รายการโปรด
ด้วยระยะทางถนนเพียง 2.5 กิโลเมตร ของทำเลทองหล่อ แต่ใครจะเชื่อว่าที่ดินซอยนี้ มูลค่าสูงเป็นอันดับต้นๆของประเทศซึ่งมีราคาเฉลี่ยกว่า 2 ล้านบาทต่อตารางวา แถมยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงทุกปี ซึ่งตลอดสองฝั่งทางหรือแม้แต่ในซอยเองก็ตาม ปัจจุบันแทบจะหาพื้นที่ว่างในซอยนี้เพื่อพัฒนาโครงการใหม่ๆไม่ได้อีกแล้ว
แต่ “ชีวาทัย” ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มาอย่างต่อเนื่อง ก็สามารถเสาะหาจนเจอสถานที่ซึ่งเป็นทำเลที่อยู่ในทองหล่อขนานแท้ที่ถูกสร้างสรรค์ออกมาเป็นโครงการที่ใครเห็นแล้ว จะต้องบอกว่าน่าอยู่กันทุกคน
Chewathai Residence Thonglor (ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ) - ให้คุณได้สัมผัสชิดติดธรรมชาติบนความเป็นส่วนตัวสุดๆ ในทำเลใจกลางทองหล่อ
โดดเด่นตั้งแต่ทำเล ทองหล่อหรือสุขุมวิท 55 โดยอยู่ในซอยทองหล่อ20 ซึ่งเป็นซอยที่เข้าออกได้ทั้งทองหล่อและเอกมัย นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อไปถนนเพชรบุรีตัดใหม่รวมถึงถนนสุขุมวิท และยังไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนอย่าง รามอินทรา-อาจณรงค์ และทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้สะดวกสบายด้านการเดินทางเป็นอย่างมาก
สำหรับขนส่งสาธารณะนี่ไม่ต้องพูดถึง ใกล้ BTS รถไฟฟ้าสายสีเขียว สถานีทองหล่อ ประมาณ 2 กม. แถมในซอยยังมีวินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่คอยให้บริการตลอดเวลา ที่สำคัญคือถ้าอยากใช้บริการเรียก Grab บอกเลยว่าง่ายแถมยังรวดเร็วอีกด้วย อีกทั้งในอนาคตจะมี รถไฟฟ้าสายสีเทา ซึ่งสถานนีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีแจ่มจันทร์ ห่างจากโครงการแค่ประมาณ 400 เมตร
เรื่องความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารการกิน เที่ยว ช้อป เรียกได้ว่ามีตลอดทั้งวันทั้งคืน ตั้งแต่ร้านอาหารที่รวบรวมมาให้ทุกสัญชาติ จะสตรีทฟู้ด ร้านอาหารหรู ไปจนถึงร้านแฮงค์เอาท์สังสรรค์ มีครบทุกอย่าง ต่อด้วยคอมมูนิตี้มอลล์และห้างสรรพสินค้า ได้แก่ Donki Mall, J Avenue, The Common, Eight Thonglor, Tops Market, Rain Hill, Gateway Ekamai, Emquartier, Emporium และอีกเพียบ ที่มั่นใจได้เลยว่าตอบโจทย์ครบทุกไลฟ์สไตล์แน่นอน
นอกจากนี้ยังใกล้ สถานศึกษา Ekamai International school, Wells International school, St.Andrews International school ม.กรุงเทพ และมศว ส่วน สถานพยาบาล ที่ใกล้ที่สุดคือ รพ.คามิลเลียน รพ.สมิติเวช รพ.กรุงเทพ2 รพ.ปิยะเวท รพ.สุขุมวิท และรพ.พระราม 9 รวมถึงอยู่ห่างจาก สวนสาธารณะเบญจสิริ เพียงไม่กี่กิโลเมตร
แต่ความคึกคักของทองหล่อ และความวุ่นวายจากภายนอกทั้งหมดก็ถูกตัดขาดทันที เมื่อได้มาเยือนโครงการ "ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ" ความสงบสุขแห่งการพักผ่อน ใกล้ชิดธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
พบกับคอนโด Low-Rise 8 ชั้น 1 อาคาร พื้นที่โครงการขนาด 1-0-89.2 ไร่ ทั้งหมด 130 ยูนิต มีจำนวนห้องสูงสุดต่อชั้นเพียง 18 ต่อยูนิต ขยายความเป็นไพรเวซี่ให้กับลูกบ้านได้แบบจัดเต็ม และจอดรถได้ 55% หรือ 70 คัน และจอด EV Charger ได้ 2 คัน
สร้างความตระการตา ด้วยการดีไซน์อาคารรูปตัว L สีขาวให้มีความเรียบเก๋อย่างมีเอกลักษณ์ พร้อมกับเพิ่มความเป็นกิมมิกอย่างชาญฉลาด ด้วยการออกแบบระเบียงให้เป็นรูปสามเหลี่ยม และวางสลับกันซ้ายขวา เพราะจะได้วางต้นไม้แนวสูง ที่ทางโครงการปลูกใส่กระถางไว้ให้ เพื่อสร้างความเขียวขจีในแนวดิ่ง และได้ทัศนียภาพที่มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น
ผสมผสานกับพื้นที่สีเขียวในแนวราบ ที่ปลูกต้นไม้น้อยใหญ่หลากหลายสายพันธุ์บริเวณรอบโครงการ ซึ่งเชื่อมเข้ากับ Facility ที่อยู่ชั้นล่างตรง สระว่ายน้ำ เป็นระบบเกลือขนาดยาว 18 x กว้าง 8.5 เมตร ติดกันเป็น Jacuzzi และ Kid’s Pool
เข้ามาส่วนกลางด้านในคอนโดจะเจอกับ Lobby ที่กรุด้วยกระจกเกือบรอบทิศทาง ทำให้เห็นวิวสระว่ายน้ำและทำให้โซนนี้ดูโปร่งโล่ง เหมาะแก่การนั่งพักผ่อนหรือนั่งรับรองแขกที่มาหา ซึ่งจัดรองรับไว้หลายที่นั่ง ขณะเดียวกันผู้อยู่อาศัยจะได้ยินเสียงน้ำตกจาก Stepping Waterfall บริเวณ Lobby ระหว่างเดินไปยังลิฟต์เข้าสู่ภายในอาคาร เพื่อให้เกิดความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ
Fitness Room ก็กรุกระจกทางฝั่งสระว่ายน้ำไว้ให้เช่นเดียวกัน เพื่อให้ได้เห็นวิวภายนอก และเตรียมเครื่องไว้ให้หลากหลาย เพื่อให้ออกกำลังกายได้ครบทุกสัดส่วน
พร้อม Steam แยกชายหญิงที่อยู่ภายในห้องน้ำ ช่วยผ่อนคลายหลังจากเหนื่อยกลับมาจากการทำงานได้เป็นอย่างดี
Meeting Room ไว้ให้ลูกบ้านได้นั่งทำงานหรือนั่งเล่นเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ จากการอยู่แต่ในห้องพักอาศัย นอกจากนี้ชั้นบนสุด Rooftop ยังมีสวนขนาดใหญ่ให้ทุกคนได้นั่งเล่น นั่งพักผ่อนกันได้อย่างต็มที่
เท่านั้นไม่พอแม้แต่ในอาคารก็ยังมี Vertical Garden ตรง mailbox หรือสวนแนวตั้งเพิ่มความเขียวขจีร่มรื่น หลังคาส่วนหนึ่งกรุด้วยกระจก เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องลงมาถึง โดยมีความสูงถึง 8 ชั้นเลย ทำให้ไม่ว่าจะอยู่ชั้นไหนก็เห็นได้เหมือนกัน คือในโครงการนี้มีพื้นที่สีเขียวอยู่ทุกที่จริงๆ
มาต่อกันที่ห้องพักอาศัย โดยทางโครงการ ขายแบบ Fully Fitted ได้ Digital Door Lock เครื่องปรับอากาศ และติดวอลเปเปอร์ให้ทุกห้อง ส่วนที่เหลือจะได้อะไรบ้าง เดี๋ยวเล่าให้ฟังทีเดียวตอนชมห้องตัวอย่างเลย และพื้นถึงเพดานสูง 2.65 เมตร พร้อมระบบ Home Automation ควบคุมระบบแสงสว่างและเครื่องปรับอากาศจากมือถือ
โดยมี 3 ห้อง ที่ออกแบบให้เป็น Pool Access และมีห้องแบบอื่นๆ ให้เลือกทั้งหมดอีก 3 Type ดังนี้
1 Bedroom ขนาด 30.09 - 44.33 ตารางเมตร จำนวน 63 ห้อง |
1 Bedroom Plus ขนาด 44.11 - 52.49 ตารางเมตร จำนวน 32 ห้อง |
2 Bedrooms ขนาด 41.36 - 61.70 ตารางเมตร จำนวน 35 ห้อง |
ซึ่งทางโครงการมีห้องตัวอย่างให้ดูครบทุกType ขอสตาร์ทกันที่ห้องแรก 1 Bedroom ขนาด 30.09 ตารางเมตร เข้ามาแล้วจะเจอกับ ห้องครัว แบบปิดขนาดใหญ่ กั้นด้วยประตูกระจกใสแบบบานเลื่อน
โดยทางซ้ายมือจะวางเคาน์เตอร์ครัว ตัว Top ทำจากผิวหินเทียม ที่มีความแข็งแรงทนทาน ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันของแบรนด์ MEX ส่วนด้านบนทางโครงการทำตู้เก็บของมาให้เรียบร้อย ได้หน้าบานเป็นไฮกรอส ช่วยเพิ่มความหรูหราให้แก่ห้อง ฝั่งตรงข้ามมีพื้นที่ให้วางตู้รองเท้าหรือตู้เก็บของได้เหลือเฟือ
ขยับเข้ามาอีกหน่อยคือ ห้องนั่งเล่น ทางขวามือสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งกำลังพอดี ฝั่งตรงข้ามวางทีวี โดยจะบิวท์อินหรือซื้อชั้นมาวางก็แล้วแต่ความชอบ
ได้ช่องแสงบานใหญ่เต็มเพดาน เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้มากที่สุด และมีสเปซให้เจ้าของห้องจัดสรรว่าจะวางโต๊ะทำงาน โต๊ะกินข้าว หรือทำเป็นมุมอื่นๆ ตามชอบ
กลับเข้ามาที่ ห้องนอน ได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อน ซึ่งพอเปิดโล่งแล้วจะสามารถเชื่อมพื้นที่กับห้องนั่งเล่น ทำให้ห้องดูกว้างขวางมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังดูทีวีจากที่มุมห้องนอนได้เลย
ซึ่งวางเตียง 5 ฟุต และโต๊ะหัวเตียงได้แบบสบายๆ โดยระเบียงจะอยู่ที่ห้องนอน ถือเป็นการเพิ่มอีกหนึ่งช่องแสงให้ห้องดูโปร่งโล่ง
อีกฝั่งของห้องนอนทางโครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้า มาให้ถึงสองตู้ซ้ายขวาสูงติดเพดาน ช่วยให้เก็บเสื้อผ้าและเครื่องนอนได้เยอะ
ติดกันเป็น ห้องน้ำ ให้กระจกเต็มบาน สุขภัณฑ์ครบครันจากแบรนด์ INAX ทั้งอ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำ พร้อมด้วยกระจกกั้นแยกการใช้งาน
ต่อมายังคงเป็น 1 Bedroom แต่ขนาดใหญ่ขึ้นและ Layout แบบใหม่ ที่ส่วนตัวมองว่าออกแบบได้อย่างเป็นสัดส่วนชัดเจน ขนาด 41.23 ตารางเมตร เปิดประตูจะเจอกับ Area โล่งๆ ขนาดใหญ่พอสมควร กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนก่อนเข้าสู่ห้องอื่น ซึ่งทางโครงการวางโต๊ะกินข้าวไว้ให้ดูเป็นตัวอย่าง
แต่เราสามารถออกไอเดียได้อย่างเต็มที่ว่าจะให้ออกมาเป็นรูปแบบไหน จะบิวท์ตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของ เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า และทำเป็นมุมนั่งใส่รองเท้าก่อนออกจากห้องก็ทำได้เหมือนกัน
ซ้ายมือของห้องนี้จะเป็น ห้องครัว ที่กั้นประตูกระจกบานเลื่อนอีกทีหนึ่ง ได้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารมากกว่าห้องแรก ส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าและตู้เก็บของด้านบนยังคงได้เหมือนเดิม
ห้องนั่งเล่น เพิ่มความโดดเด่นสวยงามด้วยลวดลายบนผนัง ใครสายธรรมชาติอยากทำตามจัดไปเลย และวางโซฟาได้ถึง 3 ที่นั่ง แต่ถ้าคิดว่าวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งก็โอเคแล้ว จะทำให้เหลือพื้นที่วางโต๊ะกินข้าวได้ด้วย ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน อีกฝั่งสำหรับชั้นวางทีวี ที่วางแล้วก็ยังเหลือสเปซให้เดินผ่านไปมา ได้สะดวกสบายเลยทีเดียว
ระเบียงจะอยู่ด้านในสุด ซึ่งอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าทางโครงการ ได้เตรียมต้นไม้สั่งทำไว้ให้กับทุกยูนิต และไม่ต้องห่วงว่าจะยุ่งยาก เพราะมีระบบติดตั้งน้ำหยดให้เราเลือกเวลาได้ว่าจะรดน้ำตอนไหน อีกทั้งต้นไม้ที่สั่งทำยังมีความหมายที่ดีรวมถึงต้นไม่ได้สูงมาก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ลูกบ้านได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น
ส่วน ห้องนอน เป็นประตูทึบ ซึ่งลักษณะการจัดวางจะคล้ายกับห้องแรกแต่มีขนาดใหญ่กว่า โดยวางเตียงขนาด 6 ฟุต และโต๊ะหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง
ตู้เสื้อผ้าบิวท์อินให้ทั้งซ้ายและขวา เหมาะสำหรับการอยู่เป็นคู่หรือสายแฟชั่น ที่มีเสื้อผ้าเยอะรับรองว่าเก็บได้หมดเอาอยู่แน่นอน
ถัดไปคือ ห้องน้ำ ที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้เรียบร้อย สุขภัณฑ์จัดมาให้ครบเซต พร้อมที่วางของด้านหลังอ่างล้างหน้า ให้วางข้าวของเครื่องใช้ในห้องน้ำโดยไม่ต้องซื้อชั้นมาติดให้วุ่นวาย
มาต่อกันที่ 1 Bedroom Plus ขนาด 49.77 ตารางเมตร เราจะเจอ ห้องครัว แบบปิดก่อนเป็นอันดับแรก เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว I และบิวท์อินตู้เก็บของด้านบนไว้ให้เสร็จสรรพพร้อมใช้งาน อีกฝั่งหนึ่งเว้นไว้วางตู้เย็น โดยที่ยังมีพื้นที่ให้บิวท์ตู้เก็บของสุดเพดานแบบในห้องตัวอย่างได้เลย
ห้องนั่งเล่น วางโซฟาได้ตั้งแต่ 2-3 ขนาดที่นั่ง ฝั่งตรงข้ามสำหรับวางทีวี ซึ่งถ้าเลือกบิวท์อินแบบห้องตัวอย่าง จะทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางกว่าเดิม หรือถ้ามีของเยอะจะเลือกบิวท์จนถึงพื้นก็ทำได้ ยังมีพื้นที่ให้เดินโดยไม่รู้สึกอึดอัด
ติดกันเป็น ห้อง Multi Purpose หรือห้องอเนกประสงค์ จะทำเป็นห้องทำงาน ห้องทานข้าว ห้องนอนเล็ก หรือแม้แต่ Walk-in Closet ก็ไม่ใช่ปัญหา เนื่องจากพื้นที่ค่อนข้างยืดหยุ่น ด้านระเบียงจะอยู่ทางห้องนี้ด้วย
ส่วน ห้องนอน ได้ประตูบานทึบ ขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งเลย เพราะขนาดวางเตียง King Size 6 ฟุต บวกกับชั้นวางทีวีและโต๊ะหัวเตียง ก็ยังไม่รู้สึกคับแคบและมีพื้นที่ให้เดินได้สบาย
พร้อมหน้าต่างบานกระทุ้งและช่องแสงจากพื้นจรดเพดาน เพื่อให้ลมพัดผ่านเข้ามา ทำให้ภายในห้องอากาศถ่ายเทได้สะดวก อีกด้านทางโครงการบิวท์ตู้เสื้อผ้าพร้อมทำช่องเก็บของด้านในไว้ให้เรียบร้อย
ตรงข้ามห้องนอนเป็น ห้องน้ำ ซึ่งมีขนาดกว้างขวาง อ่างล้างหน้าขนาดใหญ่ขึ้นมีที่วางของด้านหลัง กั้นส่วนอาบน้ำด้วยกระจกนิรภัย และยังได้อ่างอาบน้ำที่ใช้งานได้จริง
สุดท้ายคือ 2 Bedrooms ขนาด 52.61 ตารางเมตร เปิดประตูเข้ามาจะยังไม่เห็นส่วนต่างๆ ของห้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในเรื่องของความเป็นส่วนตัว พอเดินเข้ามาอีกนิดถึงจะเห็น ห้องนั่งเล่น และสะดุดตาด้วยช่องแสงขนาดใหญ่เต็มผนัง ให้สามารถเทควิวข้างนอกได้แบบจัดเต็ม
เลือกวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง ซึ่งได้ทั้งแบบโซฟารูปตัว I และตัว L ฝั่งตรงข้ามไว้สำหรับวางทีวีแต่ด้วยระยะห่างของโซฟากับชั้นวางทีวีค่อนข้างมาก ผู้ซื้อสามารถวางทีวีขนาดใหญ่ 50 นิ้วได้แบบสบายตาสบายใจ ข้างๆ กันมีสเปซว่างพอให้วางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่ง
ข้างหลังห้องนั่งเล่นจะพบกับ ห้องครัว ดูโปร่งโล่งสบายและกว้างขวาง ยังคงได้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว I แต่มีขนาดใหญ่ รวมถึงได้ตู้เก็บของด้านบนเพื่อให้ดูเป็นระเบียบสะอาดตา และเนื่องจากเป็นครัวปิดแถมยังมีหน้าต่างระบายอากาศ เวลาทำอาหารจริงจังแค่ไหนกลิ่นควันก็ไม่ฟุ้งไปห้องอื่น
เดินต่อเข้ามาด้านใน ห้องน้ำ จะอยู่ทางขวามือ ซึ่งมีความพิเศษตรงที่ทำประตูกั้นแยก ระหว่างห้องสุขากับห้องอาบน้ำ ทำให้พอเพื่อนมาหาก็จะได้แยกความเป็นส่วนตัวแก่ผู้อยู่อาศัย อีกทั้งยังเข้าออกได้สองทาง คือทางฝั่งห้องนั่งเล่นและห้องนอน
เดินตรงไปข้างในสุดจะเจอกับ ห้องนอนเล็ก ได้ช่องแสงเต็มผนังและช่องแสงเล็กอีกหนึ่งช่อง ซึ่งพอวางเตียง Extra Single Bed ขนาด 4 ฟุต บวกกับตู้เสื้อผ้า และโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง ก็ยังทำให้ห้องดูกว้าง อยู่แล้วก็ไม่รู้สึกอึดอัด
ปิดท้าย Master Bedroom ห้องนอนใหญ่สมชื่อ อยากวางเตียง 5 ฟุต หรือ 6 ฟุตได้หมด แถมจะบิวท์ชั้นวางทีวี ก็ยังมีสเปซให้เดินไประเบียงได้โดยไม่ต้องกลัวเดินชน
ซึ่งจากในห้องมองออกไปจะเห็นต้นไม้ที่ปลูกตรงระเบียง ก็รู้ได้ทันทีว่าทางโครงการใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ เพราะนอกจากทำให้เราได้สัมผัสธรรมชาติมากขึ้น ยังได้วิวในมุมมองที่แตกต่าง และช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้อีกรูปแบบหนึ่ง
ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง และทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอน เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกสบาย โดยไม่ต้องเปิดประตูออกไปจากห้อง
อยู่ท่ามกลางทองหล่อขนาดนี้ เป็นเรื่องปกติที่ราคาคอนโดส่วนใหญ่ไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท แต่ความเป็นจริงแล้ว โครงการ “ชีวาทัย เรสซิเดนซ์ ทองหล่อ” เริ่มต้นเพียง 5.59 ล้านบาท* ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร ทั้งโครงการคือ 190,000 บาท/ตร.ม ถูกกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
ความได้เปรียบไม่ใช่แค่เรื่องของราคาอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทำเล ซึ่งเป็นที่นิยมทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ผสมผสานกับตัวโครงการ ที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ลูกบ้านได้ใช้ชีวิตและการพักผ่อนอย่างสมบูรณ์แบบ ในราคาที่หาไม่ได้ง่ายๆ บนโลเคชั่นแห่งนี้
ท่านไหนสนใจสามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่นี่ https://bit.ly/ChewaThonglorCKV1
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ใส่ใจรายละเอียดของข้อมูลดีมากค่ะ
ชอบนะคะ บทความหลากหลายดี
ข้อมูลละเอียดดี บางอย่างก็น่าสนใจดีคัฟ
ได้ประโยชน์มากๆ อ่านสนุกดี