ดีเวลอปเปอร์ฟันธง กำลังซื้อ-ลงทุนพุ่ง รับตั้ง ‘ประยุทธ์ 2’ ชัด

แผนจัดตั้งรัฐบาลประยุทธ์ 2 นิ่ง เข็นบิ๊กโปรเจ็กต์ กระตุ้นเศรษฐกิจ ดีเวลอปเปอร์ ขานรับความเชื่อมั่นครึ่งปีหลังเรียลดีมานด์-กลุ่มลงทุนกลับมา ลุยปักหมุดโครงการต่อ จัดแพ็กเกจ-ทำเล ชิงลูกค้า จากหลายตัวแปรเศรษฐกิจ, มาตรการรัฐ ที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อที่อยู่อาศัย แต่เชื่อว่าผู้ประกอบการทุกรายต่างเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ตลาดอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าจับตามองที่จะเป็นปัจจัยบวกเข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นและบรรยากาศการซื้อขายอสังหาฯ ในครึ่งปีหลัง นั่นคือ ความชัดเจนทางการเมือง ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการดึงลูกค้าทั้งเรียลดีมานด์และนักลงทุนให้กลับสู่ตลาดได้อีกครั้ง

ประกอบกับแผนการจัดตั้งรัฐบาล และการฟอร์มทีมดูแลด้านนโยบายเศรษฐกิจของประเทศอย่างชัดเจน โดยคาดการณ์อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ ที่จะเข้ามากระตุ้นภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศให้กลับมาเติบโตอีกครั้ง

นายวิทการ จันทวิมลรองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บมจ.เอพี (ไทยแลนด์) สะท้อนว่า การจัดตั้งรัฐบาล มีความชัดเจนขึ้น การเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานรัฐ, โครงการขนาดใหญ่ที่ต้องเร่งผลักดันให้ขับเคลื่อนต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ประกอบการ มีความมั่นใจ โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นทีมที่น่าเชื่อถือ มีความแข็งแกร่งสามารถนำพาการเติบโตของเศรษฐกิจและกำลังซื้อให้ฟื้นกลับมาอีกครั้ง ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการต้องปรับตัว โดยเฉพาะการพัฒนาโปรดักต์ โฟกัสทำเลเฉพาะกลุ่ม ให้ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้สามารถปิดการขายได้เร็ว

“แม้ภาพรวมของธุรกิจอสังหาฯ ครึ่งปีแรกจะมีหลายปัจจัยทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวหรือมาตรการควบคุมภายในประเทศที่กระทบบรรยากาศการซื้อขาย แต่เอพีเชื่อว่าดีมานด์ลูกค้าที่มองหาที่อยู่อาศัยยังมีอยู่ แต่เป็นดีมานด์ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น “โลเกชัน” “แบบบ้าน” และ “แพ็กเกจราคา” ต้องใช่ถึงตัดสินใจซื้อ ดังนั้น ความท้าทายของผู้ประกอบการอสังหาฯ ในวันนี้คือการพัฒนาทั้งรูปแบบและแพ็กเกจราคา บนพื้นฐานความต้องการจริงและความสามารถในการผ่อนชำระของลูกค้า”

สอดคล้องกับบมจ.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ นายชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน ที่ออกมาระบุว่า บริษัทเดินหน้า พัฒนาโครงการต่อเนื่อง ตาม เป้าหมายที่วางไว้ เพราะ เชื่อว่ากลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อจริงหากต้องการซื้อ เขาก็ซื้อ

“อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของตลาดอสังหาฯ ยังคงมีอยู่ ทั้งจากปัจจัยภายในประเทศและภายนอกประเทศ โดยบริษัทรับทราบและคอยติดตามสถาน การณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมปรับแผนธุรกิจหากมีความจำเป็นเพื่อรักษาเสถียรภาพในระยะยาวของบริษัท ทั้งนี้แผนธุรกิจทั้งหมดของบริษัทนั้น ยังคงสนับสนุนการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเน้นยํ้าการเป็นผู้นำในตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในประเทศไทย 

พร้อมทั้งยังคงรักษาวินัยทางการเงินไว้อย่างเข้มงวดโดยจะรักษาอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนไว้ที่ 1 เท่า เป็นเป้าหมายระยะยาว และเราต้องมั่นใจว่าการเติบโตของบริษัทจะไม่เพิ่มความเสี่ยงซึ่งมีผลกระทบต่อความมั่นคงของบริษัทในระยะยาว

ขณะค่ายศุภาลัย นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ มองว่า ต้องพัฒนาสินค้าให้ตรงกับเรียลดีมานด์ เชื่อว่า ตลาดจะไปได้ แม้ที่ผ่านมาตลาดดูดซับช้าโดยเฉพาะ คอนโดมิเนียม แต่ช่วงครึ่งปีหลัง 2562 มีความชัดเจน เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล คาดว่า สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ซื้อจะกลับมา

สำหรับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่เร็วขึ้นนางนลินรัตน์ เจริญสุพงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัสพรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด มองว่า น่าจะช่วยให้การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจเป็นไปได้เร็วกว่านี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็จะได้รับผลดีจากนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่น่าจะเกิดขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดใหม่ๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการที่ตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจน ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่ผู้พัฒนาต้องให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ หลายโครงการขายวิวแม่นํ้า ห้องเพดานสูง จอดรถเพียงพอ มีพื้นที่ทำงานส่วนกลาง 

แต่หากจะถามถึงความต้องการในอนาคตยังมีคอนโดมิเนียมสำหรับผู้สูงอายุที่เข้าถึงความต้องการของคนกลุ่มนี้จริงๆ ที่เป็นตลาดที่น่าสนใจและน่าจับตามองมาก ที่ผ่านมามีผู้พัฒนาโครงการน้อยมากที่หันมาทำสินค้าสำหรับคนกลุ่มนี้ 

ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อจริง ซื้อเพื่ออยู่อาศัยจริงและเข้าใจถึงความต้องการในระยะยาวของตนเองมากที่สุด หรือคอนโดฯสำหรับคนเลี้ยงสัตว์ ที่ให้ความสำคัญของการใช้ชีวิตและคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยงใกล้เคียงกับคุณภาพของเจ้าของห้องเอง

จากสถานการณ์ตลาดที่น่ากังวลตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันด้วยหลายปัจจัย คาดจะมีทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีทั้งในแง่ยอดขายและการโอนกรรมสิทธิ์เนื่องจากที่ผ่านมาซัพพลายส่วนใหญ่ที่เข้าสู่ตลาด อยู่ในระดับราคาสูง 1 แสนบาทต่อตารางเมตร ซึ่งประจักษ์แล้วว่าไม่ตรงกับดีมานด์ความต้องการของลูกค้า และไม่สามารถหวังพึ่งกำลังซื้อต่างชาติและนักเก็งกำไรได้ต่อไปอีก 

ขณะที่ปัจจัยเรื่องกำลังซื้อถดถอยจากภาวะเศรษฐกิจนั้น คาดหวังให้ภาคการเมืองเร่งจัดตั้งรัฐบาล เพื่ออัดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ โดยเฉพาะการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รวดเร็วขึ้น น่าจะมีส่วนช่วยที่ดี ทั้งนี้ คาดตลอดทั้งปี 2562 ตลาดน่าจะติดลบ 8-10%

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 2562บริษัทเตรียมเปิดโครงการ
ใหม่เพิ่มอีก 22 โครงการ มูลค่ารวม 2.1 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดฯ 3 โครงการ และ โครงการแนวราบ 19 โครงการ 

ทำเลกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดสัดส่วนใกล้เคียงกัน ซึ่งมั่นใจว่าการเปิดตัวโครงการในกลุ่มแนวราบจำนวนมากนั้น จะสามารถช่วยผลักดันให้ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นเรียลดีมานด์ ไม่ได้รับผลกระทบจาก LTV และภาวะเศรษฐกิจ

“ตลาดปีนี้ไม่บวก และหวังให้เป็นลบน้อยที่สุด แต่หากรัฐบาลตั้งหลักได้ มีความต่อเนื่องโดยเฉพาะแผนงานที่เกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ ถนน ทางด่วน รถไฟฟ้าสายใหม่ น่าจะมีส่วนช่วยได้อยู่มาก” นายไตรเตชะ กล่าว

ขอบคุณข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thansettakij.com/content/404535