รายการโปรด
รวมประกาศขาย ให้เช่า คอนโด "คอนโด ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช" Condo THE ORIGIN Onnut For Rent / For Sale
หนึ่งในคำถามยอดฮิต เมื่อต้องการหาซื้อคอนโดก็คือ หาคอนโดไม่เกิน 2 ล้านใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่า แม้จะหายากแต่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง ในซอยต่างๆตามแนวสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วง แต่หากมีคนบอกว่า
ไม่เอาหรอกแบบนั้นมันไกลโครตๆ ขอราคาไม่เกิน 2 ล้านใกล้รถไฟฟ้าแถวอ่อนนุช แบบติดถนนใหญ่ มีไหม เชื่อไหมว่า หากคุณไปถามแบบนี้กับนายหน้าหลายๆคน เขาจะหาว่า คุณไปกวน 🦶 เขา เพราะมันมีที่ไหนล่ะ ติดถนนใหญ่อ่อนนุช ราคาไม่เกิน 2 ล้าน
ใช่ครับ มันไม่มีแน่นอน แต่วันนี้มันกำลังจะมี แถมไม่ใช่เริ่มต้น 2 ล้านด้วย แต่เริ่มต้นแค่ 1.29 ล้าน* เท่านั้น เฮ้ย ราคาสุดจัดแบบนี้ มาได้ไง ในยุค NEW NORMAL แบบนี้
พูดแบบนี้ หลายคนบอกว่า มาอีกละ กรูรู้ทันครับ มุขเดิมๆ ตั้งราคาห้องถูกๆห้องเดียว ที่เหลือราคาแพงว่าหลายๆแสน ไอ้ห้องถูกๆรับรองมีแค่ห้องเดียว ใช่ไหม?
เราได้รับการยืนยันออกมาแล้วครับ ห้องราคาล้านกว่าบาท มีหลายห้องมากๆ และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะได้พอๆกัน หากเตรียมตัวมาดี
อ้าว แบบนี้จะรออะไรล่ะครับ มาดูรายละเอียดกันเลยสิครับ ถูกๆแบบนี้ จะดีจริงไหม
หลังจากเปิดตัวไม่นานแบรนด์ The Origin ของ Origin Property ที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ ก็ประสบความสำเร็จและขายดีแทบทุกโครงการ จนตอนนี้กลายเป็นแบรนด์ขวัญใจคนรุ่นใหม่ไปแล้ว
โดยเฉพาะ The Origin พหลฯ-สะพานใหม่ ที่สร้างเสร็จแล้วขายดีมากๆ งานออกมาดี ตรงปกเป๊ะ
และโครงการที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้ ก็ต้องถือว่า เป็นกระแส Talk of the town มากๆ เพราะแค่เปิดตัวทีเซอร์มา คนก็ลงทะเบียนกันอย่างล้นหลาม เพราะใครจะไปเชื่อว่าอยู่ๆ จะมีคอนโดติดถนนใหญ่ทำเล อ่อนนุช ในราคา เริ่มต้นแค่ 1.29 ล้านเท่านั้น
The Origin Onnut (ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช) ราคาสุดจัดแบบนี้ มาได้ไงในยุค NEW NORMAL
โลเคชั่นโครงการ The Origin Onnut (ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช) ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่บนถนนสุขุมวิท 77 หรือถนนอ่อนนุช บริเวณระหว่างซอยอ่อนนุช 24 และอ่อนนุช 26 ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน Esso ห่างจากสถานีอ่อนนุช ประมาณ 2 กิโลเมตร
จะขับรถไปไหนก็ง่าย เพราะแค่ 5 นาที ก็ถึงเส้นสุขุมวิท สามารถออกสุขุมวิทได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทางลัดอ่อนนุชซอย 10 ออกซอยสุขุมวิท 81 หรือ ทางลัดอ่อนนุชซอย 24 ออกซอยสุขุมวิท 93 เพื่อวิ่งเข้าเมืองไปทองหล่อ พร้อมพงษ์ อโศก จนถึงสยามได้ หรือออกไปพระราม4 เพื่อเข้าสู่สาทร-สีลม ย่านธุรกิจ โดยใช้ระยะเวลาไม่นาน ขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานคร เพื่อเชื่อมไปยังพระราม 9 วิภาวดีรังสิตยาวจนถึงแจ้งวัฒนะ รวมไปถึงมีทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ออกไปลาดพร้าวและรามอินทราได้ อีกทั้งยังออกต่างจังหวัดก็สะดวกสบาย เพราะถนนอ่อนนุชจะตัดออกไปเชื่อมกับถนนศรีนครินทร์ มุ่งหน้าเข้ามอเตอร์เวย์เพื่อไปชลบุรีและระยองนั่นเอง
เรื่องความเจริญด้านอื่นๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง เพียบพร้อมในทุกทิศทาง ไล่เรียงตั้งแต่ ร้านอาหารตามตรอกซอกซอย ร้านสะดวกซื้อ คอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้า ยกตัวอย่าง 7-11 ห่างจากโครงการแค่ 50 เมตร, Makro, People Park, Habito Mall, Century Onnut, Big C onnut, Lotus onnut และ Pickadaily Bangkok มีครบหมดตั้งแต่อาหารการกิน โรงภาพยนตร์ ไปจนถึงช้อปปิ้งซื้อของ เพื่อให้เราเลือกสรรได้ตามใจชอบ
ขอบคุณภาพ : Facebook Pickadaily Bangkok
ขณะที่ สถานศึกษา ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนนานาชาติมีชื่อเสียง เช่น Bangkok prep international school, Wells International School และ Anglo Singapore International School เป็นต้น สำหรับ สถานพยาบาล คือ รพ.กล้วยน้ำไท และรพ.สุขุมวิท ที่อยู่ละแวกใกล้เคียงโครงการ
ขอบคุณภาพ : bkkprep
พูดโลเคชั่นไปเยอะแล้ว มาดูโครงการกันบ้างดีกว่า The Origin Onnut (ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช) เป็นคอนโด Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร อาคาร A 216 ยูนิต และอาคาร B 183 ยูนิต รวม 399 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต แต่แม้จะเป็นคอนโด Low Rise ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในเรื่องของวิวทิวทัศน์ เพราะบริเวณรอบๆ โครงการ เป็นที่พักอาศัยสูงแค่ 2 ชั้น และเป็นพื้นที่โล่ง ซึ่งห้องพักของโครงการส่วนใหญ่จะเริ่มที่ชั้น 3 ทำให้ไม่มีอะไรมาบดบังทัศนียภาพ
สามารถจอดรถได้ 35% (รวมซ้อนคัน) และอย่างที่บอกว่า Facility ให้มาเพียบคือมากกว่าโครงการ Low Rise ที่เราเห็นโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น Lobby, Co-Passion Space, Refreshing Terrace, Pocket Garden, Creative Garden, Swimming Pool 25 m, Pool Lounge, Fitness, Multi-Training Zone, Sky Lounge, Rooftop Garden และบริการรถตู้รับ-ส่งจากโครงการไปยังสถานี BTS อ่อนนุช
ทำให้บรรดาลูกบ้านสามารถเลือกใช้ส่วนกลาง ได้ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน อยากนั่งทำงาน นั่งพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายได้สุขภาพ หรือจะสังสรรค์ปาร์ตี้ และชมวิวเมือง ก็มีให้ครบครันและเพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับ ห้องพักอาศัย ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted คือมีชุดเคาน์เตอร์ครัวและฐานเตียงไว้ให้เรียบร้อย พร้อม Smart Plug เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ให้คนรุ่น Gen Z Connect หรือชาร์จได้ง่าย โดยมีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่
1. 1 Bed Room-Smart Closet ขนาด 21.5 ตารางเมตร - ความพิเศษของห้องนี้คือเป็น New Product มีการจัดสรรพื้นที่แต่ละส่วนได้อย่างลงตัว ไม่ใช่ห้อง Studio ถ้าดูจากแปลนเข้ามาจะเจอกับ ห้องครัวก่อนซึ่งได้เป็นครัวปิด และมีพื้นที่ให้บิวท์ตู้รองเท้าก่อนเข้าสู่ห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นการออกแบบที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต New Normal ที่เรื่องของความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญทำให้เราสามารถล้างมือ และเก็บรองเท้าที่อาจมีเชื้อโรคเกาะติดมา ก่อนเข้าสู่เซฟโซนของเราได้เป็นอย่างดี
ถัดไปเป็น ห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกลางสักตัว บิวท์ชั้นวางทีวี ก็ยังมีพื้นที่ให้เดินไปส่วนของที่นอนได้แบบไม่ต้องกลัวเดินชน โดยทางโครงการจัดฐานเตียงขนาด 5 ฟุตมาให้แล้ว
แต่ทีเด็ดของห้องนี้คือ Smart Closet หรือเรียกกันว่า Walk in Closet มีประตูกั้นแยกเป็นสัดส่วน ซึ่งสามารถบิวท์อินตู้หรือชั้นพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบสบายๆ เลย เก็บเสื้อผ้าได้เพียบ ห้องน้ำ ก็จะอยู่ในส่วนนี้ให้สุขภัณฑ์มาครบ และเชื่อมต่อกับระเบียงด้วย สายแฟชั่นชอบแต่งตัวต้องจองห้องนี้ให้ไว
2. 1 Bed Room ขนาด 26.5 ตารางเมตร - ห้องต่อมาก็จัดฟังก์ชันได้เหมาะเจาะ เป็นห้องหน้ากว้างเปิดเข้ามาเป็นห้องครัวแบบปิด เหมือนห้องข้างบน ฝั่งตรงข้ามไว้วางตู้รองเท้า พอกลับมาจากข้างนอกได้เก็บรองเท้าเข้าตู้ทันที เพื่อความเป็นระเบียบและป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ห้องพักผ่อน และสามารถหันไปล้างไม้ล้างมือให้สะอาดตรงเคาน์เตอร์ครัวได้ทันที เพื่อป้องกันโรค Covid-19 นั่นเอง
ก้าวเข้าสู่ ห้องนั่งเล่น ให้พื้นที่มาพอสมควรสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ชั้นวางทีวี และยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะกินข้าวเพิ่มได้ โดยระเบียงจะอยู่ที่ฝั่งห้องนั่งเล่นเช่นเดียวกัน
ถัดไปคือ ห้องนอน จะได้เป็นประตูและผนังทึบ เพื่อเพิ่มความเป็นไพรเวซี่และให้ผู้อยู่อาศัยพักผ่อนได้เต็มประสิทธิภาพ ขณะที่ ห้องน้ำ จะอยู่ในนี้เพื่อให้สะดวกในการเข้าใช้โดยไม่ต้องออกจากห้องนอน สำหรับห้องนี้เหมาะกับคนที่ชอบการแบ่งสัดส่วนที่ชัดเจน และต้องการความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น
3. 1 Bed Room Plus ขนาด 34 ตารางเมตร - ห้องสุดท้ายที่ยังคงคอนเซ็ปต์ในเรื่องของ ห้องครัวแบบปิด ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเพราะกลิ่นของอาหารจะได้ไม่ลอยอบอวลไปยังห้องอื่น และแน่นอนว่าทางโครงการยังคงเห็นถึงความสำคัญของความสะอาดของผู้อยู่ เพื่อป้องกัน Covid-19 จึงได้ออกแบบให้เว้นสเปซในการทำตู้เก็บรองเท้า เพราะรองเท้าเป็นการนำพาเชื้อโรคต่างๆ ต้องเก็บให้เป็นที่เป็นทาง เช่นเดียวกับมือของเราที่ไม่รู้ไปจับอะไรมาบ้าง เลยวางแปลนให้ห้องครัวและห้องน้ำอยู่ใกล้ทางเข้าห้อง เพื่อให้เราล้างมือให้เรียบร้อยก่อนจะไปจับสิ่งของต่างๆ ภายในห้อง
โดยตัวห้อง Type นี้ ก็มีจุดเด่นหลายอย่าง ตั้งแต่ ห้องนั่งเล่น ที่มีขนาดใหญ่ วางโซฟาตัวแอลขนาด 3 ที่นั่งได้ชิลๆ เหมาะแก่การนั่งดูหนังผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ห้องน้ำ เองก็อยู่ระหว่างห้องนอนใหญ่และห้อง Multi Function ทำให้เวลาเพื่อนๆ มาหาก็ไม่ต้องเข้าห้องนอนเราที่เป็นพื้นที่ส่วนตัว
ห้องนอนใหญ่ ก็ใหญ่สมชื่อวางเตียง 5 ฟุตแล้ว ก็ยังเหลือพื้นที่ว่างให้บิวท์ตู้เสื้อผ้า วางโต๊ะเครื่องแป้ง และมีระยะพอให้ติดทีวีนอนดูหนังในห้องได้เลย
ด้าน ห้อง Multi-Function ขนาดกำลังพอดี สามารถทำเป็นห้องนอน ห้องทำงาน Walk in Closet ห้องโยคะ หรือห้องอื่นๆ เพื่อเป็นพื้นที่ส่วนตัวให้คน Gen Z ออกไอเดียได้อย่างจัดเต็ม นอกจากนี้คือการให้ช่องเปิดรับแสงธรรมชาติมาค่อนข้างเยอะ ซึ่งอยู่ทั้งในห้องนั่งเล่น ห้องนอนใหญ่ และห้อง Multi-Function เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งสบายไม่อึดอัด
สรุป
เอาจริงๆนะ แค่ทำเลแบบนี้ ล้านกว่าบาท คนก็แย่งกันซื้อแล้ว แต่ที่ The Origin Onnut (ดิ ออริจิ้น อ่อนนุช) เค้าจัดมาให้เต็มๆ เทียบชั้นคอนโดราคา 3 ล้านขึ้นไปเลย แต่ทำมาขายในราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท แถมไม่ใช่มีแค่ห้องเดียวด้วย แว่วๆ มาว่ามีเกิน 10 ห้องเลย ขึ้นอยู่กับว่าใครกดจองก่อนได้ก่อน
จึงไม่อยากให้กลุ่ม Gen Z และกลุ่ม First Jobber ต้องพลาดเพราะเหมาะอย่างมากกับการเป็นคอนโดหลังแรกในชีวิต ส่วนตัวแอบชอบห้องห้อง 1 Bed Room-Smart Closet ขนาด 21.5 ตารางเมตร เหมาะกับคนเพิ่งเริ่มต้นแต่ได้คุณภาพกลับไปเกินความคุ้มค่า
ส่วนจะเลือกตำแหน่งหรือชั้นไหนอันนี้บอกได้ยาก เพราะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ถ้าชอบเสพวิวเมืองก็ต้องเลือกชั้นสูงๆ บางคนชอบใช้ Facility ก็เลือกอยู่ชั้นเดียวกับส่วนกลางเพื่อความสะดวก หรือเลือกห้องที่ระเบียงหันเข้าหาส่วนกลางก็ได้เหมือนกัน ใครที่เป็นคนง่ายๆ อยากถึงห้องเร็วไม่ต้องเดินไกล ห้องใกล้ลิฟต์ก็ดูตอบโจทย์
ที่สำคัญทางโครงการยังมี One Stop service Ad on Item ให้เลือกชุดแต่ง Built-In ครบชุด ในราคาย่อมเยาเพียง 80,000-90,000 บาท ซึ่งคุ้มค่ากว่าไปจ้างข้างนอกทำเอง เพราะอย่างต่ำก็ต้องมีประมาณ 150,000 บาทเลยทีเดียว
สำหรับสายลงทุน ส่วนตัวมองว่า Type 1 Bed Room ขนาด 26.5 ตารางเมตร คือกำลังดีเลย ขนาดมาตรฐาน มีการจัดพื้นที่ชัดเจนสามารถใช้งานได้จริง เพื่อให้เกิดกลุ่มผู้เช่าที่หลากหลายได้ทั้งชาวไทยและต่างชาติ จะเลือกห้องที่เห็นวิวส่วนกลางก็สวยดีแถมปล่อยเช่าได้ง่าย เห็นว่ามีราคาสำหรับพร้อมเฟอร์นิเจอร์ให้ด้วย
ส่วนใครชอบของแรร์ไอเท็มเป็นของดีมีน้อย Unit Recommend สุดๆ ต้องขนาด 1 Bed Room Plus ขนาด 34 ตารางเมตร ห้องใหญ่มีสเปซให้ทำกิจกรรมส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในราคาที่ยังสบายกระเป๋า
เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความเป็น New Normal หลีกเลี่ยงการพบปะพูดคุยกันเพื่อความสบายใจของลูกค้า จึงทำการเปิดให้จองออนไลน์ 100% ทั้งหมด พร้อมกันในวันที่ 8 เดือน 8 นี้ โดยใช้เงินจองและทำสัญญา ในราคาแค่ 40,000 บาท
สามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่นี่ >>> https://bit.ly/39LpcUj โดยลิงก์นี้จะเป็นตัวเชื่อมที่ให้เราสามารถศึกษาข้อมูลแบบละเอียดและใช้ในการจองด้วยเหมือนกัน ล็อกวันเช็กอินเทอร์เน็ตไว้ให้เรียบร้อย เพราะช้าแปลว่าพลาดหมดไวแน่นอน
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
Content หลากหลายดีค่ะ
รูปภาพประกอบสวยมากเลยค่ะ
5 ดาวไปเลยครับ
รีวิวอ่านง่าย รูปภาพสวยครับ
ขอบคุณบทความที่มีประโยชน์ครับ