รายการโปรด
คนที่จะกู้คอนโดหรือบ้านต้องโปรไฟล์ดีระดับนึงเลยนะ โดยดีในที่นี้หมายถึงความมั่นคงทางฐานะการเงินถึงจะทำให้กู้ผ่านได้สบาย แต่มีอีกจำนวนไม่น้อยเลยที่ทำเรื่องกู้แล้วไม่ผ่านผิดหวังกลับมา ซึ่งเรื่องพวกนี้มันมีเหตุและผลรองรับอยู่ ว่าเพราะอะไรถึงขอสินเชื่อบ้านหรือคอนโดไม่ผ่าน
1. ธนาคารไม่ได้คิดรายได้ทั้งหมด
อย่างที่รู้กันว่าแต่ละธนาคารมีเกณฑ์การพิจารณาไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องรายได้ของผู้ขอสินเชื่อ ที่บางอันแม้จะเป็นรายได้แต่ก็ไม่ได้นำมาคิด ยกตัวอย่างเราได้เงินเดือน 20,000 บาท ไม่รวมค่าเดินทางที่บริษัทให้ต่างหากเฉลี่ยอีกเดือนละ 3,000 บาท แต่ประเด็นคือบางธนาคารจะไม่นับรายได้ตรงจุดนี้ เพราะถือว่าไม่แน่นอนพอ เลยจะคิดแค่ 20,000 บาท ทำให้วงเงินในการกู้น้อยลงไปอีก
ขอบคุณภาพ : hiring.workopolis
2. บริษัทที่ทำก็มีผล
ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ ๆ มีชื่อเสียงก็ตัดข้อนี้ไปได้เลย แต่ถ้าเป็นบริษัทเล็ก ๆ ดูแล้วไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีการจ่ายประกันสังคม จ่ายเงินเดือนตรงบ้างไม่ตรงบ้าง รวมถึงการที่บริษัทไม่ได้จ่ายเงินเดือนพนักงานแบบ Payroll ยังใช้การจ่ายแบบเป็นเช็คอยู่ อันนี้ก็น่าห่วงว่าธนาคารจะไม่นับเป็นรายได้เลยด้วยซ้ำ
3. เปลี่ยนงานเป็นว่าเล่น
ถึงแม้จะได้งานตั้งแต่เรียนจบ แต่ว่าระยะเวลาในการทำงานของแต่ละบริษัทไม่ถึงปี เปลี่ยนมา 4-5 บริษัท แถมบริษัทใหม่ที่ทำก็ยังอยู่ในช่วงโปร ธนาคารเค้าก็ไม่มั่นใจในตัวเราแน่นอน ไม่อย่างนั้นธนาคารส่วนใหญ่คงไม่กำหนดว่า อายุงานอย่างน้อยต้องผ่านโปรหรือขั้นต่ำ 6 เดือน แต่บางธนาคารก็อนุโลมให้รวมอายุงานจากบริษัทที่เก่าได้
4. เงินออมไม่เคยเก็บ
ประเด็นนี้อาจไม่สำคัญเท่าไหร่ ถ้าเรามีรายได้สูงและไม่มีหนี้สินหรือรายจ่ายเยอะ ขณะเดียวกันถ้าเรามีรายได้ไม่มาก แถมมีเท่าไหร่ก็ใช้ก็ช้อปหมด จากเงินเดือนกลายเป็นเงินทอนในพริบตาอันนี้น่าห่วง แต่ถ้ามีเงินออม ธนาคารก็มองว่ามีความรับผิดชอบเรื่องเงินมากพอ จึงอาจจะให้กู้ผ่านก็เป็นได้ ซึ่งก็ต้องออมเงินมาไม่ต่ำกว่า 1 ปี แต่มีแค่หลักพันหรือหลักหมื่นต้น ๆ ก็ไม่ไหวนะ เพราะจะไม่มีผลต่อการพิจารณาของธนาคารเลย
5. บัตรเครดิตทำพิษ
ใครที่มีบัตรเครดิตอยู่ในมือจะกี่ใบหรือใบเดียวก็ตามแต่ ถ้ามีหนี้ในบัตรเกิน 40% ของรายได้ แถมบางคนจ่ายแต่ขั้นต่ำไม่เคยจ่ายเต็ม บางคนจ่ายช้า เป็นปัญหาแน่นอน เพราะทางธนาคารนำมาคิดเป็นรายจ่าย เป็นอันดับต้น ๆ เลย ยิ่งถ้ามีประวัติค้างชำระด้วยแล้วโอกาสการกู้ผ่านแทบเป็นไปไม่ได้
6. มีหนี้ก้อนโตอยู่ในมือ
หนี้ที่ว่าก็อย่างเช่น การผ่อนรถ หรือการเปิดร้านทำธุรกิจเล็ก ๆ ที่ต้องมีรายจ่าย ชัวร์อยู่แล้วว่าธนาคารต้องนำมาหักลบจากรายได้ด้วย ไม่ต่างจากบัตรเครดิต ซึ่งพอส่วนใหญ่หลายคนที่ติดการผ่อนรถและมีเงินเดือนไม่มาก ทำให้มีความเป็นไปได้สูงสุด ก็แค่กู้ได้แต่ไม่เต็มวงเงินที่ต้องการ หรือกู้ไม่ผ่านเลยก็มี แนะนำว่าให้ผ่อนรถให้หมดก่อนจะมีความเป็นไปได้ที่สูงกว่าในการขอสินเชื่อคอนโดหรือบ้าน
ขอบคุณภาพ : rawpixel
7. ผู้กู้ร่วมก็ไม่ช่วย
ถ้าเราคนเดียวไม่สามารถกู้ได้ ดังนั้นการหาผู้กู้ร่วมก็เป็นหนึ่งในทางออกที่ดี แต่ไม่ใช่ว่าใครจะเป็นผู้กู้ร่วมได้ เพราะก็ต้องถูกตรวจสอบไม่ต่างจากผู้กู้หลัก และถ้าเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง เป็นฟรีแลนซ์ เป็นแม่ค้าพ่อค้าที่พกแต่เงินสดไม่เคยเดินบัญชี ต่อให้ขายดีแค่ไหนงานนี้ก็ช่วยอะไรผู้กู้หลักไม่ได้เช่นเดียวกัน
8. ราคาบ้านหรือคอนโดสวนทางกับรายได้
อย่าเลือกบ้านหรือคอนโดที่ชอบอย่างเดียวโดยไม่ได้สนว่าราคาเท่าไหร่ เพราะต่อให้อยากได้มากแค่ไหน แต่รายได้ของเราเอื้อมไปไม่ถึงทุกอย่างก็จบ จึงต้องดูที่รายได้ตัวเองก่อนว่าสามารถกู้ซื้อที่อยู่อาศัยได้ในราคากี่ล้าน และค่อยเลือกด้วยความชอบอีกที
บอกเลยว่าถ้าใครเข้าข่าย หนึ่งในแปดข้อนี้แม้เพียงข้อเดียว โอกาสที่จะได้บ้านหรือคอนโดในฝันมาครอบครองก็จะมีเปอร์เซ็นต์น้อยลง ฉะนั้นแล้วติดขัดตรงไหนก็ควรรีบแก้ให้ตรงจุด และยื่นเรื่องขอสินเชื่อให้ครบทุกธนาคารไปเลย ไม่ได้อันนี้ก็ต้องได้อันนั้นสักอัน แต่เราต้องเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยแล้วนะ
แต่งบ้านสไตล์ Nordic เห็นแล้วคลิกจนอยากแต่งตาม
2024-03-28
รวม 10 คอนโดวัยเกษียณ สำหรับคน (ตั้งใจจะ) โสดยาว
2022-11-10
คนทำอาชีพอิสระซื้อบ้านได้ไหม ต้องทำอย่างไรให้กู้ซื้อผ่าน
2024-07-31
ทำไมพื้นที่ EEC ถึงน่าจับตามองสำหรับนักลงทุน
2020-04-14
6 ข้ออ้างยอดนิยม ที่คนมักใช้เมื่อไม่กล้าลงทุน
2020-05-29
อ่านแล้ว รู้ความเคลื่อนไหวในวงการอสังหาเลยครับ ^^ ขอบคุณผู้เขียนครับ
อัพเดตเร็ว ข้อมูลตรงเว่อร์จ้าาาา
ได้ไอเดียไปแต่งห้องตัวเองหลายอย่างเลย
ห้องสวยมากๆเลยครับ
ชอบเรื่องไอเดียแต่งบ้าน ได้ความหลากหลายดีกำลังวางแพลนจะซื้อบ้านเลย เอาเรื่องไอเดียมาอีกเยอะๆนะค่ะ
น่าสนใจมากจ้า