รายการโปรด
เมื่อระยะห่างและความเป็นส่วนตัวมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตในช่วงที่มีโรคติดต่อแบบนี้ บ้าน จึงเป็นสิ่งทุกคนอยากมีไว้เปนของตัวเองซักหลัง จะดีแค่ไหน ถ้าเรามีพื้นที่ส่วนตัวกว้างๆ ได้มีสวนเล็กๆหน้าบ้าน ได้มีห้องพักผ่อนในหลายๆห้องตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน แน่นอนว่า มันช่วยให้เราได้พักผ่อนและหายเหนื่อยจากการทำงานได้อย่างดี
หากพูดถึงงบประมาณ 5 ล้านบาทปลายๆ ในสมัยนี้ หลายคนคงคิดเหมือนกันว่า คงจะได้แค่ประมาณทาวน์โฮมหลังเล็กๆ แต่ถ้าเราบอกว่า คุณจะได้บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ๆแถมทำเลติดถนนใหญ่เลยล่ะ คุณจะเชื่อไหม ?
The Eternity Greenwood Rangsit - Wongwaen (ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต-วงแหวน รังสิต – วงแหวน) บ้านเดี่ยวหน้ากว้าง ที่ใครๆเห็นก็ต้องชอบ พร้อมทำเลติดถนนใหญ่ รังสิต - นครนายก ที่หาราคาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ตัวโครงการตั้งอยู่ บนถนนรังสิต-นครนายก ซึ่งถือว่าอยู่บนเส้นที่เดินทางสะดวกพอสมควร เนื่องจากสามารถเชื่อมกับถนนได้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนวงแหวนรอบนอก ถนนพหลโยธินเพื่อวิ่งขึ้นโทลเวย์ดอนเมืองให้เข้าใจกลางกรุงเทพฯ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังวิ่งออกไปปทุมธานีและนนทบุรีได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังเชื่อมกับถนนกาญจนาภิเษก ลำลูกกา สายไหม รวมไปถึงรามอินทรา อีกทั้งยังไม่ไกลจากทางด่วนศรีรัช-วงแหวนตะวันออก และทางยกระดับอุตราภิมุข
แม้จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่ในอนาคตบริเวณนี้จะมีรถไฟฟ้าถึง 2 สายด้วยกัน ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดง (บางซื่อ-รังสิต) และรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (ช่วง หมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต) ซึ่งจะช่วยให้เข้าเมืองได้รวดเร็วกว่าเดิม
ขอบคุณภาพ : pantip
สำหรับแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ต่างๆ ก็เรียกได้ว่าครบครันตั้งแต่ตลาดไปจนถึงห้างสรรพสินค้า ได้แก่ ตลาดไท, ตลาดรังสิต, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต, เซียร์รังสิต, เทสโก โลตัส รังสิต-นครนายก, ไทวัสดุ, สวนสนุกดรีมเวิลด์ และอีกหลากหลายสิ่งอำนวยความสะดวกที่รายล้อมโดยรอบ
และยังเต็มไปด้วย สถานศึกษา ทั้งโรงเรียนนานาชาติสยาม, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต, มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยรังสิต และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ ส่วน สถานพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลเอกปทุม และโรงพยาบาลเปาโลรังสิต เป็นต้น
ขอบคุณภาพ : Facebook Siam International School
เมื่อขับรถเข้ามาภายในโครงการ The Eternity Greenwood Rangsit - Wongwaen (ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต-วงแหวน รังสิต – วงแหวน) นั่นหมายความว่าคุณกำลังอยู่บนพื้นที่กว่า 72 ไร่ โดยเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมดเพียง 335 ยูนิต ซึ่งพอเทียบพื้นที่กับจำนวนบ้านซึ่งถือว่ามีไม่มาก อีกทั้งแต่ละซอยก็ถูกแบ่งย่อยออกไปอีก ทำให้มีบ้านอยู่แค่ประมาณ 8 หลังต่อหนึ่งซอยเท่านั้นเอง ก็บ่งบอกได้เป็นอย่างดี ถึงการเน้นความเป็นส่วนตัวของลูกบ้านในแต่ละครอบครัว
อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับ พื้นที่ส่วนกลาง ที่เป็นจุดเชื่อมต่อของครอบครัวและคนในหมู่บ้าน ได้ออกมาสานสัมพันธ์ ทำกิจกรรมใช้ชีวิตข้างนอกบ้านบ้าง ซึ่งมีขนาดถึง 2 ไร่ เพื่อให้รองรับได้อย่างทั่วถึง โดยมีทั้ง คลับเฮ้าส์ สระว่ายน้ำ ว่ายเพื่อสุขภาพหรือจะพาเด็กๆ มาเล่นน้ำก็ได้เหมือนกัน ฟิตเนส สำหรับผู้ใหญ่ มีเครื่องหลากหลายออกได้ทุกสัดส่วน เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง Basketball Area พื้นที่สำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง กีฬาที่สามารถให้ทุกคนร่วมเล่นด้วยกันได้
นอกจากนี้ยังมี สวนและสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่ ให้ออกมานั่งเล่นนั่งพักผ่อนท่ามกลางต้นไม้นานาพันธุ์ เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ รวมถึงมี Bike Lane เลนจักรยานที่ยาวประมาณ 1.8 กิโลเมตร และสามารถใช้วิ่งออกกำลังกายได้แบบจริงจังเลย
ขณะที่ตัวบ้านแต่ละหลังออกแบบในสไตล์ Modern Eco Passive เป็นบ้านประหยัดพลังงาน ที่มีการดีไซน์วางแบบแปลนให้ได้องศาที่พอเหมาะ ไม่ให้โดนแดดจนเกินไป และลมสามารถพัดผ่านได้ทั่วถึง เพื่อให้รู้สึกอากาศดีร่มเย็นสบายตลอดทั้งวัน ที่สำคัญเขาออกแบบเป็นบ้านหน้ากว้างโดยสร้างเกือบเต็มพื้นที่ดินและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ดีมากๆ รับรองได้ว่า ทุกคนมาเห็นจะต้องชอบแน่ๆ โดยตอนนี้มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ซึ่งเราจะพาไปชมทุกแบบเลย
แบบแรกจะมีขนาดเล็กที่สุดในโครงการนี้ แต่ว่าพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านนั้นเมื่อเทียบกับโครงการทั่วไป จะได้พื้นที่ใช้สอยมากกว่าปกติ ที่จะได้พื้นที่ใช้สอยประมาณ 150 – 160 ตารางเมตร แต่ที่นี่ได้ถึง 185 ตารางเมตร
โดยทางเข้าหลักจะมีแค่ทางเดียว เปิดมาจะเจอกับส่วนของ ห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟาได้หลากหลายแบบ ทั้งแบบตัว I ขนาด 3 ที่นั่ง ไว้ตรงกลาง และเสริมด้วยโซฟา 1 ที่นั่ง หรือจะเป็นในลักษณะตัว L พร้อมโต๊ะกลางก็ดูเข้าท่า โดยพื้นถึงเพดานตรงส่วนนี้สูงประมาณ 2.8 เมตร
อีกฝั่งหนึ่งไว้สำหรับวางทีวี เลือกซื้อเกินขนาด 50 นิ้วได้สบาย โดยผนังทึบจะถูกแทนที่ด้วยหน้าต่างบานใหญ่เต็มบานแบบ Bay Window เพื่อดึงแสงธรรมชาติเข้ามาได้มากช่วยให้ดูโปร่งโล่ง
ติดกันเป็นส่วนของมุมรับประทานอาหาร วางโต๊ะกินข้าวได้ 4-6 ที่นั่ง จะเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมหรือโต๊ะกลมก็แล้วแต่ความชอบเลย และตรงนี้จะเชื่อมไปยังประตูกระจกที่ออกไปสู่ด้านข้างของตัวบ้านได้
ส่วน ห้องครัว ได้ขนาดใหญ่มากซึ่งแนะนำให้ทำแบบบ้านตัวอย่าง โดยบิวท์เคาน์เตอร์ครัว และตู้เก็บของด้านบนทั้งสองฝั่งไปเลย เพื่อให้มีพื้นที่ในการเตรียมอาหาร และวางอุปกรณ์เครื่องปรุงต่างๆ
และชั้นล่าง ยังมีอีกหนึ่งห้องที่จะทำเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัว หากใครมีผู้สูงอายุเหมาะมากกับการทำเป็นห้องนอน วางเตียง 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า พร้อมบิวท์อินชั้นวางทีวี ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือ
ห้องน้ำ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างห้องนอนชั้นล่างกับห้องครัว ได้อ่างล้างหน้า ติดกระจกบานใหญ่ โถสุขภัณฑ์ และโซนอาบน้ำครบพร้อมใช้งานได้จริง
ก้าวขึ้นข้างบนไปชั้นสองจะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ตรงโถงทางเดินมีมุมไว้สำหรับนั่งเล่นนั่งอ่านหนังสือได้
เริ่มที่ Master Bedroom กินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของชั้นทำให้ได้ห้องขนาดใหญ่ วางเตียง 6 ฟุต โต๊ะหัวเตียง วางโซฟาหน้าเตียง และบิวท์ชั้นวางทีวีเต็มผนัง ก็ยังมีสเปซแบบเหลือเฟือ
โดดเด่นด้วยประตูกระจกเต็มผนังทำให้ห้องดูกว้างมากกว่าเดิม โดยจะเชื่อมไปสู่ระเบียงภายนอกมีขนาดยาว ทำเป็นมุมนั่งเล่นรับลมชมวิว
มีมุมสำหรับ Walk-in Closet ประมาณหนึ่ง ให้สามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะทีเดียว และมีห้องน้ำในตัว ลักษณะคล้ายกับชั้นล่าง แต่เพิ่มพื้นที่สำหรับวางของใช้ในห้องน้ำหลังอ่างล้างหน้ามาให้ด้วย
อีกสองห้องที่เหลือ มีห้องหนึ่งจะขนาดใหญ่กว่าอีกห้องนิดเดียว มองเผินๆ ก็ไม่ต่างกันมากนัก ครอบครัวไหนมีลูกๆ ได้ไม่ต้องทะเลาะกันเพื่อแย่งห้องใหญ่ โดยใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงบริเวณโถงทางเดิน
ลักษณะการจัดวางของชั้นล่างจะคล้ายกับแบบแรก มีจุดที่ต่างกันบ้างนิดหน่อยตรงที่ทางเข้าบ้านจะเข้าได้ทั้งแบบประตูเลื่อนบานใหญ่และแบบประตูทึบ
โดยจะเจอกับส่วนของ ห้องนั่งเล่น หรือไว้รับแขกเหมือนเดิม เชื่อมต่อกับส่วนของมุมรับประทานอาหาร และสามารถเปิดประตูรับลม จากสวนด้านข้างของตัวบ้านเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
สำหรับ ห้องครัว บ้านจริงจะได้แบบครัวปิด แต่ใครจะนำไอเดียจากบ้านตัวอย่างทำครัวเป็นแบบนี้ก็ไม่ผิด เหมาะกับครอบครัวที่ไม่ค่อยได้ทำอาหารกินเอง
และชั้นล่างยังมีอีกหนึ่งห้อง ไว้ให้เราออกไอเดียในการตกแต่งได้อย่างอิสระ ติดกันเป็นห้องน้ำพร้อมส่วนของอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย
ชั้นบนตรงโถงทางเดินจะพบกับมุมไว้นั่งเล่น ส่วนตรงชั้นลอยนั้นทางโครงการทำไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างเท่านั้น ซึ่งเราสามารถทำตามแบบนี้ได้ไว้สำหรับอ่านหนังสือ หรือทำเป็นห้องพระก็เหมาะสม
ตัว Master Bedroom เหมือนกับบ้านหลังแรกที่เอ่ยไปข้างต้น สามารถวางเตียง โต๊ะหัวเตียง และสตูลปลายเตียง ก็ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินออกสู่ระเบียงด้านนอกได้โดยไม่ต้องกลัวเดินชน
มาพร้อมกับ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ ให้สามารถบิวท์อินตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบไม่รู้สึกอึดอัด และห้องน้ำที่มีสุขภัณฑ์ครบครัน
ส่วนอีก 2 ห้องมีขนารองลงมา จะมีห้องน้ำให้ในตัว ซึ่งเป็นข้อดีในเรื่องของความเป็นส่วนตัวและไม่ต้องแย่งกันใช้งาน เหมาะกับครอบครัวที่มีลูกอยู่ในช่วงวัยรุ่น ที่อยากได้พื้นที่สำหรับตัวเองอย่างแท้จริง
โดยทางโครงการทำเป็น Sale Gallery ซึ่งถ้าเป็นบ้านจริงจะเจอส่วนของ ห้องนั่งเล่นเป็นอันดับแรก ตัวเพดานเปิดโล่งไปจนถึงชั้น 2 เพื่อเพิ่มความโปร่งให้แก่บ้านและได้มุมมองที่แตกต่าง
บริเวณถัดไปไว้วางโต๊ะกินข้าว และมีสเปซพอให้ทำเคาน์เตอร์บาร์ไว้สำหรับเตรียมอาหารเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ต้องจริงจังในการปรุงอาหารมากนัก
ถัดไปเป็น ห้องครัว โดยทางโครงการทำหน้าต่างให้สามารถเปิดเชื่อมกับคนที่อยู่ฝั่งห้องกินข้าวได้ หรือขณะที่ผู้ปกครองทำอาหารอยู่ก็จะได้เห็นความเคลื่อนไหวของเด็กๆ แบบไม่คลาดสายตา และตรงข้ามเป็นห้องน้ำสำหรับชั้นล่าง
สุดท้าย ที่ชั้นล่างมีห้องนอน ซึ่งจะอยู่ติดกับทางฝั่งห้องนั่งเล่น และมีห้องน้ำในตัวเลยทำให้ใช้งานได้สะดวก และไม่ต้องใช้ร่วมกับแขกที่มาเยี่ยมบ้าน
ไปดูชั้นสองกันบ้างซึ่งจะพบกับ ชั้นลอย เหมือนกับบ้านแบบที่ 2 มีขนาดสี่เหลี่ยมผืนผ้า ทำให้ง่ายต่อการดีไซน์และการจัดวางเป็นมุมที่ต้องการ
โดย Master Bedroom เปิดโล่งด้วยหน้าต่างถึงสองฝั่ง ทำให้แสงธรรมชาติส่องสว่างถึงทุกมุมห้อง ส่งผลให้ห้องจากที่กว้างอยู่แล้วยิ่งกว้างเข้าไปใหญ่ วางเตียง 6 ฟุตได้สบาย แถมยังมีพื้นที่เหลือไว้สำหรับวางโต๊ะไว้นั่งทำงาน
พร้อม Walk-in Closet ขนาดใหญ่เหมือนเป็นอีกห้องๆ หนึ่ง บิวท์อินตู้เสื้อผ้าเต็มผนังตั้งแต่พื้นจรดเพดานไปเลย เพิ่มโต๊ะเครื่องแป้งตรงหน้าต่างอีกนิดเป็นอันสวยงามลงตัว
แต่ที่ชอบคือ ห้องน้ำ ออกแบบมาได้เหมาะแก่การใช้ชีวิตร่วมกัน เพราะมีอ่างล้างหน้ามาให้ 2 อ่าง แยกการใช้งานของแต่ละคน เท่านั้นไม่พอยังทำการกั้นห้องด้วยกระจกนิรภัย แยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนคือดีงามมาก
ถัดไปเป็น ห้องใหญ่รองลงมาก็มี Walk-in Closet ให้เช่นเดียวกัน ห้องน้ำก็ได้อ่างล้างหน้าแบบฝังเคาน์เตอร์ และยังได้ระเบียงส่วนตัวอีกต่างหาก
ส่วนห้องสุดท้ายเล็กสุดแต่ก็ยังถือว่าใหญ่อยู่ดี วางเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้เลย พร้อมห้องน้ำและระเบียงส่วนตัว ถือว่าเป็นห้องนอนที่ครบทุกฟังก์ชันจริงๆ
สรุป → The Eternity Greenwood Rangsit - Wongwaen (ดิ อิเธอร์นิตี้ กรีนวู้ด รังสิต-วงแหวน รังสิต – วงแหวน) เป็นบ้านที่เรากล้าบอกได้เลยว่า ทำเลดี และ ทำบ้านได้น่าอยู่มากๆ โดยราคาที่เปิดมาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาท ถือว่า ไม่แพงและคุ้มค่าครับ เพราะนี่คือบ้านที่สมาชิกทุกเจเนอเรชั่นในครอบครัวสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมขายดีมากๆ เพราะวันที่เรามามีลูกค้าเข้าชมทุก 10 นาทีเลยครับ ขนาดเป็นวันธรรมดาที่ไม่ใช่วันหยุด ดังนั้นหากท่านสนใจต้องรีบ เพราะหมดเร็วแน่ๆ หากสนใจสามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่นี่ https://bit.ly/ETGW-LI
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-11
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
ขอบคุณที่คอยอัพเดทข่าวสารให้ทราบค่ะ
ขอบคุณที่ทำเว็บดีๆ แบบนี้มาให้ได้อ่านกันนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนดี รอติดตาม
อ่านแล้วรู้สึกดี จะดีกว่านี้ถ้าโครงการลดราคาและให้ของฟรีด้วย อิอิ
รีวิวเขียนดีจังค่ะ