News
icon share

‘ยักษ์ญี่ปุ่น’ แห่ร่วมทุน รับลูกค้าต่างชาติโต

LivingInsider Report 2019-08-05 10:10:03
‘ยักษ์ญี่ปุ่น’ แห่ร่วมทุน รับลูกค้าต่างชาติโต

 

ทุนยักษ์ญี่ปุ่น รุกลงทุนอสังหาฯเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลาดไทยยังไม่หลุด กฎหมายวัฒนธรรม เอื้อตลาดพรีเมียม สุขุมวิท-ทองหล่อ เติบโตรับชาวต่างชาติ

 

นายฮิซาชิ คิตะมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ลิสต์ กรุ๊ปฯ ในฐานะผู้พัฒนาและตัวแทนซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ทุกรูปแบบชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น กล่าวหลังจากล่าสุดร่วมทุนกับบริษัท ฮาบิแททกรุ๊ป จำกัด ภายใต้ชื่อ บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป ลิสต์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ8” และโครงการ “วาลเด้น ทองหล่อ 13” มูลค่าโครงการรวมกว่า 2.8 พันล้านบาท ในสัดส่วนการถือหุ้น 38:62 ว่า 

 

ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนนอกประเทศญี่ปุ่น ใน 5 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทย คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 25,000 ล้านเยน ขณะที่การลงทุนในประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันมีจำนวน 6 โครงการ มูลค่า 20,000ล้านเยน 

 

แต่ขณะนี้มองว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนดีที่สุด เนื่องจากมีความเสี่ยงน้อยที่สุด และมีความปลอดภัยมากที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แต่ในเร็วๆนี้ก็ยังสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนามด้วย แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

 

“อสังหาฯในกรุงเทพฯยังมีความน่าสนใจลงทุนมาก โดยเฉพาะทำเลทองหล่อ ซึ่งอาจจะมีแผนลงทุนในระยะกลาง-ยาวได้ และมองว่าการลงทุนในประเทศไทยยังมีความโปร่งใส ระบบการเงินน่าเชื่อถือ และเรื่องกฎหมายมีความเป็นสากล มากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

‘ยักษ์ญี่ปุ่น’ แห่ร่วมทุน รับลูกค้าต่างชาติโต

 

ด้านนายยาสุชิ ยามาดะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ ลิสต์ โฮลดิ้ง ประจำประเทศสิงคโปร์กล่าวเสริมว่า บริษัท ซอเธอบี้ส์ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียลตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ดำเนินธุรกิจตัวแทนซื้อขายอสังหาฯที่มีเครือข่าย 990 แห่ง 72 ประเทศทั่วโลก มียอดขายล่าสุด 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะช่วยสนับสนุนการขายทั้ง 2 โครงการ ขยายไปยังกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้อย่างดี เนื่องจากเป็นโปรดักต์ระดับบน ใจกลางเมือง ราคา 1.8-2.6 แสนบาทต่อตร.ม. ที่ยังมีดีมานด์จากผู้ซื้อเพื่อลงทุนและอยู่อาศัยในอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง

 

ด้านบริษัท เคฮัง เรียลเอสเตท จำกัด ในกลุ่มเคฮัง โฮล ดิ้งส์ ดำเนินธุรกิจหลายประเภทในประเทศญี่ปุ่น เช่น อสังหาริมทรัพย์ รถไฟฟ้าสายเคฮัง ธุรกิจโรงแรมและการพักผ่อน การค้าปลีก ซึ่งมีรายได้รวมทั้งเครือเมื่อปีล่าสุดอยู่ที่ 3.26 แสนล้านเยน หรือประมาณ 9.3 หมื่นล้านบาท 

 

ล่าสุดประกาศกำลังเดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “ซิมมิส สุขุมวิท 61” มูลค่า 1.2 พันล้านบาทราคาเริ่มที่ 7.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับบริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์)ฯ ต่อเนื่องเป็นโครงการแห่งที่ 2 หลังจากเห็นความสำเร็จในยอดขาย 80% ของโครงการแรก “เดอะฟายน์ แบงคอก ทองหล่อ-เอกมัย” 

 

โดยนายโยชิฮิโกะ มาเดะ ประธานกรรมการบริหาร ระบุว่าที่ผ่านมา เคฮังกรุ๊ป ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดแถบเอเชียอย่างต่อเนื่อง โดยวางเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศ ณ ปี 2570 ที่ 5 หมื่นล้านเยน หรือกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท ขณะนี้เดินหน้าลงทุนแล้ว 3.3 พันล้านเยน เช่น โครงการกอล์ฟวิลล่าในกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย และโครงการร่วมกับ บริษัท ซันเคียว โฮม (ไทยแลนด์) จำกัด ที่จะเกิดขึ้นต่อเนื่อง

 

“ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีปัจจัยต่างๆ โดดเด่นมากที่สุดประเทศหนึ่งในอาเซียน มีความชอบวัฒนธรรมคล้ายคลึงกับคนญี่ปุ่น มีการลงทุนสะสมจากบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมหาศาล มั่นใจในการร่วมทุนกับไทยครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จ”

 

ทั้งนี้ อนาคตตั้งเป้าจะพัฒนาโครงการร่วมกันอย่างต่อเนื่องปีละ 1-2 โครงการ โดยใช้แบรนด์ Moniq, The FINE Bangkok และ SYMYS เจาะตลาดเซ็กเมนต์ต่างๆ

 

ขอบคุณข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

https://www.thansettakij.com/content/406108

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider