นี่ไง ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13 ใกล้รถไฟฟ้า ให้มากกว่าในทุกด้านครอบคลุมทุกมิติ ในราคา 2.19 ลบ. แบบนี้สิ! ที่คนจรัญฯต้องการ

 

พาไปเยี่ยมชมคอนโดในเมืองกันเยอะพอสมควรแล้ว คราวนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาอีกฟากฝั่งของกรุงเทพฯ กันบ้าง กับฝั่งธนฯบนทำเล "จรัญสนิทวงศ์" ที่วันนี้ต้องบอกเลยว่า ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไป 

 

เพราะรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (ช่วงเตาปูน-ท่าพระ) ที่เพิ่งเปิดให้ใช้บริการ เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งสายนี้เป็นสายที่เทียบชั้นได้กับสาย yamanote line ของญี่ปุ่น ที่จะวิ่งเป็น Loop วงกลมทั่วเมือง ถือเป็นหัวใจในการเดินทางและเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญมากๆ เพราะสามารถทำให้คนฝั่งธนฯ ไปได้ทุกทำเลในกรุงเทพฯโดยใช้รถไฟฟ้า 

 

จึงนับว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้ ย่านจรัญสนิทวงศ์ กลายเป็นทำเลศักยภาพและพร้อมจะก้าวเข้าสู่ศูนย์กลางความเจริญของเมืองหลวงอีกแห่งหนึ่งในไม่ช้า สังเกตได้จากเริ่มมีการปิดกั้นพื้นที่เพื่อเตรียมสร้างคอนโดและไลฟ์สไตล์มอลล์ต่างๆกำลังมีการก่อสร้างให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ 

 

ข้อมูลในเว็บไซต์ของเรามีตัวเลขที่น่าสนใจมากทีเดียว เพราะเราพบว่าหลังจากรถไฟฟ้า เปิดให้บริการในทำเลฝั่งธนฯ มีการค้นหาคอนโดในทำเลฝั่งธนฯเพิ่มขึ้นสูงมากกว่าเดิมอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า คนฝั่งธนฯ เริ่มสนใจซื้อคอนโดมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อีกปัจจัยที่น่าสนใจคือ ราคา ที่คนส่วนใหญ่ยังค้นหา คือ คอนโดที่ราคาไม่เกิน 2.5 ล้านและที่สำคัญเลย ต้องเสร็จและพร้อมอยู่

 

โชคดีมากๆ ที่วันนี้ เราได้มีโอกาสมาชมคอนโดที่น่าสนใจมากๆ ในทำเลจรัญฯ และไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมขายดี เดี๋ยวเราจะพาคุณผู้อ่านไปดูกันเลยครับ 

 

นี่ไง ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13 ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้ ราคาแบบนี้สิ ที่คนจรัญฯต้องการ

 

 

โครงการตั้งอยู่ ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 หรือถนนพาณิชยการธนบุรี ห่างจากปากซอยเข้ามาประมาณ 400 เมตร โดยถนนเส้นจรัญฯ นี้ไปได้หลายเส้นทางมาก ถ้าอยากเข้าเมืองให้ใช้สะพานพระราม8 เพื่อไปอนุสาวรีย์ชัย และอีกทางคือวิ่งออกมาปากซอยจรัญฯ ไปทางรัชดาท่าพระก่อนถึงเดอะมอลล์ท่าพระ เลี้ยวซ้ายไปขึ้นสะพานตากสินก็จะเป็นสาทร-สีลม หรือถ้าจะทางฝั่งพระนครแค่ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าก็จะเชื่อมไปเยาวราชและเจริญกรุงได้

 

โดยโครงการอยู่ ห่างจากสถานีจรัญฯ 13 ประมาณ 400 เมตร และจากสถานีนี้ เพียง 1 สถานี ก็จะถึง MRT สายสีน้ำเงิน สถานีท่าพระ ซึ่งเป็นจุดเชื่อม Interchange เพื่อให้เข้าเมืองไป สาทร-สีลม ได้อย่างรวดเร็ว หรือผู้ที่จะไปเพชรเกษม บางแค หลัก 2 ก็เปลี่ยนขบวนตรงนี้เช่นกัน อีกทั้งบริเวณปากซอยมีรถประจำทางผ่านหลายสาย ส่วนภายในซอย ก็มีรถสองแถว วินมอเตอร์ไซค์ และรถแท็กซี่ วิ่งผ่านไปมาตลอดทั้งวัน

 

อีกทั้งในซอยจรัญฯ 13 เองก็สามารถลัดทะลุออกไปทางราชพฤกษ์ รวมถึงถนนกาญจนาภิเษกได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะออกไปได้ทั้ง พระราม5 ย่านบางใหญ่ นนทบุรี หรือวิ่งบรมราชชนนีไปพุทธมณฑล ศาลายา นครปฐม คือไม่ว่าจะหันหัวรถไปทิศทางไหนก็ง่ายและถึงที่หมายโดยใช้เวลาไม่นานอีกด้วย

 

ด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง มีพร้อมแบบอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว ไล่เรียงตั้งแต่อาหารการกิน ที่ในซอยคือมีตลอดสองฝั่งทางอย่าง Street Food ร้านอาหาร และคาเฟ่อย่างชา กาแฟ ขนมนมเนย หรือถ้าใครอยากซื้อของสดก็มีตลาดทั้งเล็กและใหญ่ในซอยก็จะมี ตลาดวัดหนัง ตลาดธารทอง ตลาดวัดไชยฉิมพลี ส่วนตรงริมถนนจรัญฯ บริเวณใกล้โครงการก็มีทั้งตลาดบางขุนศรี ตลาดบางขุนนนท์ เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมอาหารอร่อยๆ มากมายก็ว่าได้

 

ยังไม่หมดมีอีกไม่ว่าจะเป็น Tesco Lotus, Makro และ HomePro ต่อเนื่องไปจนถึงคอมมูนิตี้มอลล์ The Sense ปิ่นเกล้า สุดท้ายสายนักช้อปต้องห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า เดอะมอลล์ ท่าพระ และเดอะมอลล์ บางแค ให้เราได้เลือกซื้อของแบบจัดเต็มจริงๆ 

 

บริเวณรอบๆ โครงการยังมี สถานศึกษา อาทิ พาณิชยการธนบุรี วิทยาลัยอาชีวศึกษา ธนบุรี วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม รร.สตรีวัดระฆัง รร.เซนต์ปีเตอร์ ธนบุรี รร.ไชยฉิมพลีวิทยาคม ม.สยาม ซึ่งผู้ปกครองท่านใดที่มีบุตรหลาน เรียนอยู่ รร.เหล่านี้จะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางได้มาก สำหรับ สถานพยาบาล เช่น รพ.พญาไท 3 รพ.เกษมราษฎร์ บางแค รพ.เพชรเกษม 2 รพ.ศิริราช รพ.ธนบุรี ก็อยู่ไม่ไกลจากคอนโด รวมไปถึงสำนักงานออฟฟิศแถวนี้ที่ก็มีให้เห็นพอสมควร

 

พูดเรื่องทำเลไปพอสมควรแล้ว เดี๋ยวเราจะพามาชมตัวโครงการกันบ้าง สำหรับตัวโครงการ “ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13” เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น ออกแบบได้ดูเท่และน่าอยู่มากๆ ที่สำคัญคือ วันนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์พร้อมเข้าอยู่แล้ว โดยออกแบบส่วนที่พักอาศัยให้เขยิบเข้าไปด้านในเพื่อให้ห่างจากถนนใหญ่ เหล่าลูกบ้านจะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น และมีจำนวนเพียง 184 ยูนิต จึงมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร

 

ขณะที่ Facility ให้มาเยอะทีเดียวซึ่งจะกระจายตัวกันอยู่ที่ชั้น 2 และชั้น 8 โดยที่ชั้น 2 จะมี Library และ Kids Room ทั้งสองห้องนี้เชื่อมต่อกัน เพื่อให้ผู้ปกครองและเด็กๆสนุกสนานได้เต็มที่ตัวผู้ปกครองเองก็มีพื้นที่ให้นั่งรอโดยไม่เบื่อ

 

หากอยากได้ความเงียบสงบหรือต้องการสมาธิ  ขอแนะนำให้ใช้บริการที่ Co-Working Space บริเวณชั้น 8 ซึ่งเป็นอีกชั้นสำหรับส่วนกลางของโครงการ และนอกจากนั้นชั้นนี้จะมีทั้ง สระว่ายน้ำ ซึ่งจะมีทั้งสระผู้ใหญ่และสระเด็ก แยกกันชัดเจนเพื่อความปลอดภัย

 

ตรงนี้เป็นจุดที่ใครหลายคนน่าจะชอบ สระว่ายน้ำบนชั้น Rooftop ที่ให้คุณได้ว่ายไปเสพวิวเมืองไปพร้อมๆกัน ฟินมากๆ

 

ต่อด้วย Fitness และ ลานโยคะ ไว้ออกกำลังกายได้สุขภาพ รวมถึงมี ลานบาร์บีคิวและสวนหย่อม ให้นั่งพักผ่อนหรือปาร์ตี้สังสรรค์กัน

 

ตัวห้องพักอาศัยขายแบบ Fully Furnished พร้อมอยู่ได้เลย พูดง่ายๆ ว่าได้เกือบทุกอย่างที่เห็นในห้องตัวอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Digital Door Lock และเครื่องปรับอากาศ พื้นถึงฝ้าสูง 2.4 เมตร โดยมีให้เลือกหลักๆ ทั้งหมด 3 แบบ ดังนี้

 

1. 1 BEDROOM ขนาด 25.97-32.58 ตารางเมตร 

 

2. 1 BEDROOM PLUS ขนาด 39.54 ตารางเมตร

 

3. 2 BEDROOM ขนาด 41.99 ตารางเมตร

 

ห้องแรก 1 BEDROOM ขนาด 26-28 ตารางเมตร Type นี้เปิดมาจะเจอกับ ห้องนั่งเล่น ก่อนเลย โดยให้โซฟาขนาด 2 ที่นั่งตามที่เห็น พร้อมบิวท์ชั้นวางทีวี และตู้เก็บของด้านบนหน้าตาแบบนี้มาให้พร้อมใช้งาน ด้านข้างวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งทางโครงการก็ให้มาด้วยอีกเช่นเดิม

 

โดยระบบไฟในห้องพักก็เป็นอีกจุดเด่นของโครงการ เพราะนอกจากการเปิดปิดตามปกติแล้ว ยังมีระบบทำงานควบคู่ไปกับ Motion Sensor เพียงกดปุ่ม Master จะทำให้ระบบไฟทำงานผ่านการตรวจจับความเคลื่อนไหวภายในห้อง หากมีการเคลื่อนไหวภายในห้องไฟก็จะเปิดเอง ขณะเดียวกันหากไม่มีการเคลื่อนไหวไฟก็จะดับโดยอัตโนมัติ ซึ่งข้อดีของระบบนี้คือ ช่วยป้องกันการลืมปิดไฟเวลาออกจากบ้าน และเวลากลับจากที่ทำงานตอนเย็นๆ ไฟจะติดให้เองโดยอัตโนมัติ

 

และอย่างที่บอกว่า 1 ห้องนอนจริงๆ ก็เพราะว่าโครงการทำเป็นผนังและประตูทึบมาให้ ได้เตียง 6 ฟุต พร้อมกระจกเต็มบานซึ่งจะได้หน้าต่างแบบบานสไลด์ ทำให้ลมจากข้างนอกเข้ามาได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้ห้องไม่อับชื้นดูโปร่งสบาย

 

จุดเด่นของโครงการนี้ สำหรับห้องพักอาศัยออกแบบมาเป็น 1 ห้องนอนก็คือกั้นผนังแยกเป็นห้องจริงๆ ที่ไม่ใช่แค่กระจกกั้นซึ่งแบบนี้ห้องนอนจะมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

 

 

ตรงข้ามบิวท์เป็นตู้เสื้อผ้าติดเพดาน ได้หน้าบานเป็นกระจกสีชา ข้างในมีลิ้นชักและราวแขวนให้ สามารถเก็บเสื้อผ้าได้ประมาณหนึ่ง นอกจากนี้ในห้องนอนทุกยูนิตจะมีอุปกรณ์ Smart Control สำหรับควบคุม การเปิดปิดไฟจุดต่างๆ ในห้องพักจากอุปกรณ์นี้เพียงตัวเดียว อย่างเช่นเวลาเราลืมปิดไฟที่ห้องนั่งเล่นหรือระเบียง เราสามารถใช้เครื่องนี้ปิดไฟได้จากภายในห้องนอน โดยไม่ต้องเดินออกไปปิดด้วยตัวเอง

 

ถัดไปเป็นส่วนของ ห้องน้ำ อยู่พื้นที่รวมกับห้องครัวได้สุขภัณฑ์ครบ ทั้งอ่างล้างหน้าของ American Standard ที่มีตู้เก็บของด้านล่างด้วย โถสุขภัณฑ์ของ Cristina และได้ Rain Shower ซึ่งหาได้ยากมากในคอนโด Low Rise หรือคอนโดที่ต่ำกว่า 100,000 บาท/ตารางเมตร นอกจากนี้ยังได้กระจกนิรภัยเพื่อกั้นส่วนเปียกส่วนแห้ง

 

ห้องครัว เป็นแบบครัวปิดให้ทำอาหารจริงจังได้อย่างจัดเต็ม เคาน์เตอร์ครัวด้านล่างมีลิ้นชักเก็บของพร้อมกับพื้นที่วางเครื่องซักผ้า ตัว Top เป็น HPL ลายหินอ่อนสีขาว

 

ส่วนด้านบนก็เป็นตู้เก็บของทำให้ห้องครัวดูเป็นระเบียบไม่เกะกะสายตา ผนังด้านหลังติดกระจกเพื่อให้ทำความสะอาดง่าย ได้เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว และเครื่องดูดควันเป่าลมออกด้านนอกของ Franke ระเบียงมีพื้นที่ขนาดกะทัดรัดแต่พอไม่ต้องวางเครื่องซักผ้าก็ทำให้มีที่ว่างพอในการวางราวตากผ้าได้มากขึ้น

 

อีกห้องหนึ่งก็ยังคงเป็น 1 ห้องนอน แต่คนละแบบแปลน มีขนาด 32.58 ตารางเมตร เข้ามาแล้วทางซ้ายมือจะมีสเปซโล่งๆ ประมาณหนึ่ง ให้เราสามารถบิวท์ทำเป็นตู้รองเท้าได้ และถึงจะเป็น ห้องน้ำ ลักษณะการใช้งานเหมือนกับห้องแรกเลย แต่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด

 

ข้างหน้าตรงข้ามประตูทางเข้าห้องเป็น ห้องครัว แบบปิด มีเคาน์เตอร์ครัวขนาดใหญ่ ทำให้มีพื้นที่ไว้สำหรับเตรียมอาหาร และชั้นเก็บของที่อยู่ด้านบน โดยเชื่อมต่อกับระเบียง เพื่อให้แสงสว่างเข้ามาและช่วยให้กลิ่นระบายออกข้างนอกได้ดี

 

วกกลับเข้ามาที่ทางเข้าห้องจะเป็นส่วนของ ห้องนั่งเล่น ที่นอกจากวางโต๊ะกินข้าวแล้ว ยังมีพื้นที่เหลือเฟือให้วางโซฟารูปตัวแอล ขนาด 3 ที่นั่งได้อีกต่างหาก 

 

ฝั่งตรงข้ามบิวท์อินชั้นวางทีวีที่สามารถเก็บของเพิ่มเติมได้ ส่วนด้านบนทำเป็นชั้นวางของได้นิดหน่อย ซึ่งห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับริมหน้าต่างช่วยให้แสงธรรมชาติเข้าห้องได้มากทำให้ห้องดูกว้างกว่าเดิม

 

แน่นอนว่า ห้องนอน ก็ยังได้ประตูทึบเพื่อความเป็นส่วนตัว ได้เตียง 6 ฟุตพร้อมช่องหน้าต่างเหมือนเดิม แต่ได้เพิ่มเข้ามาคือขนาดของตู้เสื้อผ้าที่ใหญ่ขึ้นจุเสื้อผ้าได้เยอะเลย

 

ห้องสุดท้าย 1 ห้องนอน ขนาด 32.01 ตารางเมตร แปลนนี้ก็ทำออกมาได้ดีทีเดียวเพราะเปิดประตูเข้ามาจะยังไม่เจอกับห้องต่างๆ เป็นพื้นที่โล่งไว้สำหรับวางตู้รองเท้าแค่นั้น 

 

เดินต่อมาอีกนิดข้างหน้าจะเป็นส่วนของโต๊ะกินข้าวแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 2 ที่นั่ง รับกับกระจกเข้ามุมได้อย่างลงตัว

 

ติดกันเป็นห้องนั่งเล่นวางโซฟารูปตัวไอ ขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมกับชั้นวางทีวี ก็ยังมีพื้นที่ทางเดินเหลือเฟือ โดยระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีค่อนข้างมาก ทำให้ติดทีวีขนาด 50 นิ้ว ได้ชิลๆ และยังมีช่องแสงเพิ่มเข้ามาอีกส่งผลให้ห้องตรงนี้ดูกว้างและโปร่งมากยิ่งขึ้น

 

ด้านในสุดคือ ห้องนอน ลักษณะการจัดวางแทบไม่ต่างจากสองห้องข้างบน สามารถวางเตียง 6 ฟุต มีช่องแสงเกือบเต็มผนัง และฝั่งตรงข้ามเป็นตู้เสื้อผ้า

 

ห้องครัวและห้องน้ำ อยู่ในพื้นที่เดียวกัน รูปแบบการจัดวางและฟังก์ชันการใช้งานเหมือนกับห้องแรกเลย หมายความว่าเข้าห้องครัวมาห้องน้ำจะอยู่ซ้ายมือและห้องครัวกับระเบียงอยู่ทางขวา

 

ความจริงทางโครงการ มีห้องตัวอย่างให้ดูถึง 6 Type พูดง่ายๆ ว่ามีของจริงให้ครบทุกรูปแบบโดยไม่ต้องจินตนาการเองเลย ซึ่งเรามีภาพตัวอย่างของขนาด 1 BEDROOM PLUS และ 2 BEDROOM มาฝากกันไว้ให้ดูเล็กน้อย แต่ถ้าใครอยากเห็นเต็มๆ ตาเราแนะนำว่าต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองให้รู้ๆ กันไปเลย!!

 

ห้องตัวอย่าง

1 BEDROOM PLUS ขนาด 39.54 ตารางเมตร

 

ห้องตัวอย่าง

2 BEDROOM ขนาด 41.99 ตารางเมตร

 

ใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้ ราคาแบบนี้สิ ที่คนจรัญฯต้องการ ใครสนใจห้ามพลาดครับ ช่วงนี้หลายบริษัทจัดโปรแรงๆ มาให้พวกเรา ที่นี่ก็เช่นกัน

 

โดยในวันที่ 8-9 สิงหาคมนี้ ที่โครงการ ชีวาทัย ฮอลล์มาร์ค จรัญ 13 จะจัดแคมเปญ ทุกชั้นราคาเดียว เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท* มาก่อนเลือกห้องชุดวิวสวยก่อนใคร

 

เท่านั้นไม่พอยังมีโปร ผ่อนล้านละ 2,500 บาท ทำให้ห้องราคา 2.19  ล้านบาทมียอดผ่อนอยู่ที่ไม่เกิน 5,500 บาท/เดือน ถูกกว่าเช่าไปอีก แถมยังได้คอนโดเป็นของตัวเองไม่ต้องสูญเงินเปล่า ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชม Website หรือคลิกลงทะเบียนได้ที่นี่ >>> https://bit.ly/2lVqqrw