบบนี้ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ใครๆ ก็สามารถทำได้เพราะ มีหลายอย่างที่ต้องประกอบเข้าด้วยกัน อย่างแรกคงหนีไม่พ้น เรื่องทำเล ยิ่งฮิตเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าทั้งโครงการขายหมดภายใน 1 ปี จะแจ่มมาก และควรผ่าน EIA แล้วด้วยนะ อีกทั้งห้องที่จองก็ต้องมีความน่าสนใจเหมือนกัน พยายามเลือกชั้นเลือกวิวให้ดี ห้องมุม วิวเมืองชั้นสูง ประมาณนี้
ถัดไป ราคาต้องไม่สูงจนเกินไปนัก เพื่อไม่ให้กำไรแพงตามไปด้วยพลอยทำให้ขายยาก และที่สำคัญคือ หูตาต้องเป็นสับปะรด ที่ไหนเปิดขายอะไรเมื่อไหร่อย่างไร ต้องรวดเร็วไม่งั้นห้องดีๆ ไปหมด ยิ่งถ้ามีคอนเนคชั่นในวงการอสังหาฯ ด้วยจะดีมาก เพราะได้รู้ว่าโครงการไหนจะมาเมื่อไหร่ หรือมีใครอยากซื้อคอนโด เป็นต้น
ข้อเสีย มีความเสี่ยงสูงพอสมควร ต้องแข่งกับเวลา มองเกมให้เป็นมองให้ขาด เพราะถ้าขายไม่ออกเลือกไม่ดีอาจมีขาดทุนยับ
2. การลงทุนระยะยาว
สามารถ แบ่งการลงทุนนี้ ออกเป็น 2 แบบ ข้อแรกเป็น การปล่อยขายหลังทำการโอนเสร็จเรียบร้อย ซึ่งจะต้องทิ้งช่วงการขายไปสัก 2-3 ปี เพื่อให้ที่ดินราคาขึ้น มีความเจริญมากกว่าเดิม ทำให้โครงการขึ้นราคาสูงตามไปด้วย แต่ทำเลก็ต้องน่าสนใจ รวมไปถึงสภาพโครงการและตัวห้อง และเลือกเวลาขายให้ถูกดูว่าช่วงนั้นๆ เศรษฐกิจเป็นยังไง เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
ข้อสองเป็นการปล่อยเช่า เพื่อหวังเงินสด เป็นการสร้างรายได้ในระยะเวลานานๆ ข้อดีคือมีความปลอดภัย มีความมั่นคง ได้เงินอย่างสม่ำเสมอกำไรต่อเนื่อง นำไปสู่ Passive Income ที่มั่นคง โดยเราต้องเลือกโลเคชั่นที่ต้องสะดวกสบาย ใกล้คมนาคม BTS หรือ MRT ใกล้แหล่งงาน สำนักงานออฟฟิศ สถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
ขอบคุณภาพ : rawpixel
ทั้งนี้ควรเลือก กู้ด้วยจำนวนเงินน้อยที่สุด ดูดอกเบี้ยไม่ให้แรง คำนวณแล้วต้องได้ Yeal มากกว่า 5% ถึงจะทำให้ได้ได้กำไร และหาผู้เช่าให้ได้อย่างต่อเนื่อง อย่าปล่อยให้ห้องวางนาน ส่วน ข้อเสีย มากับความวุ่นวาย ต้องคอยดูแลรักษาห้องให้ใหม่อยู่เสมอ บางครั้งผู้เช่าไม่รักษาของ เงินที่มัดจำไม่พอ ก็ทำให้เราขาดทุนได้อีกด้วย แต่ถ้าควบคุมได้ดี เรายิ้มรับเงินสบายๆ เลย
ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนระยะสั้น หรือระยะยาว ก็ต้องศึกษา ไตร่ตรองให้ดีว่าเราเหมาะแก่การลงทุนแบบไหน ถ้าเป็นมือใหม่การลงทุนระยะสั้นต้องคิดให้ถี่ถ้วนเลยล่ะ เดี๋ยวจะพลาดเอาได้ง่ายๆ สำหรับผู้เชี่ยวชาญก็อย่าประมาท เพราะล้มมาก็มาก แต่ถ้ามั่นใจแล้วก็ลงสนาม พร้อมเก็บกำไรกันได้เต็มที่!!
ขอบคุณภาพ : beloandco
กฎแรงดึงดูด กฎแห่งการกระทำ กฎอะไรนักหนา
2018-02-05
ข้อควรรู้ก่อนซื้อบ้านมือสองจาก “กรมบังคับคดี”
2024-04-23
เปิดวิธีติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ตอบโจทย์คนใช้รถไฟฟ้า
2024-09-25
กู้ซื้อบ้านไม่ผ่าน แก้ได้ยังไง
2020-01-09
4 Key Point Lighting เทคนิคจัดระยะโคมไฟในครัวคอนโดอย่างไร ให้กลายเป็นอีกหนึ่งมุมโปรดในวันหยุด
2022-08-11
ชอบการลงทุนอสังหา เพราะที่นี่เลย เข้าใจง่าย
บทความดีๆ หาอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ ชอบมากๆ
อ่านง่ายดีค่ะ
ใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย รู้เรื่องดีค่ะ
ชอบมากค่ะ อ่านๆฟรีด้วย
ได้ความรู้มากๆเลยครับ