News
icon share

แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ ชูการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องงานวิจัย 'For All Well-Being'

LivingInsider Report 2020-07-16 13:50:31
แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ ชูการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องงานวิจัย 'For All Well-Being'

• แมกโนเลียฯ (MQDC) ชู 2 ศูนย์วิจัยแห่งแรกของภาคอสังหาฯไทยได้แก่ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน RISC และศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ FutureTale Lab รับเทรนด์แห่งอนาคต ภายใต้แนวคิด 'For All Well-Being' และเปิดพื้นที่ให้ประชาชน และทุกหน่วยงานได้นำไปพัฒนาต่อยอด

 

• เดินหน้า 24 โครงการ มูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท ขานรับเมกะโปรเจกต์ภาครัฐ-นักลงทุนต่างชาติกลับมา

 

• พร้อมเปิดอาณาจักร 'เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)' มูลค่า 125,000 ล้านบาท จุดพลุทำเลบางนาประตูสู่ทิศทางความเจริญใหม่ จับมือกับพันธมิตรระดับโลกหลายรายได้แก่ Six Senses  F&P (Thailand)  ITEC Entertainment Atelier Ten และ Baycrest

 

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ที่เล็งเห็นความสำคัญของความเข้าใจถึงความต้องการที่อยูอาศัยในอนาคต จึงได้จัดตั้ง 2 ศูนย์วิจัยคือ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & Innovation for Sustainability Center - RISC) และศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ (Future Tales Lab) เพื่อเน้นงานวิจัยภายใต้แนวคิด 'For All Well-Being' การสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกสรรพสิ่งบนโลกอย่างยั่งยืน

 

และเดินหน้าใช้งานวิจัยต่อยอดทั้ง 24 โครงการ มูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท’ พร้อมเปิดอาณาจักร 'เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)'  มูลค่า 125,000 ล้านบาท จุดพลุทำเลบางนาสู่ศูนย์กลางความเจริญแห่งใหม่ ถนนบางนา กม.7 ด้วยความเชื่อมั่นศักยภาพสาธารณสุขไทย และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยจะเป็นที่ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติกลับมา 

 

นายวิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวว่า MQDC ให้ความสำคัญกับการวิจัยเกี่ยวกับพฤติกรรมความต้องการและการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัย ทิศทางของการอยู่อาศัยในสภาวะต่างๆ ในระยะยาว ถือเป็น DNA ของทุกโครงการในเครือ MQDC ที่ต้องนำผลวิจัยมาต่อยอดสร้างโครงการ

 

โดยมี "หัวใจ" หลักคือ ผู้อยู่อาศัยในโครงการและชุมชนเพื่อนบ้านในพื้นที่โดยรอบจะต้องมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ตามแนวทาง 'For All Well-Being' จึงได้จัดตั้ง 2 ศูนย์วิจัยเอกชนแห่งแรกของภาคอสังหาริมทรัพย์ไทยคือ ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & Innovation for Sustainability Center -RISC)

แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ ชูการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องงานวิจัย For All Well-Being

 

ซึ่งทำงานวิจัยเกี่ยวกับสุขภาวะที่ดีเพื่อตอบโจทย์ For All Well-Being ซึ่งมีผลงานวิจัยที่ผ่านมามากมาย อาทิ วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสุขภาวะ การร่วมพัฒนาวัสดุ Upcycling เพื่อใช้ในการก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน การพัฒนาเครื่องฟอกอากาศระดับเมือง เป็นต้น

 

และศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ (FutureTales Lab) ทำงานวิจัยเกี่ยวกับเทรนด์อนาคตเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต และนำมาเผยแพร่สู่สาธารณะ เพื่อแบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ รวมถึงนำมาต่อยอดในการพัฒนาโครงการต่างๆ  

 

นอกจากนี้ยังการันตีคุณภาพโครงการของเราทุกโครงการโดยการรับประกันการดูแลโครงการของเราเป็นเวลา 30 ปี ใน 4 เรื่องด้วยกันให้กับลูกค้า คือ งานโครงสร้าง งานระบบน้ำ-ไฟ การใช้งานของประตูหน้าต่าง และการรั่วซึมของหลังคา 

 

MQDC ยังเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อมาร่วมพัฒนาโครงการหลายราย ดังเช่น อาณาจักร ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ ที่มีแบรนด์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านที่พักระยะสั้นและระยะยาวระดับโลกมาเป็นพันธมิตร อย่าง ซิกส์เซนส์ (Six Senses) ที่จะมีทั้งที่อยู่อาศัยและโรงแรม F&P (Thailand) เป็นที่ปรึกษาและร่วมออกแบบโครงการ  ITEC Entertainment มาออกแบบไลฟ์สไตล์ด้านสันทนาการและประสบการณ์เพื่อผู้อยู่อาศัย

 

และ Atelier Ten มาร่วมวางแผนการป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน รวมถึงการวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในด้านไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ และเพื่อให้สอดคล้องกับงานวิจัยของศูนย์วิจัยอนาคตศึกษาที่ว่าเทคโนโลยีจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

 

รวมถึง Baycrest  ที่เชี่ยวชาญด้านการดูแลผู้สูงอายุจากประเทศแคนนาดา ทางเราก็ได้มีการเป็นพันธมิตรกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี คือ Huawei ที่จะร่วมพัฒนา Smart city จาก Digital platform ของ Huawei โดยจะเริ่มจากโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS) ที่เป็นเมืองคู่ป่า คุณวิสิษฐ์กล่าว 

 

รศ. ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) กล่าวว่า การอยู่อาศัยภายใต้สุขภาวะที่ดี หรือ “Well-Being” นับวันจะอยู่ในความสนใจและเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น MQDC ล้วนมีสิ่งเหล่านี้เตรียมพร้อมไว้แล้ว ภายใต้การดำเนินงานของ RISC เพื่อเป็นศูนย์นวัตกรรมชั้นนำด้านสุขภาวะและความยั่งยืน ดำเนินการศึกษาในการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่าที่สุด

 

จึงเป็นที่มาของ MQDC Standard ในการออกแบบเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและต่อสุขภาพของมนุษย์ในระยะยาว โดยหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุก่อสร้างบางชนิดอย่างเด็ดขาดเพื่อเป็นการอนุรักษ์ในระยะยาว และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการออกแบบก่อสร้างตามหลัก Sustainovation รวมทั้งยังพร้อมส่งมอบองค์ความรู้ไปสู่สาธารณชน

 

ดังนั้นงานในโครงการของ MQDC จึงมีนวัตกรรมที่รองรับเช่น การทำวิจัย ร่วมกับศาสตราจารย์ไมเคิล สตาร์โน (Michael S. Strano) ภาควิชาวิศวกรรมเคมี สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านนาโนไบโอนิคส์ (Nanobionics) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถใหม่ให้กับต้นไม้ เช่น การเรืองแสงในที่มืด การตรวจวัดมลพิษ ซึ่งจะนำมาใช้กับโครงการฟอเรสเทียส์และ โครงการต่าง ๆ ในอนาคต

แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ ชูการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องงานวิจัย For All Well-Being

 

ดร.การดี เลียวไพโรจน์ หัวหน้าคณะที่ปรึกษาศูนย์วิจัยอนาคตศึกษา ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ  บริษัทแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (FutureTales Lab by MQDC)  กล่าวเสริมว่า หลังโควิดแล้ว ผลวิจัย ชี้ให้เห็นว่าการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ทำให้เกิดการนำไปสู่วิถีชีวิตแบบเศรษฐกิจติดบ้าน (Everything At Home)

 

ดังนั้นทำเลใจกลางเมืองเพียงอย่างเดียวจึงไม่ใช่เรื่องหลัก แต่ชีวิตความเป็นอยู่และสภาพแวดล้อมกำลังเป็นเรื่องที่ผู้คนสนใจเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งสอดคล้องกับ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’ ที่นำผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก

 

อาทิ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดสหรัฐอเมริกา และสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) ซึ่งบ่งชี้ว่า การที่มนุษย์ได้อยู่กับธรรมชาติทุกวันจะช่วยลดความเครียดได้ และส่งเสริมให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ในขณะที่ประเทศไทยมีปริมาณพื้นที่สีเขียวต่อประชากร 1 คน น้อยกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่ได้ตั้งไว้ เราจึงนำผลการศึกษามาแก้ปัญหา ด้วยการสร้างความยั่งยืนของพื้นที่สีเขียว

 

สร้างป่าธรรมชาติ ให้เกิดขึ้นจำนวนมากกว่า 30 ไร่และพื้นที่สีเขียวปกคลุมอีกมากกว่า 70% ในโครงการเป็นโครงการแรกของโลก มีความสมบูรณ์เป็นเมืองเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ภายใต้แนวคิด เมืองคู่ป่า ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์ (THE FORESTIAS)’

 

ประกอบด้วย คอนโดวิสซ์ดอม (Whizdom) สำหรับคนวัยทำงาน บ้านเดี่ยวกลุ่มแบบคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ มัลเบอร์รี่ โกรฟ (Mulberry Grove) และคอนโด ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) ที่รองรับตลอดชีวิตของผู้สูงวัย 

แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ ชูการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องงานวิจัย For All Well-Being

 

ปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ MQDC อยู่ระหว่างการพัฒนาแบบ ขาย ก่อสร้าง และอยู่ในช่วงการโอน ทั้งหมด 24 โครงการ มูลค่ารวมมากกว่า 300,000 ล้านบาท โดยมีโครงการระดับซูเปอร์ลักซูรีที่ร่วมทุน ได้แก่ แมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟรอนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม, เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ มีลูกค้าโอนไปแล้วเกือบ 100% และกว่า 60% ตามลำดับ

 

มูลค่าโครงการรวม 2 โครงการกว่า 20,000 ล้านบาท และมียอดโอนรวมกันกว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นความไว้วางใจจากผู้บริโภค รวมทั้งยังได้แมนดาริน โอเรียนเต็ล มาเป็นผู้ให้บริการแก่เจ้าของห้อง นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ ของบริษัท

 

อาทิ วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว, , วิสซ์ดอม คอนเนค สุขุมวิท, วิสซ์ดอม เอสเซ้นส์ สุขุมวิท, และมีโครงการที่ยังเดินหน้าก่อสร้างพร้อมเปิดขายแล้วจำนวน  3 โครงการ ได้แก่ เดอะ ฟอเรสเทียส์, เดอะ สแตรนด์, มัลเบอร์รี่ โกรฟ สุขุมวิท

 

รวมทั้ง มีโครงการที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพิ่มอีก 3-5 โครงการโดยทางบริษัทมองว่าวิกฤตโควิดเป็นโอกาสที่จะได้เสนอการอยู่อาศัยที่ดีในแบบ For All Well-Being เพื่อสุขภาพกายใจที่ดีตามวิถีชีวิตใหม่หลังโควิดได้ผ่านพ้นไป
 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider