Niche MONO รามคำแหง 0 เมตรจาก MRT หัวหมาก ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัยแต่นี่คือแหล่ง Healthy Lifestyle ยุคใหม่ย่านรามคำแหง

 

ผมเคยทำแต่งาน จนวันนึงไม่สบายต้องไปหาหมอ เพราะเจ็บคอและเป็นหวัดแทบจะทุกเดือน หมอให้ยามาทานแต่อาการก็ยังเรื้อรัง ไม่เคยหายขาดซักที จนมีเพื่อนผมคนนึง บอกว่า ลองไปออกกำลังสิ มันช่วยรักษาได้ ซึ่งในความคิดแรก ผมไม่เชื่อเลย ว่าการออกกำลังกายมันจะไปช่วยรักษาโรคได้ยังไง แต่ก็ตัดสินใจลองดูด้วยการออกไปวิ่งซักวัน

 

เชื่อไหมครับ พอเอาเข้าจริงๆ ในกรุงเทพมันหาสถานที่ดีๆให้วิ่งได้แค่ไม่กี่ที่เอง ซึ่งเมื่อผมได้ลองไปดู และตั้งใจทำซักอาทิตย์นึง มันอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน จากนั้นมันเหมือนเสพติดครับ วันไหนไม่ได้วิ่งมันเหมือนไม่สดชื่น ทั้งที่ควรจะเหนื่อย พอทำซัก 2-3 เดือน อาการป่วยหายเป็นปลิดทิ้งเลย ทั้งที่เคยทานยามาเป็นปีๆก็ไม่หาย 

 

นั่นทำให้ผมรู้เลยว่า คนเราต้องการออกกำลังกายจริงๆ มันมีประโยชน์มากๆ และ สิ่งที่ทำให้เราออกกำลังกายได้ดีและต่อเนื่องก็คือ สถานที่ครับ ซึ่งนั่นทำให้เวลาผมจะตัดสินใจที่อยู่อาศัย ปัจจัยสำคัญที่นอกจากการเดินทางแล้ว ต้องตอบโจทย์เรื่องการออกกำลังกายแบบจริงๆจังด้วย ไม่ใช่แค่ทำแค่เล็กๆ เอาไว้ประดับสวยๆ 

 

 

สำหรับสายเฮลตี้อย่างผม ที่มีงานอดิเรกคือการรีวิวคอนโด ผมมักเห็นหลายคอนโดชูจดขายเรื่องโลเคชั่นและส่วนกลางหรูๆ เอาจริงๆ ผมยังเคยคิดว่า ส่วนกลางที่หรูๆใครมันจะไปหรูได้ทุกวัน น่าจะมีคอนโดที่จัดเต็มเรื่องพื้นที่สำหรับคนชอบออกกำลังกายบ้าง ผมว่าน่าจะมีลูกค้าเยอะแน่ๆ เพราะเวลาผมไปวิ่ง ผมเห็นคนมาวิ่งเยอะมากๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่

 

ในที่สุด ผมก็ได้เจอโครงการที่ว่าครับ กับโครงการใหม่จาก Sena Hankyu Development แห่งแรกบน ถ.รามคำแหงพื้นที่สีเขียว Facilities ที่ให้คุณ 'ใช้ชีวิต Active' ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เดินทางสบาย เข้าเมืองง่าย ตอบโจทย์ Lifestyle คนรุ่นใหม่ ต้องการทั้ง 'พื้นที่ส่วนตัว' และส่วนกลางขนาดใหญ่ … จงใช้ชีวิตอย่างที่ชอบ ในเวลาที่ใช่ สเปคยูนิตจัดเต็ม ราคาจับต้องไม่ยาก แถมติดสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มอีกด้วย !

 

Niche MONO Ramkhamhaeng

นิช โมโน รามคำแหง

 

โปรเจกต์แห่งปีจาก Sena Development บนคอนเซ็ปต์ ‘Live A Healthy Lifestyle’ สุขภาพดี ชีวิตมีความสุข ประกอบด้วยคอนโดฯ High-Rise 2 อาคาร + Low-Rise 3 อาคาร (1,698 ยูนิต) บนพื้นที่กว่า 14 ไร่ พร้อมส่วนกลางขนาดมหึมา ‘Sport Village’ เสมือนมี ‘ศูนย์กีฬาครบวงจร’ แบ่งพื้นที่ตาม ‘Heart Rate Zone’ ทั้ง Indoor + Outdoor ให้คุณสามารถดูแลตัวเองตลอด 24 ชั่วโมง

 

ตั้งอยู่บนทำเลแห่งอนาคต ‘ถ.รามคำแหง’ เดินทางเข้าเมืองสะดวก ใกล้สถานที่สำคัญหลายแห่ง สิ่งอำนวยความสะดวกเพียบ นอกจากนี้ยังติดสถานี MRT สายสีส้ม (หัวหมาก) เพียง 1 สถานีจาก ‘ลำสาลี อินเตอร์เชนจ์’ จุดตัดร่วมสายสีเหลือง เปิดใช้งานช่วงปี 2564 ครอบคลุมเขต ‘กรุงเทพตะวันออก’ ไม่ต้องทนรถติดอีกต่อไป

 

ด้าน Location คงไม่ต้องอธิบายเยอะครับ แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย (1.7 กม.), ม.รามคำแหง (2 กม.), สถาบัน NIDA (2.2 กม.) ฯลฯ จึงมีนักศึกษา บุคลากรอาศัยรอบๆ ค่อนข้างเยอะ เช่นเดียวกัน คนทำงานในเมือง (CBD) หลายคนชอบอยู่ ‘หน้าราม’ เพราะเดินทางง่าย มี ‘เรือแสนแสบ’ เป็นทางเลือก นอกจากทางรถ (+รถไฟฟ้า ในอนาคต) แถมค่าครองชีพไม่แพง เทียบกับอาศัยในเมือง

 

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว ใช้เส้นทาง ถ.รามคำแหง เป็นหลัก สามารถลัดเลาะ ซ.รามคำแหง 32-40 ออก ถ.หัวหมาก, ถ.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ทั้งนี้ การจราจรค่อนข้างติดขัดช่วง Rush Hour แต่ถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จรับรองว่าสะดวกสบายสุดๆ เลยครับ

 

แหล่งช็อปปิ้งเรียกว่าล้อมเลยครับ ทั้ง The Mall บางกะปิ, Makro ลาดพร้าว - ตะวันนา, Tesco Lotus, ตลาดบางกะปิ ฯลฯ หรือตลาดนัด กกท. มีของกินท้องถิ่น (โดยเฉพาะอาหารใต้) เยอะเหมือนกัน

 

วันนี้สำนักงานขายและห้องตัวอย่างพร้อมแล้ว ผมไม่พลาดที่จะพาไปชมกันเลยครับ สำนักงานขาย (Sale Gallery) Niche MONO รามคำแหง อยู่ระหว่าง ซ.รามคำแหง 36 และรามคำแหง 36/1 สังเกตง่ายจากระยะไกลครับ ทั้งนี้ควรขับขี่อย่างระมัดระวัง เพราะบริเวณพื้นที่กำลังก่อสร้างสถานี MRT สายสีส้มด้วย 

 

การออกแบบสำนักงานขายทำได้เข้ากับแนวคิดของโครงการเลยครับ เห็นแล้วรู้สึก active มากๆ

 

ข้างๆสำนักงานขาย จะเห็นว่าโครงการเริ่มก่อสร้างแล้ว ดำเนินการโดย ‘แสงฟ้าก่อสร้าง’ พาร์ทเนอร์หลักของ Sena Development นั่นเอง เริ่มก่อสร้างปลายปี 2562 แล้วเสร็จประมาณต้นปี 2565 

 

ภายใน Sale Gallery เน้นโทนสีขาว-เทา โปร่งสบายสไตล์ Modern มีโมเดลอาคารอย่างละเอียด หลังโครงการเสร็จสิ้น พื้นที่ตรงนี้จะปรับปรุงเป็น Retail Unit ครับ คาดว่าจะมีร้านค้า / ร้านสะดวกซื้อมาเปิดบริการเยอะทีเดียว

 

รายละเอียดโครงการ

ข้อดีของโครงการขนาด XXL อย่าง Niche MONO รามคำแหง คือ ‘ส่วนกลางจัดเต็ม’ เยอะจนโครงการอื่นอิจฉาครับ กว้างขวางกว่า 6.5 ไร่ เลี้ยวเข้าโครงการ ด้านในเป็นพื้นที่อาศัย อาคารจอดรถแยกกันระหว่าง High-Rise, Low-Rise คิดเป็น 52% ของยูนิตทั้งหมด

 

ด้านหน้าคือ Sale Gallery ในปัจจุบันซึ่งในอนาคตจะเป็นพื้นที่ของร้านต่างๆ

 

Main Lobby

โถงอาคาร High-Rise แบ่ง Lobby เป็นอาคาร A-B เพดานสูง (High Ceiling) 3.5 เมตร ซอยฟังก์ชั่นรองรับความต้องการลูกบ้าน เช่น Social Lounge สำหรับพูดคุยทั่วไป, Co-Working Space | Business Room นั่งทำงาน + ประชุมอย่างเป็นส่วนตัว ซึ่งโครงการจะมีตู้ขายของอัตโนมัติ (Vending) ให้บริการด้วย

 

Sport Village (ชั้น 7)

ครอบคลุม Podium อาคาร High-Rise บริเวณชั้น 7 ทั้งหมด ประกอบด้วย Passive Pool สระว่ายน้ำเพื่อผ่อนคลาย (Leisure) เล่นระดับ พร้อมสระ Jaguzzi, Pool Deck นอนพักผ่อน ชมวิวเมืองค่อนข้างจัดเต็มเลยทีเดียว

 

อีกมุมคือ Active Pool ยาว 50 เมตร สำหรับออกกำลังกาย แบ่งสระเด็ก (Kid Pool) + Shallow Pond แช่ตัวชมวิวเมืองทิศตะวันตก

 

ถัดมาเป็น 'Fitness' หลากฟังก์ชั่นใช้สอย บนพื้นที่กว่า 650 ตร.ม. เช่น Cardio, Weight Training, Cycling, Boxing - Yoga ฯลฯ พร้อมห้อง Steam แยกชายหญิง จัดหนักชนิด Fitness จริงอายเลยครับ อลังการมากๆ

 

นอกจากนี้ยังมี Courtyard, Jogging Track ระหว่างอาคาร A-B และ Lounge + Co-Kitchen Space ให้ลูกบ้านทำกิจกรรมร่วมกัน บางคนอยากทำอาหารกลิ่นแรงหน่อยมาใช้พื้นที่ตรงนี้ได้เลย อุปกรณ์ครบทุกอย่าง

 

Greenary Area

พื้นที่รอบอาคาร Low-Rise, High-Rise ถูกจัดเป็น 'สวนสีเขียว' ขนาดใหญ่ ให้ทุกคนผ่อนคลายบรรยากาศธรรมชาติ เป็นส่วนตัว มีพื้นที่ให้ Outdoor สำหรับกิจกรรม Yoga, Jogging Track เชื่อมต่อฝั่ง High-Rise, Low-Rise และ Multi sport Court เล่นได้ทั้งบาส - ฟุตซอล

 

Sky Lounge

บนชั้นสูงสุดของอาคาร A-B โครงการจัด Sky Lounge พักผ่อนชมวิวเมือง 270 องศา ต่างกันตรงธีมตกแต่งเน้นความ Luxury (อาคาร A) หรือ Modern & Chic (อาคาร B) โดยลูกบ้านฝั่ง Low-Rise สามารถขึ้นมาใช้งานได้เช่นกัน พร้อม Rooftop Garden แบบ Stepped ลดหลั่นตามความสูง .. น่าสนใจมากๆ

 

 

โดยลูกบ้านสามารถใช้งาน Main Facilities ทั้งโครงการครับ อยู่อาคาร Low-Rise อยากใช้ Sport Village หรืออยู่ High-Rise อยากว่ายน้ำสระ Low-Rise ก็ทำได้ เป็นข้อดี ลดความแออัดของ Facilities เปลี่ยนบรรยากาศไปในตัวด้วย

 

พาชมห้องตัวอย่าง

ยูนิตพักอาศัยขนาดใหญ่ ตามแนวคิด ‘Geofit+’ ตอบโจทย์กิจวัตรประจำวัน ปลอดภัย ใช้สอยคุ้มค่าทุกตารางเมตร เน้นอาศัยได้จริง แน่นอนครับว่า ‘ราคาจับต้องง่าย สบายกระเป๋า’ เอาใจคนรุ่นใหม่ตามหา ‘คอนโดฯ ทำเลเมือง’ อยู่เองก็ดี ลงทุนปล่อยเช่าก็ไม่ยากเย็นนัก

 

ยูนิตพักอาศัย The Niche MONOรามคำแหง มีให้เลือก 3 Type หลักคือ 1-Bedroom, 1-Bedroom Plus และ 2-Bedroom ขายแบบ Fully-Furnished แถมเครื่องปรับอากาศ, เฟอร์ฯ บิวท์อินตามหลัก GeoFit+ เพดานสูง 2.6 เมตรโปร่งโล่งครับ

 

ห้องตัวอย่าง

1-Bedroom Plus (34.9 ตร.ม.)

จาก Layout เหมาะกับอาศัย 1-2 คน เน้นพื้นที่ Living + Bedroom พอๆ กัน พร้อมห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็น 2-Bed ขนาดย่อมเยา ห้องทำงาน หรือห้องดูหนัง ฯลฯ ตามต้องการ งบ 3 ล้านเอาอยู่นะครับ ขนาดกำลังดีเลย

 

เปิดเข้ามาพบกับพื้นที่ครัว กั้นด้วยประตูบานเลื่อน สามารถทำอาหารทานเองได้ Pantry บิวท์อิน Top หินสังเคราะห์ กรุผนังกระจก ตู้เก็บของหน้าบานลามิเนต 2 ฝั่ง พร้อมที่เก็บจานแบบไฮโครลิค … ประหยัดพื้นที่มากทีเดียว มีเตาไฟฟ้า - เครื่องดูดควัน, ซิงค์ล้างจานแบรนด์ Franke ให้ทั้งหมด

 

อีกฝั่งเป็นจุดวางเครื่องซักผ้า, ตู้เย็น 2 ประตู บิวท์อินตู้เก็บของเต็มแนวด้านบน คนมีของใช้เยอะนี่หายห่วงเลย

 

ถัดมาคือส่วนนั่งเล่น บิวท์อินตู้เก็บของให้และมีพื้นที่วางโต๊ะทานอาหาร 2 ที่นั่ง, โซฟา 2 ที่นั่ง + ชั้นวางทีวีขนาดกลางๆ เหมาะกับทีวีขนาด 40-46 นิ้ว มีลิ้นชักเก็บของภายในด้วย ระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีประมาณ 2 เมตร ถือว่าเป็นระยะห่างที่พอเหมาะมีพื้นที่ให้เดินได้สบายๆ 

 

ด้านในเป็นห้องอเนกประสงค์สามารถวางเตียง DayBed ขนาดเล็ก ราวแขวน พร้อมบิวท์อินชั้นวางเพิ่มได้นิดหน่อย หรือใช้ทำเป็นห้องทำงานขนาดกำลังดีครับ

 

ห้องนอนแบ่งสัดส่วนด้วยประตูบานสไลด์ ข้อดีคือทำให้ห้องดูโปร่งขึ้น ไม่ทึบไม่อึดอัด แต่คงความเป็นส่วนตัว บิวท์อินเตียงขนาด 5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้า 2 ฝั่ง และหน้าต่างบานใหญ่ช่วยให้ห้องโปร่งโล่งขึ้นได้อีก ส่วนนี้เป็นทางผ่านไปยังส่วนระเบียง

 

เตียงที่ทางโครงการให้เป็นเตียงแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถเก็บข้าวของเครื่องใช้ได้พอสมควรของเยอะยังไงก็ไม่ต้องกลัวห้องรก

 

ต่อมาเป็นระเบียงด้านนอก ติดตั้งก๊อกน้ำซักล้างให้ มีพื้นที่พอตากผ้าได้สบายๆ

 

ห้องน้ำแบ่งฟังก์ชั่น สามารถทำธุระส่วนตัว - อาบน้ำพร้อมกันได้ ตรงกลางอ่างล้างหน้า มีธรณีผนังวางของใช้ส่วนตัว สุขภัณฑ์ใช้ Kohler ครับ

 

ห้องตัวอย่าง

1-Bedroom Plus (38 ตร.ม.)

การจัด Layout ต่างจาก 1-Bedroom Plus ก่อนหน้าตรงแยกครัวต่างหาก พื้นที่นั่งเล่นเพิ่ม ที่สำคัญคือ เป็นห้องมุม + ผนังไม่ติดใครเลย เหมาะกับอาศัย 1-2 คน เน้นความ Private และทำเป็น 2-Bedroom ขนาดย่อมๆ ได้ด้วย

 

เปิดเข้ามาพบกับพื้นที่นั่งเล่นครับ บิวท์อินตู้เก็บของ-รองเท้า, โต๊ะอาหาร 2 ที่นั่ง โซฟา + ชั้นวางทีวี คล้ายกับห้อง 1 Bedroom แบ่งพื้นที่ใช้สอยกันได้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว

 

ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ โครงการให้ DayBed ขนาดเล็ก ใช้ทำเป็นห้องนอน (2) ได้ สามารถบิวท์อินราวแขวน - ชั้นวางของเพิ่มเติม หรือจัดเป็นห้องทำงานตามต้องการ

 

ห้องครัวแยกต่างหากเลยครับ พื้นที่กว้างขึ้น มีหน้าต่างระบายอากาศ ทำอาหารทานเองสบายๆ Pantry บิวท์อินครบ ตู้เก็บของด้านบน Top หินสังเคราะห์ พร้อมเตาไฟฟ้า - เครื่องดูดควัน Franke และพื้นที่วางตู้เย็นอีกฝั่ง ส่วนนี้สามารถทะลุไปยังส่วนระเบียง

 

ระเบียงมีประตูเปิดออกด้านนอก วางเครื่องซักผ้า พื้นที่ซักล้าง ตากผ้า เก็บของใช้กว้างพอสมควรเลยครับ

 

ห้องนอนหลัก วางเตียงขนาด 5 ฟุต, บิวท์อินตู้เสื้อผ้า 2 ชุด พร้อมห้องน้ำในตัว ขนาดห้องมีพื้นที่พอเหมาะ มีพื้นที่รอบๆ พอให้เดินได้

 

ให้เตียงแบบมัลติฟังก์ชั่นอีกเช่นเคย เพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้อีก

 

ห้องน้ำสามารถเชื่อมเข้าทางห้องนอนหลักได้เลย สเปคเหมือนกับห้อง 1 Bedroom ก่อนหน้ากั้นโซนแหง โซนเปียกได้อย่างลงตัว พร้อมสุขภัณฑ์แบรนด์ Kohler

 

ห้องตัวอย่าง

2-Bedroom (51 ตร.ม.)

ยูนิต 2-Bedroom (2 ห้องนอน + 1 ห้องน้ำ) เพียงชั้นละ 1 ยูนิต ถือว่าเป็น Rare Unit ได้เลยนะเนี่ย ฟังก์ชั่นครบ ห้องมุม เป็นส่วนตัว เหมาะกับครอบครัวขนาดเล็ก 2-3 คน งบประมาณราว 4-4.5 ล้านบาท

 

เปิดเข้ามาพบกับห้องซักล้างด้านขวามือ มีบิวท์อินชั้นวาง - ประตูปิดเปิดให้ครับ

 

ด้านในคือพื้นที่นั่งเล่นสามารถจัดโต๊ะทานอาหาร 3-4 ที่นั่ง พร้อมโซฟาพร้อมที่วางเท้า ชั้นวางทีวี และตู้เก็บของอเนกประสงค์ ด้านนอกเป็นระเบียงขนาดเล็ก พอตากผ้าได้ครับ

 

พื้นที่นั่งเล่นกว้างพอสมควรเลยครับ มีระยะห่างจากทีวีกว้างพอสมควร มีพื้นที่ใช้สอยอีกเพียบ แถมยังอยู่ติดกับหน้าต่างผ่อนนั่งผ่อนคลายพร้อมเทควิวภายนอกได้อีกด้วย ส่วนนี้สามารถเชื่อมไปยังระเบียงห้องได้

 

ต่อมาเป็นส่วนระเบียงมีพื้นที่ใช้สอยเยอะพอสมควร สามารถใช้ตากผ้าได้พอสมควร

 

พื้นที่ครัวบิวท์อิน Pantry แบบ L-Shape มีพื้นที่ให้เตรียมอาหาร ปรุงอาหาร ได้สบายๆ ติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ พร้อมจุดวางตู้เย็น 2 ประตูและไมโครเวฟ

 

ห้องนอนหลัก (Master) กั้นผนังทึบเป็นส่วนตัว วางเตียงซ่อนลิ้นชักเก็บของขนาด 5 ฟุต, ตู้ข้างเตียง แถมยังได้กระจกเข้ามุมเทควิว 2 ฝั่ง เรียกได้ว่านอนผ่อนคลายเทควิวข้างนอกได้ฟินดีจริงๆ

 

ถัดมาเป็นห้องแต่งตัวขนาดพอดี พร้อมตู้เสื้อผ้าต่างหากเรียกว่าเป็นการแยกโซนแต่งตัวได้ลงตัวกับห้องจริงๆ ครับ

 

ส่วนห้องนอนรอง มีพื้นที่วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต, ตู้เสื้อผ้าขนาดเล็ก บิวท์อินชั้นวางของเพิ่มตามต้องการ เหมาะกับทำเป็นห้องนอนลูกๆ หรือห้องนอนรับแขกได้สบายๆ ครับ

 

และห้องน้ำกลาง ยังคงแบ่งเป็น 2 ฟังก์ชั่นเช่นเดิม ขนาดกว้างกว่า 1-Bedroom Plus เล็กน้อยครับ

 

สรุป

 

ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ตามจังหวะหัวใจเรียกร้อง Niche MONO รามคำแหง สุดยอดคอนโดฯ แห่งเดียวบน ถ.รามคำแหง พร้อมส่วนกลางจัดเต็มถึง 6.5 ไร่ สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย Indoor - Outdoor ตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บนทำเลศักยภาพสูง แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ ศูนย์การค้า และรถไฟฟ้า 2 สาย

 

ยูนิตพักอาศัยออกแบบตามหลัก GeoFit+ บิวท์อินเฟอร์ฯ เพิ่มพื้นที่ใช้สอย เหมาะกับทุกเพศทุกวัย จัดวาง Layout สอดคล้อง Lifestyle คนรุ่นใหม่ เน้นยูนิต 1-Bedroom, 1-Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้น 28 ตรม. อาศัยได้จริงไม่อึดอัด ที่น่าสนใจคือ Fully-Furnished ทุกยูนิตครับ จะอยู่เองหรือปล่อยเช่า ประหยัดค่าแต่งห้องมากทีเดียว 

 

Niche MONO รามคำแหง ตอบโจทย์คนทำงาน Gen Y-Gen Z ต้องการคอนโดฯ พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ บนทำเลคุ้นเคย เดิมเคยเช่าอพาร์ทเมนท์ - หอพัก พอมีฐานะการงานมั่นคง ต้องการชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น … นี่คือคำตอบครับ 

 

หรือลงทุนปล่อยเช่า มี Demand กลุ่มนักศึกษา - คนทำงาน 1-Bedroom เรทเช่าประมาณ 9,000-12,000 บาท คาดหวัง Yield ประมาณ 4.5-5% ไม่รวม Capital Gain หลังรถไฟฟ้าเปิดบริการ (ปี 2564-2566) จะเป็นผลบวกกับโครงการรอบด้าน

 

 

สนใจเข้าชมโครงการ The Niche MONO รามคำแหง ลงทะเบียนได้ที่นี่ครับ

http://bit.ly/2Yrlh7X