News
icon share

ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ SC เหยียบคันเร่งลงทุนครึ่งปีหลัง

LivingInsider Report 2016-08-15 12:49:56
ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ SC เหยียบคันเร่งลงทุนครึ่งปีหลัง

 

 

ผ่านพ้นทั้งครึ่งปีแรกและโหวตประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ บริษัทอสังหาริมทรัพย์มหาชน "เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น" คว้ายอดรับรู้รายได้เกินครึ่งทางจากเป้าที่ตั้งไว้ 15,000 ล้านบาท นับเป็นภาพความสำเร็จอย่างชัดเจน "ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์" ซีอีโอ บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ให้สัมภาษณ์ถึงแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง

 


- ผลประกอบการครึ่งปีแรก

 


ภาพรวมเศรษฐกิจที่ผ่านมายังไม่ดีเท่าที่ควร ทั้งเศรษฐกิจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ เช่น การที่อังกฤษออกจากอียู หรือเบรกซิต ส่งผลต่อความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโดยรวมยุโรป อเมริกายังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร รวมถึงเศรษฐกิจภายในประเทศก็ยังไม่ฟื้นตัว หนี้ครัวเรือนก็ยังสูงอยู่ ตลาดอสังหาฯเองมีผลกระทบขาดความเชื่อมั่นตามไปด้วย ดูจากการเปิดตัวโครงการใหม่ลดลง เพราะผู้ประกอบการแต่ละรายมีความไม่แน่ใจในสถานการณ์ ดังนั้นภาคอสังหาฯไม่น่าเติบโตมาก 

 

 

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดียังไงยังจำกัดผลกระทบในกลุ่มตลาดกลาง-ล่าง ในขณะที่เอสซีฯเน้นจับลูกค้าตลาดกลาง-บนซึ่งมีกำลังซื้อสูง ได้รับผลกระทบไม่มาก ทำให้แผนลงทุนพัฒนาโครงการเป็นไปตามเป้า โดยแนวราบเติบโต 7% เทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปีྲྀ ยอดโอนคอนโดฯยังทำได้ดี ส่วนหนึ่งรับอานิสงส์จากมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาฯของรัฐบาล ทำให้ผลประกอบการครึ่งปีแรกดีกว่าที่คิด จากครึ่งทางจะต้องทำรายได้ 7,500 ล้านบาท

 


- ผลกระทบจากประชามติ

 


ประเมินให้ฟังแล้วครับว่าไม่น่ามีผลกระทบกับภาคอสังหาฯ ถ้าไม่มีความวุ่นวายอะไร

 


สำหรับครึ่งปีหลังเรามีการปรับแผนธุรกิจ จากเดิมเตรียมเปิดตัวใหม่ 10 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท รีวิวแผนลงทุนแล้วจะเพิ่มเป็น 11 โครงการ มูลค่ารวมเป็น 25,000 ล้านบาท โดยโครงการที่จะเพิ่มขึ้นมาเป็นคอนโดมิเนียม โดยจังหวะการเปิดตัวใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปีเปิดตัวไปแล้ว 5 โครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 4 คอนโดฯ 1 โครงการ มูลค่ารวม 11,000 ล้านบาท

 



เหลือแผนต้องเปิดให้ครบตามเป้าอีก 6 โครงการในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่ารวม 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ กลุ่มราคาหลังละ 20-30 ล้านบาทขึ้นไป ยังเน้นตลาดบ้านเดี่ยวพรีเมี่ยมเป็นหลัก ในแง่แบรนด์จะมีทั้งเก่าและใหม่ โดยแบรนด์เดิมคือ แกรนด์ บางกอก บูเลอวาร์ด มีเปิดใหม่ 2 ทำเล ที่พระราม 9 กับราชพฤกษ์-พระราม 5 

 


กับจะมีแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้นมา คือ เดอะ เจนทริ สุขุมวิท 101 เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 20 ล้านบาท กับแบรนด์เฮดควอเตอร์ส ทำเลย่านทาวน์อินทาวน์ ทะลุการเดินทางได้ทั้งลาดพร้าว รามคำแหง รัชดาฯ เป็นทาวน์โฮม 5 ชั้น ราคาเริ่มต้น 28 ล้านบาท จุดขายมีลิฟต์ในบ้านทุกหลัง

 


ส่วนคอนโดฯมีแบรนด์แชมเบอร์ส เฌอ รัชดา-รามอินทรา อาคารโลว์ไรส์ 8 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 28 ตร.ม. เจาะกลุ่มราคาคอนโดฯ 1-3 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดใหญ่ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท กับอีกโครงการใช้แบรนด์ใหม่ ทเวนตี้เอท ชิดลม ถือเป็นลิมิเต็ดคอลเล็กชั่นและเป็นโครงการไฮไลต์ของบริษัท คิดว่าคงจะทำออกมาเพียงโครงการเดียว ทำบนที่ดิน 3 ไร่ มูลค่าโครงการ 8,000 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า ตร.ม.ละ 3 แสนบาท

 


ที่มาของแบรนด์ทเวนตี้เอท ชิดลม ตัวเลข 28 มาจากบ้านเลขที่ของแปลงที่ดินที่ซื้อมาพัฒนา และเนื่องจากที่ดินมี 3 ไร่ จึงออกแบบเป็นตึกสูง 20 ชั้น กับ 50 ชั้น ส่วนใหญ่เป็นแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 40 ตร.ม.

 


- สัดส่วนรายได้ยังคงเดิม

 



พอร์ตรายได้ 2 ส่วน มีพร็อพเพอร์ตี้เพื่อขาย หรือแบบโอนกรรมสิทธิ์ 93% และพร็อพเพอร์ตี้ให้เช่า 7% สำหรับพร็อพเพอร์ตี้เพื่อขายแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 70% แนวสูง 30% โดยโครงการแนวราบยังให้ความสำคัญกับตลาดที่เอสซีฯเชี่ยวชาญ เป็นตลาดสินค้าราคาบ้าน 15 ล้านบาทขึ้นไป สัดส่วน 40% อีก 60% รายได้คละกันไปหลายราคา 

 



ตัวอย่างการพัฒนาแนวราบเมื่อปีที่ผ่านมา เราขยายตลาดไปยังกลุ่มบ้านราคา 3-5 ล้านบาท โดยทดลองเปิดขาย 2 โครงการ มีผลตอบรับที่ดีน่าพอใจ ดังนั้นในอนาคตก็ยังให้ความสำคัญกับตลาดนี้อยู่ต่อเนื่อง ตั้งเป้าในปี 2562 มีสัดส่วน 15% ของพอร์ตรายได้แนวราบ 

 


- งบฯซื้อแลนด์แบงก์

 


ปีนี้เตรียมไว้ 8,000 ล้านบาท ใช้ไปแล้ว 70% โดยเราเซ็นสัญญาไปแล้ว 30-40% ที่เหลือกำลังจะเซ็นสัญญา เชื่อว่าอีก 30% ของแผนน่าจะไล่ซื้อในไตรมาส 3/59 ให้ครบและน่าจะทำได้สำเร็จ วงเงินที่ตั้งไว้ถือว่าสูงกว่าทุกปี โดยการซื้อที่ดินถือว่ามีความยากขึ้น เนื่องจากมีการแข่งขันสูง ราคาปรับตัวค่อนข้างแพง 

 


แต่จะแพงยังไงก็ตาม ความจำเป็นซื้อที่ดินสต๊อกไว้เป็นการเดินตามแผนที่วางไว้ว่าภายในปี′62 เราต้องการมียอดขายถึง 2 หมื่นล้านบาท จึงต้องซื้อที่ดินตุนไว้ในมือรอพัฒนาโครงการในอนาคต ขณะนี้มีที่ดินอยู่ในมือ 10 แปลง มีความพร้อมเต็มที่สำหรับแผนลงทุนเปิดตัวโครงการใหม่ 2 ปีหน้า

 

 

ขอบคุณข่าวจาก  ประชาชาติธุรกิจ

 

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1470830831

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider