News
icon share

ภารกิจเพื่อชาติ อสังหาฯจ่ายเพิ่มเท่าตัว

LivingInsider Report 2016-08-05 11:21:24
ภารกิจเพื่อชาติ อสังหาฯจ่ายเพิ่มเท่าตัว

 

 

ล่าสุด "กฟน." จัดสัมมนาทำความเข้าใจกับภาคเอกชนในเส้นทาง มี "พูนลาภ เพชรบุญมี" วิศวกรไฟฟ้า 6 ฝ่ายบริหารโครงการเป็นผู้อธิบายหลักการ โดยระบุว่า ผู้ที่มาใช้บริการจาก กฟน.ต้องเปลี่ยนระบบตามด้วย และหนึ่งในผู้ใช้บริการที่สำคัญและต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น คือ ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในแนวเส้นทาง หากมาขอจ่ายไฟหลังวันที่ประกาศต้องเตรียมตัวเกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบกับ กฟน.

 



สำหรับประเภทของผู้ใช้บริการเพื่อจัดเตรียมระบบรับไฟฟ้าในพื้นที่โครงการ แบ่งเป็น 1.ผู้ขอใช้ไฟแรงดัน 69/115 kV หรือสายส่ง 2.ผู้ขอใช้ไฟระดับแรงดัน 24 kV หรือสายป้อน และ 3.ผู้ขอใช้ไฟระดับแรงดัน 230/400 V หรือแรงต่ำ

 


โดยอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องเตรียมไว้ อาทิ ตู้ Ring Main Unit หรือ RMU สำหรับเป็นอุปกรณ์รับและจ่ายพลังงานไฟฟ้าจากสายป้อนใต้ดิน รวมถึงทำหน้าที่เป็นสวิตช์ปลด-สับไฟขณะที่โหลดพิกัดกระแสไฟฟ้าที่ใช้งานได้ และตัวมิเตอร์ไฟฟ้า ส่วนอุปกรณ์อื่น เช่น หม้อแปลง สายไฟ จะเป็นคนละระบบ จึงมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

 



อีกทั้งเตรียมท่อวางสายไฟใต้ดิน หากอาคารใช้ไฟไม่เกิน 4,000 kVA เตรียม 6 ท่อ อาคารที่ใช้ไฟ 4,000-15,000 kVA เตรียม 8 ท่อ ราคาท่อ 100 ล้านบาท/กม.และเตรียมสถานที่วางอุปกรณ์ RMU และมิเตอร์ หากวางไว้ในตัวอาคารทำห้องที่รับน้ำหนักได้ 500 กก. และควรติดตั้งให้อยู่ใกล้กับที่จ่ายไฟของ กฟน.ด้วย

 



การเปลี่ยนเป็นระบบสายใต้ดินจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเท่าตัว โดยการคิดค่าบริการจะคิดตามขนาดการใช้ไฟ เช่น โครงการขนาดสูงที่มีการใช้ไฟขนาด 9,000 kVA หากเป็นระบบสายอากาศจะเสียค่าบริการ 5.7 ล้านบาท ส่วนระบบสายใต้ดินเสียค่าบริการ 9.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 70%

 



ด้าน "อธิป พีชานนท์" นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคอนโดมิเนียมมากนัก และที่ดินย่านรถไฟฟ้าและธุรกิจราคาสูงอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะได้มาคือทำให้ทัศนียภาพเมืองที่สวยงาม เพิ่มมูลค่าต่อโครงการ ส่วนโครงการบ้านจัดสรร ที่จะกระทบเป็นโครงการมีราคา 8 ล้านบาทขึ้นไป เพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงกว่าคอนโดฯ

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

 

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1470212316

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

บทความอื่นๆ

livinginsider livinginsider