
หน้าแรก
สิงห์ เอสเตท และ โครงการวน โดยทีพีบีไอ จับมือร่วมกันจัดการขยะพลาสติกภายในพื้นที่ก่อสร้าง นำร่องพื้นที่โครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) คาดจะสามารถนำขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้ซ้ำได้กว่า 90% เพื่อก้าวตามแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนและ Enriching Life สร้างคุณค่าให้ชีวิต พร้อมมุ่งสู่ "องค์กรแห่งความยั่งยืน" เดินหน้าลุยโมเดลกรีนแวลูเชน (Green Value Chain) ชวนพันธมิตรธุรกิจที่เกี่ยวข้องในกระบวนการพัฒนาโครงการของบริษัทฯ ให้ตระหนักในการใช้ทรัพยากรอย่างเกิดประโยชน์สูงสุดและคำนึงเรื่องสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน
นายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สิงห์ เอสเตท เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ใส่ใจในคุณภาพและมุ่งสร้างคุณค่าให้ชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการส่งมอบโครงการคุณภาพให้แก่ลูกค้า พร้อมสร้างคุณค่าให้กับสังคม และใส่ใจในผลกระทบที่เกิดจากการทำธุรกิจของบริษัทฯ ต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่ทางบริษัทฯ ให้ความสำคัญและจริงจังในการร่วมแก้ไข
โดยมีการศึกษาเรื่องผลกระทบจากขยะพลาสติกในหลายๆ มิติโดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อม ซึ่งจากข้อมูลพบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีขยะพลาสติกประมาณปีละ 2 ล้านตัน แต่นำกลับมาใช้ประโยชน์เฉลี่ยเพียงปีละ 0.5 ล้านตันเท่านั้น ส่วนที่เหลือจะถูกจัดการด้วยวิธีฝังกลบซึ่งเป็นวิธีที่สิ้นเปลืองงบประมาณและพื้นที่เป็นอย่างมาก รวมทั้งขยะพลาสติกบางส่วนอาจหลุดรอดออกสู่ทะเลจนนำไปสู่วิกฤตขยะในทะเล ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย (TRBN) และเข้าร่วมโครงการส่งพลาสติกกลับบ้าน ที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ซึ่งรณรงค์ให้พนักงานทุกคนใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า รวมถึงสนับสนุนให้คัดแยกและจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี เพื่อให้สามารถนำไปรีไซเคิลและช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกล้นเมือง
สิงห์ เอสเตท ในฐานะบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ต้องยอมรับว่าในขั้นตอนการก่อสร้างย่อมก่อให้เกิดขยะ ทั้งเศษวัสดุ คอนกรีต เหล็ก ไม้ รวมไปถึงพลาสติกจำนวนมากที่มาจากวัสดุห่อหุ้มอุปกรณ์ก่อสร้าง และวัสดุห่อหุ้มเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ โดยจากข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษพบว่ามีขยะจากการก่อสร้างในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยเฉลี่ยประมาณ 300 ตันต่อวัน
ดังนั้นบริษัทฯ จึงตระหนักและหาแนวทางในการจัดการขยะพลาสติกเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ตามเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัทที่ได้นำ SDGs มาใช้ในการพัฒนาโครงการและเป็นกลยุทธ์ในกระบวนการก่อสร้าง ซึ่งล่าสุดได้ร่วมมือกับโครงการวน โดย บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) เพื่อนำขยะพลาสติกจากการก่อสร้างไปสู่กระบวนการรีไซเคิล ซึ่งถือเป็นความร่วมมือระหว่างสององค์กรในการลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญอย่างมาก”
“โครงการวน” เป็นแคมเปญภายใต้บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) เพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างสร้างสรรค์ บนแนวคิดของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) คือการนำขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล (Recycle) เพื่อนำพลาสติกกลับมาใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดและกลับมาหมุนเวียนอยู่ในระบบให้นานที่สุด
นายกมล บริสุทธนะกุล ผู้ก่อตั้งโครงการวน และประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการวน (Won) ได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) เข้ามาใช้โดยเน้นการให้ความรู้ เสนอแนะวิธีการแยกขยะ และการเตรียมเศษพลาสติกเพื่อเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยมีเป้าหมายคือต้องการให้พลาสติกที่เราใช้กันอยู่ทุกวันกลับมาหมุนเวียนอยู่ในระบบให้นานที่สุด
ซึ่งความร่วมมือกับสิงห์ เอสเตท ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของความร่วมมือกับผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และเป็นครั้งแรกที่มีการนำพลาสติกจากโครงการก่อสร้างมารีไซเคิลอย่างเป็นรูปธรรม ผมเชื่อว่าความร่วมมือนี้จะขยายผลไปสู่การร่วมมือในโครงการอื่นๆ ในอนาคต โดยขยะพลาสติกที่ได้จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่โรงงานของทีพีบีไอ เพื่อผลิตเป็นถุงพลาสติกหรือถุงขยะ และนำไปมอบให้กับทางสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการจัดการขยะมากที่สุด”
สำหรับการร่วมมือกับทางโครงการวนจะเริ่มนำร่องที่พื้นที่ก่อสร้างของคอนโดมิเนียมมาสเตอร์พีซระดับอัลติเมทลักชัวรีแห่งแรกของบริษัท คือ ดิ เอส สุขุมวิท 36 (THE ESSE SUKHUMVIT 36) ซึ่งเป็นโครงการที่มีการร่วมทุนกับ บริษัท ฮ่องกง แลนด์ โฮลดิ้ง จำกัด ที่เป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกด้านการลงทุน บริหารจัดการ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบันการก่อสร้างแล้วเสร็จมากกว่า 80% โดยคาดว่าจะสามารถนำพลาสติกเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้กว่า 90% ของขยะพลาสติกทั้งหมดของโครงการ
ทั้งนี้การรีไซเคิลขยะพลาสติกจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการดิ เอส สุขุมวิท 36 ที่ร่วมกับทางโครงการวนจำนวน 1,000 กิโลกรัม จะสามารถนำไปรีไซเคิลเป็นถุงขยะหรือถุงพลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้มากกว่า 4,000 ใบ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากทางบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้างและบริษัทพันธมิตรคู่ค้า คือ บริษัท บวิค-ไทย จำกัด และ บริษัท เฟรมเทค วินโดว์ แอนด์ ดอร์ จำกัด ที่ให้ความร่วมมือในการจัดเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะพลาสติกออกจากขยะอื่นๆ รวมทั้งให้พื้นที่ในการจัดเก็บขยะพลาสติกจากไซต์ก่อสร้างก่อนส่งต่อให้โครงการวน
“สิงห์ เอสเตท มีแผนเดินหน้าสู่ "องค์กรแห่งความยั่งยืน" โดยใช้โมเดลกรีนแวลูเชน (Green Value Chain) ในทุกโครงการของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งจะมีข้อตกลงให้ผู้เกี่ยวข้องในทุกกระบวนการต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบในงานของตนเอง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เริ่มตั้งแต่การออกแบบโครงการที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างที่จะต้องคัดเลือกผู้รับเหมาที่มีแนวคิดเดียวกัน
การคัดเลือกวัสดุที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีในกระบวนการที่เกี่ยวข้องตลอดวงจรชีวิตของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จนกระทั่งส่งมอบให้กับลูกค้า” นายณัฐวุฒิ กล่าวปิดท้าย
"จระเข้ คอร์ปอเรชั่น" ลุยต่อสู่ Net Zero! กางวิสัยทัศน์ปี 68 ดันวงการก่อสร้างสีเขียว เต็มรูปแบบ ชี้ชัดความยั่งยืนไม่ใช่เทรนด์ เผยผู้บริโภคเลือก "คุณภาพ" ควบคู่ "ดูแลโลก"
16 นาทีที่แล้ว
Dees Supreme จับมือ AWS ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมหอฟอกอากาศ “FAHSAI” ยกระดับคุณภาพอากาศบริสุทธิ์ เสริมสุขภาพชีวิตคนเมือง สู้ฝุ่น PM2.5
49 นาทีที่แล้ว
อนาบูกิ ธนาสิริ (ประเทศไทย) เปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียม “อนาบูกิ ธนาเรสซิเดนซ์ กาญจนาภิเษก-พระราม 9” มูลค่า 1,500 ลบ.
เมื่อวานนี้
เบล็ส แอสเสทฯ ฉลอง 15 ปี ยกระดับแบรนด์ สู่ “บ้านสุข บ้าน BLESS” เตรียมผุดอาณาจักรใหม่ “เบล็ส ดิ เอสเต้พาร์ค” บนทำเลสุขุมวิท-บางพลี มูลค่า 1,300 ล้านบาท
เมื่อวานนี้
เอพี ไทยแลนด์ เสริมทัพ THE MAJESTIC COLLECTION เปิดตัว “THE PALAZZO ปิ่นเกล้า-บรมฯ” คฤหาสน์ระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี มูลค่า 2,200 ลบ.*
2025-04-28
ชอบบทความที่นี่จัง ได้ความรู้
นักเขียนมืออาชีพ งานคุณภาพและมีประโยชน์มากค่ะ
ริวิวเวอร์จริงๆค่ะ ฮ่าๆ ครบถ้วนดี
ชอบลิฟวิ่งอินไซเดอร์มากค่ะ มีบทความดีๆให้อ่านแบบนี้ตลอดไปน่ะค่ะ
น่าสนใจมากจ้า