อสังหาฯโค้งสุดท้ายเร่งปั๊มยอด แข่งเดือด80โครงการแสนล้าน

อสังหาฯโค้งท้ายปี 59 หืดจับค่ายบิ๊กเร่งปั๊มยอด หวั่นกระทบรับรู้รายได้ในอนาคต เหตุแต่ละค่ายยังห่างเป้าราวหมื่นล้าน กางแผน “พฤกษา-แสนสิริ-เอพี-เพอร์เฟค” เล็งเปิดขายอสังหาฯโค้งท้ายปี 59 หืดจับค่ายบิ๊กเร่งปั๊มยอด หวั่นกระทบรับรู้รายได้ในอนาคต เหตุแต่ละค่ายยังห่างเป้าราวหมื่นล้าน กางแผน “พฤกษา-แสนสิริ-เอพี-เพอร์เฟค” เล็งเปิดขาย

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จํากัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงครึ่งหลังปี 2559 จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากการเปิดขายโครงการใหม่ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรกผู้ประกอบการเน้นขายสินค้าในสต๊อกมากกว่าการเปิดขายโครงการใหม่ ดังนั้นในช่วงครึ่งปีหลังผู้ประกอบการจึงต้องพัฒนาโครงการใหม่เพิ่มมากขึ้น เพื่อสร้างยอดขายรอรับรู้รายได้ในอนาคต

“ปีนี้ผู้ประกอบการจะทำยอดขายได้ตามเป้าที่ตั้งไว้หรือไม่ ก็ต้องดูกำลังซื้อว่าเป็นอย่างไร เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ประกอบกับปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนยังอยู่ในเกณฑ์สูง แบงก์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้ผู้บริโภคระดับกลาง-ล่างได้รับผลกระทบ ดังนั้นผู้ประกอบการที่เปิดโครงการใหม่จึงต้องสรรหากลยุทธ์ในการดึงกำลังซื้อเหล่านั้น”

ทั้งนี้ แผนการเปิดโครงการใหม่ปี 2559 ของผู้ประกอบการรายใหญ่ 12 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)(บมจ.) , บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ , บมจ. ศุภาลัย , บมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ , บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท , บมจ. แสนสิริ , บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ , บมจ. เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น , บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ , บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ,บมจ. เสนาดีเวลลอปเม้นท์ และบมจ. ไรมอน แลนด์ พบว่า มีจำนวน 229 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3.02 แสนล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 159 โครงการและโครงการอาคารสูง 70 โครงการ

สำหรับยอดพรีเซลของทั้ง 12 บริษัทไม่นับรวมโครงการร่วมลงทุน อยู่ที่ประมาณ 9.67 หมื่นล้านบาท หากรวมโครงการร่วมลงทุน ยอดพรีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 1.04 แสนล้านบาท คิดเป็นยอดพรีเซลครึ่งปีอยู่ที่ประมาณ 47% ของเป้ายอดขายรวมทั้งปีที่ประมาณการไว้กว่า 2 แสนล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบยอดขายในช่วงครึ่งแรกปี 2558 พบว่ายอดพรีเซลไม่นับรวมโครงการร่วมลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1.04 แสนล้านบาท และเมื่อรวมโครงการร่วมลงทุน ยอดพรีเซลจะอยู่ที่ประมาณ 1.26 แสนล้านบาท

ด้านนายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค กล่าวว่า ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการ 15 โครงการ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 10 โครงการ และโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ จากเป้าเปิดโครงการทั้งปี 16 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,100 ล้านบาท สำหรับเป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ 1,600 ล้านบาท ช่วง 7 เดือนบริษัทมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 6,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทมีการปรับแผนการตลาดใหม่ โดยเน้นการจัดอีเวนต์มากขึ้น ทั้งปีมีทั้งหมด 4 งาน เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่จัด 3 งาน โดยใช้ชื่องาน PERFECT STATION POINT ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ครั้งที่ 2 จัดในเดือนสิงหาคม ครั้งที่3เดือนตุลาคม ที่สยามพารากอน และครั้งที่ 4 จะจัดเดือนกันยายนที่เทอร์มินอล 21 ซึ่งผลตอบรับจากการจัดงาน PERFECT STATION POINT ระหว่างวันที่ 18-21 สิงหาคมที่ผ่านมา ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน นับว่าเป็นที่น่าพอใจ คาดว่าสามารถทำยอดขายภายในงานเดียวนี้ได้ 1,000 ล้านบาท

ส่วนด้าน นายเลอศักดิ์ จุลเทศ รองประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท กล่าวว่า บริษัทมั่นใจสามารถทำยอดขายทั้งปีเข้าเป้าที่ตั้งไว้ 5.1 หมื่นล้านบาท หรืออาจจะสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ โดยในช่วง 7 เดือนแรกปี 2559 มียอดขาย 25,290 ล้านบาท เหลืออีก 25,710 ล้านบาทที่จะต้องทำในช่วงที่เหลือของปี ซึ่งคาดว่าในเดือนสิงหาคมจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท

โดยปัจจัยหนุนที่จะช่วยให้บริษัทดำเนินงานได้ตามเป้าหมายคือ ในช่วงครึ่งปีหลังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 38 โครงการ มูลค่ารวม 3.4 หมื่นล้านบาท โดยช่วงครึ่งปีแรกเปิดตัวแล้ว 27 โครงการ มูลค่ารวม 19,641 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย 168 โครงการ มูลค่ารวม 76,084 ล้านบาท และในจำนวน 168 โครงการ บริษัทยังได้นำ 146 โครงการมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย “ พฤกษา Non Stop” ลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2559 จะได้รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ คือ ต่อที่ 1 รับสิทธิพิเศษ เช่น ส่วนลด หรือ ของแถมต่างๆ ตามที่แต่ละโครงการมอบให้ ต่อที่ 2 ฟรีค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ พร้อมกันนี้บริษัทฯได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ 8 แห่ง มอบข้อเสนอฟรีค่าจดจำนอง 1% (เงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งกำหนด) และต่อที่ 3 รับสิทธิ์ลุ้นรับทองคำหนัก 8 บาท จำนวน 20 รางวัล แจกทุกเดือน เป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม – กันยายน 2559) รวมมูลค่ารางวัลทั้งสิ้น 10 ล้านบาท โดยผลการจองซื้อระหว่างวันที่ 1-31 กรกฎาคม 2559 สามารถทำยอดขายได้สูงถึง 1,388 ล้านบาท

ด้านแหล่งข่าวจากบมจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ปี 2559 บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท และช่วง 7 เดือนมียอดขาย 1.4 หมื่นล้านบาท สำหรับเป้าการเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งปีอยู่ที่ 14 โครงการ โดยในช่วงครึ่งแรกปี 2559 เปิดแล้ว 5 โครงการ จากเป้าเปิดโครงการใหม่ครึ่งปี 7 โครงการ โดยโครงการที่เลื่อนการเปิดตัวออกไปคือโครงการ เดอะแบงกอก ทองหล่อ คาดว่าจะเปิดขายในช่วงไตรมาส 3 และโครงการ เดอะ แบงกอก สุขุมวิท 38 ที่อยู่ระหว่างการยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)

ส่วน บมจ. แสนสิริ เผยแผนธุรกิจครึ่งหลังปี 2559 เตรียมเปิดตัว 12 โครงการใหม่ มูลค่า 34,600 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าหมายยอดขาย 4.2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ ยอดขาย 7 เดือนแรกปีนี้คิดเป็น 40% ของเป้ายอดขาย โดยช่วงไตรมาส 3 จัดแคมเปญส่งเสริมการขาย “Good Move ได้เวลาย้าย ขยายความสุข” กับบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ห้องสวยที่มาพร้อมราคาและข้อเสนอสุดพิเศษ พร้อมลุ้นรับบัตรเติมน้ำมันฟรีตลอดปี 2559 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 31 สิงหาคม 2559

ด้านบมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จัดแคมเปญ “ONE PRICE ทุกชั้น ทุกยูนิต ราคาเดียว” โครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงค์อมาตย์ เพียง 1.23 ล้านบาท เฉพาะอาคาร C ขนาดห้อง 26 ตร.ม. จำนวนกว่า 100 หน่วย คิดเป็นมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2559 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด พร้อมรับฟรีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องปรับอากาศ 1 เครื่องทันที หลังโอนกรรมสิทธิ์ และสำหรับลูกค้าที่แนะนำเพื่อนจองซื้อจะได้รับส่วนลดทันที 1 หมื่นบาท

อนึ่ง จากข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ช่วง 7 เดือนแรก (มกราคม-กรกฎาคม) ปี 2559 ของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ พบว่า มีจำนวน 191 โครงการ รวม 48,160 หน่วย แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 119 โครงการ จำนวน 2 หมื่นหน่วย และโครงการอาคารชุด 72 โครงการ จำนวน 28,160 หน่วย ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 19% โดยมีจำนวนโครงการเปิดขายใหม่ 243 โครงการ รวม 59,540 หน่วย แบ่งโครงการแนวราบ 156โครงการ จำนวน 22,760 หน่วย และโครงการอาคารชุด 87โครงการ จำนวน 36,780 หน่วย

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thansettakij.com/2016/08/30/90771