เมธา อังวัฒนพานิช แสนสิริลุยเรดโอเชี่ยนบ้านแนวราบ

สัมภาษณ์พิเศษ  บ้านเดี่ยวตระกูล "สิริ" เป็นอีกหนึ่งอู่ข้าวอู่น้ำหลักของค่ายแสนสิริ ด้วยการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งทำให้ผู้บริโภคให้การยอมรับ "เมธา อังวัฒนพานิช" ผู้บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ ค่ายแสนสิริ ให้สัมภาษณ์เปิดมุมมองแนวโน้มไตรมาส 4/59 ตลอดจนแผนกลยุทธ์การบุกหนักโครงการแนวราบของบริษัท

- สถานการณ์บ้านเดี่ยว

ปกติดีมานด์-ซัพพลายบ้านเดี่ยวไม่ค่อยเหวี่ยงขึ้นลงแรงมาก ดีมานด์ทรงตัวปีละ 1.4-1.5 หมื่นยูนิต ครึ่งปีแรก-ครึ่งปีหลังมีดีมานด์ใกล้เคียงกัน ในช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ดีมานด์บ้านเดี่ยวมี 8,128 ยูนิต เพิ่มขึ้น 7% เทียบช่วงเดียวกันปีྲྀ เพราะมีมาตรการภาครัฐลดค่าโอนและจดจำนองช่วย ส่วนซัพพลายบ้านเดี่ยวสวนทางกันคือปรับลดลง

ถ้ามองเป็นเซ็กเมนต์ช่วง 18 เดือน (ปี 2558 ถึงครึ่งปีแรก 2559) จะเห็นได้ว่าซัพพลายบ้านเดี่ยวราคาต่ำกว่า 7 ล้านบาทค่อย ๆ ลดลง แต่บ้านเดี่ยวราคา 7-10 ล้านบาทกับ 10-20 ล้านบาท กลายเป็นสองเซ็กเมนต์ที่ซัพพลายเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ดินพัฒนาโครงการหายากและราคาสูงขึ้นทำให้บ้านมีราคาสูงขึ้นตาม

- แนวโน้มแนวราบ Q4/59

ถ้ามองย้อนกลับไปตั้งแต่ต้นปี ช่วงไตรมาส 1 จนถึงเดือนเมษายน จะเร่งขาย-โอนกันเต็มที่เพราะมีมาตรการรัฐทำให้เดือน พ.ค.-มิ.ย. ยอดขายช้าลง พอเข้าไตรมาส 3 เดือน ก.ค.ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย แต่เมื่อเข้าเดือน ส.ค.กลับซบลงมา ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร แต่จนถึงเดือน ก.ย.ก็ยังค่อนข้างซึมอยู่เหมือนเดิม

ดูมู้ดตลาดแล้ว เชื่อว่าแต่ละบริษัทต่างเตรียมตัวลงฟาดฟันกันในไตรมาส 4 นี้แทน เพราะเห็นได้ว่าขณะนี้ยอดขายแต่ละเจ้ายังอยู่ที่ 50% แสดงว่ามีแผนเตรียมตัวเปิดโครงการใหม่และหวังได้แรงส่งเพิ่มยอดขายจากส่วนนี้ในโค้งท้ายปี

สำหรับยอดขายแสนสิริรอบ8เดือนเก็บยอดขายไปได้8,000ล้านบาท จากเป้า 1.4 หมื่นล้านบาท ไตรมาส 4/59 เราเตรียมเปิดตัว 4 โครงการ มูลค่า 3,850 ล้านบาท ในเดือน ต.ค. มีทาวน์เฮาส์แบรนด์ใหม่ย่านติวานนท์, โฮมออฟฟิศ สิริสแควร์ เจริญกรุง 80, โฮมออฟฟิศ สิริอเวนิว เพชรเกษม 81 บ้านเดี่ยว บุราสิริ ย่านราชพฤกษ์ อาจเหนื่อยนิดหน่อยแต่ยังคาดว่าเป็นไปได้ตามเป้า การฟื้นตัวของตลาดยังไม่เห็นชัดเจน แต่มีความหวังว่าไตรมาส 4 เมื่อดีเวลอปเปอร์โหมเปิดตัวทำให้ตลาดคึกคักและทำให้การขายดีขึ้น

ส่วนแข่งกันดุเดือดไหม มองว่าเราทำตลาดแข่งกันมาตลอด และในกลุ่มบิ๊กแบรนด์ด้วยกันมีโปรโมชั่นการตลาดอะไรก็ทำตามได้หมด เพราะฉะนั้นการแข่งขันขึ้นอยู่กับการเลือกทำเลและโปรดักต์ตั้งแต่แรก

- โซนเด่นตลาดแนวราบ

ปีนี้แสนสิริมองว่าเป็นตลาดโซนตะวันออกมีถนนกรุงเทพกรีฑาเป็นถนนตัดใหม่ที่ช่วยสร้างดีมานด์ซึ่งบริษัทเปิดโครงการใหม่ในโซนนี้ไปแล้วคือเศรษฐสิริพัฒนาการส่วนโซนกรุงเทพฯตะวันตก เปิดตัวโครงการ เศรษฐสิริ ปิ่นเกล้า-กาญจนาฯ

โซนตะวันตกน่าสนใจเพราะมีถนนตัดใหม่คือ ถ.พระเทพ (พรานนก-พุทธมณฑลสาย 4) เปิดเชื่อมจากแยกพรานนกถึงวงแหวนกาญจนาภิเษก กับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกเพิ่งเปิดใช้เมื่อเดือน ส.ค. ทำให้โซนตะวันตกมีตัวเลือกการเดินทางเข้าเมืองสะดวกขึ้น ยิ่งในอนาคตเมื่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-ท่าพระ สร้างเสร็จจะทำให้การใช้ถนนดีขึ้น รถติดน้อยลง เป็นปัจจัยบวกให้บ้านแนวราบ

เราพบว่าดีมานด์บ้านเดี่ยวโฟกัสที่ระดับกลางและกลางบนเพิ่มขึ้นมาก ช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาดีมานด์บ้านราคา 10-20 ล้านบาทเพิ่มถึง 65% ราคา 7-10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% ทำให้แสนสิริสนใจโซนตะวันตก

- ไฮไลต์แนวราบแสนสิริ

ที่เป็นไฮไลต์เด่น ๆ คงเป็นปีหน้าเลย มีบ้านหรูย่านพัฒนาการในโครงการมีไม่เกิน 50 ยูนิต โดยมี 2-3 ยูนิตที่เป็นคฤหาสน์ไซซ์ใหญ่ ที่ดิน 1 ไร่ขึ้นไป ราคาเกิน 100 ล้านบาทต่อหลัง ซึ่งแสนสิริไม่เคยพัฒนาบ้านเดี่ยวราคาสูงเท่านี้มาก่อน เดิมสูงสุดที่เคยพัฒนาราคา 50-60 ล้านบาท

แต่ครั้งนี้เราต้องการสร้างบ้าน 100 ล้านเพื่อให้เห็นว่าแสนสิริสามารถพัฒนาบ้านหรูได้และคุณภาพดี การก่อสร้างแน่นอนว่าต้องเป็นระบบก่ออิฐฉาบปูน นำสายไฟฟ้าลงดินทั้งโครงการ วัสดุก่อสร้างต่าง ๆ ต้องดียิ่งกว่าบ้านเดี่ยวแบรนด์นาราสิริซึ่งเป็นแบรนด์สูงสุดของแสนสิริ ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างออกแบบโครงการ ยังไม่ตัดสินใจว่าใช้แบรนด์นาราสิริหรือเปิดแบรนด์ใหม่สำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ

สาเหตุที่ทำบ้านเกินร้อยล้านเรามองเชิงการตลาดสร้างยอดขายได้ง่ายกว่าและกำไรต่อตร.ว.ดีกว่า

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/new