PATIO รัชโยธิน - The Next Level of Townhome พบทาวน์โฮม 4 ชั้น Colonial Luxury Style ใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมือง ทำเลแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว

 

"มีทาวน์โฮมกลางเมืองแบบนี้ด้วยหรือ"

"ทำไมหลังใหญ่พอๆ หรือใหญ่กว่าบ้านเดี่ยว"

"นี่มันไม่ใช่ PATIO แบบที่เราเคยเห็น" 

 

สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ใครอยากสัมผัสต้องมาดูด้วยตัวเอง “PATIO” Beyond Pride in "Prime Location" นี่คือทาวน์โฮม 4 ชั้น แนวคิดใหม่ Colonial Luxury Style บนทำเล Prime ใกล้รถไฟฟ้า ใจกลางเมือง บอกเลยว่า...ทำเลแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว ในอนาคต

 

“PATIO” จากพฤกษา ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของเมืองไทย เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2018 โดยเป็นทาวน์โฮม ที่อยู่ใน Segment 3-5 ล้านบาท ซึ่งของเดิมทำออกมาได้ดีเลย ผู้คนต่างให้ความสนใจกันเป็นจำนวนมาก แต่ซีรีส์ใหม่ล่าสุดนี้คือเซอร์ไพร์สเลยทีเดียว ยกระดับไปอีกขั้นที่ไม่ใช่แค่ความสวยงาม ของตัวโครงการเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปทำถึงทำเลที่เป็น Prime Location ของกรุงเทพฯ โดยจัดเต็มถึง 3 โครงการ 3 ทำเลศักยภาพ เริ่ม 4.99 – 12 ล้านบาท ให้ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ดั่งใจต้องการ ดังนี้ 

 

1. โครงการ PATIO รัชโยธิน

2. โครงการ PATIO งามวงศ์วาน-ประชาชื่น

3. โครงการ PATIO กัลปพฤกษ์-สาทร

 

เดี๋ยวเราจะพาไปชมแบบเจาะลึกถึงข้างใน โดยเริ่มที่โครงการแรกกันเลย

 

PATIO รัชโยธิน

โครงการตั้งอยู่บน ถนนพหลโยธิน32 เสนานิคม1 ซอย12 (ซอยซูซุกิ) สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น พหลโยธินถนนทางเข้าหลัก ที่เชื่อมไปได้ทั้งแยกรัชโยธิน วิ่งยาวไปห้าแยกลาดพร้าว รวมถึงออกทางแยกเกษตรทะลุไปงามวงศ์วานได้ หรือถ้าวิ่งทางด้านหลังก็จะไป ถนนรัชดาภิเษก ได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังไม่ไกลจากจุดขึ้นลง ทางด่วนพิเศษฉลองรัช ทางด่วนศรีรัช และทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ ทำให้จะเข้าเมืองหรือออกจากเมืองก็ใช้เวลาไม่นาน

 

ที่สำคัญคือการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ ด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ซึ่งเป็นสายเดียวกับสายเส้นถนนสุขุมวิท โดยใกล้ สถานีเสนานิคม ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร รวมไปถึงรถประจำทาง วินมอเตอร์ไซค์ และแท็กซี่ ที่คอยบริการให้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบาย

 

นอกจากนี้ยังใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ ได้แก่ เมเจอร์ รัชโยธิน เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ ตลาดนัดจตุจักร สวนรถไฟ เทสโก้ โลตัส ลาดพร้าว บอง มาร์เช่ ตลาดบางเขน และอีกหลากหลายให้ได้ช้อป ชิม กิน เที่ยว กันตามใจชอบ

 

รายล้อมไปด้วย หน่วยงานและสำนักงานออฟฟิศ เช่น ไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ปตท.สำนักงานใหญ่ กระทรวงพลังงาน กรมพัฒนาที่ดิน เป็นต้น รวมถึงมี สถานศึกษาชื่อดัง ทั้งรร.สาธิตเกษตร รร.หอวัง ม.เกษตรศาสตร์ ม.เซนต์จอห์น ม.ศรีปทุม ใกล้สถานพยาบาลชั้นนำ อย่างรพ.เปาโล เกษตร รพ.วิภาวดี รพ. เกษมราษฎร์ ประชาชื่น และรพ.วิมุต

 

โครงการ “PATIO รัชโยธิน” เปิดตัวทาวน์โฮมซีรีส์ใหม่ด้วยการตกแต่งในสไตล์ Luxury Colonial ผสมผสานความ Classic และ Modern ให้ออกมาสวยงาม แต่เรียบหรูทันสมัยอย่างมีระดับ โดยใช้หลักการ Symmetrical balance เพื่อให้เกิดความสมดุลได้อย่างลงตัว และสามารถอยู่อาศัยได้จริง

 

โดยแบ่งเป็น ทาวน์โฮม 4 ชั้น จำนวน 34 ยูนิต และบ้านแฝด 3 ชั้น จำนวน 22 ยูนิต รวมทั้งหมด 56 ยูนิต บนพื้นที่ 8.1.33.8 ไร่ เน้นความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว ให้แต่ละครอบครัวได้มีพื้นที่เป็นของตัวเองได้อย่างเต็มที่

 

ขณะที่ส่วนกลางจัดมาให้แบบครบครัน ซึ่งหาได้น้อยมากสำหรับทาวน์โฮมในเมือง ที่จะได้ Facilities เพราะส่วนใหญ่จะไม่ใช่โครงการจัดสรรทำให้ไม่มีพื้นที่พักผ่อน โดดเด่นด้วย สระว่ายน้ำ ระบบเกลือ Full Function สามารถว่ายออกกำลังกายหรือแช่น้ำเล่นชิลๆ ก็ได้เหมือนกัน

 

อีกทั้งด้านข้างของสระว่ายน้ำยังมี สวนพื้นที่สีเขียว ไว้ให้ออกมานั่งเล่นยามเย็นสูดอากาศบริสุทธิ์

 

โดดเด่นด้วย Club House ชั้นล่างเป็นพื้นที่ไว้สำหรับให้ลูกบ้านนั่งเล่น หรือไว้ต้อนรับแขกที่มาเยี่ยม แต่ว่าตอนนี้ถูกทำเป็น Sale Gallery ชั่วคราว

 

ส่วนชั้นบนจะถูกแบ่งออกเป็น Sky Fitness ทำการกรุกระจกโดยรอบเพื่อให้เห็นวิวสระว่ายน้ำภายนอก พร้อมวางเครื่องออกกำลังกายไว้ให้เรียบร้อย สามารถออกกำลังกายได้ครบทุกสัดส่วน

 

ติดกันเป็น Exclusive Co-Working Space เปลี่ยนบรรยากาศออกมานั่งทำงาน นั่งเล่น หรือพบปะพูดคุยกับเพื่อนบ้าน 

 

ที่สำคัญยิ่งกว่าคือความปลอดภัย เริ่มตั้งแต่หน้าประตูแยกทางเข้า-ออกชัดเจน และใช้ระบบ Double Gate โดยประตูชั้นแรกเป็นรั้วกั้นไม้กระดก และมีระบบประตูเปิด-ปิดอัตโนมัติอีกชั้นหนึ่ง 

 

เท่านั้นไม่พอในบริเวณโครงการ เราจะไม่เห็นสายไฟให้เกะกะสายตาเลย เพราะเป็น ระบบไฟฟ้าใต้ดิน Premium Project เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยสร้างทัศนียภาพที่สวยงาม รวมถึงยังมี Health Care Services ของโรงพยาบาลวิมุต อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะสำหรับลูกบ้าน Patio รัชโยธิน เท่านั้น 

 

มาถึงตัวทาวน์โฮม 4 ชั้นกันบ้าง อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าออกแบบในสไตล์ Luxury Colonial ตัวอาคารเน้นโทนสีครีมและสีน้ำตาล ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นนุ่มนวล บวกกับนำประตูและหน้าต่างกระจกทรงสูง เข้ามาเสริมทัพในทุกๆ ชั้น เพื่อมอบความหรูหราสวยงามที่แตกต่าง รวมถึงการใช้งานที่จะทำให้บ้านดูปลอดโปร่งเหมาะแก่การอยู่อาศัย การดีไซน์เหล่านี้จึงทำให้เกิดเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

โดยมีชื่อว่า Type Flexi ขนาดเริ่มต้นตั้งแต่ 23.0 - 38.0 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 263 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 

 

พร้อมระบบ Home Automation ระบบควบคุมการทำงานในบ้าน สามารถสั่งการด้วยเสียง และกล้องวงจรปิดทุกหลัง อีกทั้งยังมี Magnetic Motion Sensor สัญญาณกันขโมยทั้งหลัง ไม่เพียงเท่านั้นเพราะว่ามี Air Flow System ระบบระบายความร้อน ลดกลิ่นอับ อากาศถ่ายเท ประหยัดไฟ และทำให้บ้านเย็นสบายตลอดทั้งวัน

 

ตัวทาวน์โฮมได้ หน้ากว้างถึง 5.5 เมตร และลงเสาเข็มไว้ให้เรียบร้อย ทำให้จอดรถได้หลายขนาด หรืออยากจะต่อเติมข้างหน้า ตามแบบบ้านตัวอย่างก็ไม่ใช่ปัญหา โดยพื้นตรงโรงจอดรถจะได้แบบนี้เลยคือ Stamped Concrete หรือพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย แต่ทางเข้าบ้านของจริงจะได้เป็นประตูกระจกใสแบบบานเลื่อนขนาดใหญ่

 

เข้ามาสู่ภายในตัวบ้าน ตรงทางเข้านี้คือส่วนที่โครงการต่อเติมให้ดูเป็นตัวอย่าง เผื่อเอาไว้เป็นพื้นที่นั่งสำหรับรับรองแขก ซึ่งนับว่าเป็นไอเดียที่ดีเลย

 

พอเขยิบเข้ามาอีกนิดตรงนี้จะเหมือนกับบ้านจริงที่ได้ ทางขวามือเป็น Powder Room หรือห้องน้ำแขก

 

เชื่อมต่อด้านหลังบ้านด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ที่แน่นอนว่าลงเสาเข็มไว้ให้แล้วเช่นกัน จะต่อเติมหรือทำเป็นสวนก็ได้ทั้งนั้น

 

แต่ก่อนที่จะขึ้นไปชั้นสองขออึ้งกับบันไดแป๊บนึง เพราะมีความกว้างถึง 1.2 เมตร คือแทบหาไม่ได้กับทาวน์โฮมที่ให้บันไดมาขนาดนี้ ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้สบาย หรือเดินสวนกันขึ้นลงก็สะดวกไม่ต้องกลัวเกิดอุบัติเหตุ

 

พอขึ้นมาแล้วก็จะเจอส่วนของ Family Area ขนาดใหญ่ รวมพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องทานเข้าไว้ด้วยกัน รวมถึงมีห้องเก็บของที่อยู่ติดกับบันได โดยได้พื้น SPC ทนทานแข็งแรงไร้รอยขีดข่วน และจากพื้นถึงเพดานสูง 3 เมตร 

 

ซึ่งห้องนี้คือตกแต่ง เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ และปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งาน ได้หลากหลายรูปแบบ สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง ส่วนมุมนั่งเล่นก็ได้ทั้งโซฟาเข้าชุด โซฟารูปตัว L ไซซ์ใหญ่ หรือแบบอื่นๆ ตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละครอบครัว

 

ด้านฝั่งชั้นวางทีวีจะบิวท์อินแบบบ้านตัวอย่างก็ดูเรียบหรู ซึ่งถ้าใครมีสมบัติเยอะแนะนำว่าให้เพิ่มชั้นเก็บของด้านบน และด้วยระยะห่างระหว่างทีวีกับโซฟา สามารถเลือกทีวี 60 นิ้ว ก็ยังดูได้แบบสบายตาสบายใจ 

 

 

แต่ที่ทำให้รู้สึกโอ่โถงดูโปร่งโล่ง ไม่ใช่แค่เรื่องของขนาดและความสูงเพียงอย่างเดียว แต่เพราะรายล้อมไปด้วยกระจกรอบทิศทาง ที่ให้ความสูงมาสุดเพดาน โดยฝั่งทางด้านหน้าตัวบ้านคือประตูกระจกส่วนที่เชื่อมต่อออกไปยังระเบียงข้างนอก ไว้นั่งเล่นรับลม หรือเป็นพื้นที่ปลูกต้นไม้ เพื่อให้ได้มุมมองอีกรูปแบบหนึ่ง

 

ในสุดของห้องเป็น ห้องครัว แบบเปิด แต่สามารถกั้นเป็นครัวแบบปิดได้ เพราะมีหน้าต่างถ่ายเทระบายอากาศไว้ให้เรียบร้อย ซึ่งโครงการบิวท์เคาน์เตอร์ครัวให้ดูเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น 

 

ติดกันเป็น ห้องน้ำ แบบ Powder Room มีอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ โดยพื้นและผนังใช้กระเบื้องลายหินอ่อนเพิ่มความ Luxury

 

ถัดไปที่ชั้น 3 เป็น Enlarge Penthouse Floor ที่กินพื้นที่ทั้งชั้นมีขนาดใหญ่กว้างขวาง ซึ่งให้เราออกไอเดียได้ตามใจต้องการ ว่าอยากให้ห้องออกมาในสไตล์ไหน

 

สามารถวางเตียง King Size 6 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงทั้ง 2 ฝั่ง ปลายเตียงวางสตูลตัวใหญ่ และโต๊ะกลาง ก็ยังมีสเปซเหลือเฟือให้เดินได้สะดวกสบาย

 

ฝั่งตรงข้ามบิวท์อินได้ทั้งตู้เก็บของหรือตู้โชว์ และชั้นวางทีวีแบบจัดเต็ม ขณะที่ผนังฝั่งหนึ่งถูกทำเป็นช่องแสงขนาดใหญ่ เพื่อให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาในห้องได้มากที่สุด

 

ด้วยความที่ห้องนี้มีขนาดใหญ่มาก พื้นที่มีความยืดหยุ่นพอสมควร จะวางโต๊ะทำงานเพิ่มก็ยังได้ หรือจะปล่อยโล่งตามห้องตัวอย่าง เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ก็ดูสวยงามไปอีกแบบ พร้อม Walk-in Closet ให้บิวท์อินตู้เสื้อผ้าได้ทั้งสองฝั่ง รับรองว่าเก็บเสื้อผ้าได้พอแน่นอน

 

ส่วน ห้องน้ำ นี่คือยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ได้อ่างล้างหน้าแบบคู่ฝังกับเคาน์เตอร์ ข้างใต้ไว้เก็บของใช้ในห้องน้ำ และนอกจากโถสุขภัณฑ์ ส่วนอาบน้ำที่ติดฉากกั้นมาให้เรียบร้อย ยังได้อ่างจากุซซี่อีกด้วย มีหน้าต่างระบายอากาศให้เสร็จสรรพ

 

สุดท้ายที่ชั้น 4 ถูกแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน เดี๋ยวจะพาไปดูห้องที่อยู่ทางขวามือก่อน ที่แม้ว่าจะมีขนาดเล็กสุดในบ้านแต่ก็ยังถือว่ามีขนาดใหญ่ ที่วางได้ทั้งเตียง 5 ฟุต และเตียง 6 ฟุต

 

ผนังฝั่งหนึ่งกรุด้วยหน้าต่างแบบบานเลื่อน ทำให้ลมพัดเข้ามาได้ง่าย ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า ซึ่งเก็บเสื้อผ้าและเครื่องนอนได้ประมาณหนึ่งเลย ติดกันเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

 

ห้องน้ำ ในตัว ขนาดค่อนข้างกว้าง ใช้งานแล้วไม่ต้องกลัวว่าจะรู้สึกอึดอัด สุขภัณฑ์ครบครันแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน

 

มาถึงห้องสุดท้ายอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ด Double Master Bedroom เพราะจากพื้นถึงเพดานสูงถึง 3.6 เมตร!!! คือสูงตั้งแต่ทางเข้าห้อง โดยจะเจอกับมุมแต่งตัวเป็นอันดับแรก ตู้เสื้อผ้าตั้งอยู่ทางซ้ายมือ แนะนำให้บิวท์สุดเพดานไปเลย เก็บเสื้อผ้าเก็บของได้แบบจุใจ และถัดไปเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง 

 

ขวามือเป็น ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า โถสุขภัณฑ์ และส่วนอาบน้ำเข้ามุมที่กั้นด้วยกระจกใช้งานได้จริง

 

ด้านในคือมุมพักผ่อน สะดุดตาด้วยกระจกทรงสูงตั้งแต่พื้นจรดเพดาน ซึ่งนอกจากทำให้ห้องดูสูงกว่าเดิมแล้ว ยังทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขวางและโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น 

 

ซ้ายมือเป็นส่วนของชั้นวางทีวี แต่เราดีไซน์ให้เป็นมุมนั่งทำงานนั่งอ่านหนังสือก็ได้เช่นเดียวกัน

 

อีกฝั่งสามารถวางเตียง Queen Size หรือ King Size แถมด้วยสตูลปลายเตียง เพิ่มโต๊ะกลางอีกซะตัว ก็ยังมีพื้นที่เหลือแบบชิลๆ เลย

 

เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่านี่คือ Townhome Luxury ของแท้ ตั้งแต่การออกแบบภายนอก ไปจนถึงการดีไซน์ภายใน และยังสามารถจัดสรรพื้นที่ได้ Flexible ขณะเดียวกันก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Home Office ได้เช่นเดียวกัน ในราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท*

 

โครงการ “PATIO รัชโยธิน” ทาวน์โฮมสูง 4 ชั้น จะเปิดพรีเซลพร้อมข้อเสนอสุดพิเศษ ในวันที่ 20-21 มีนาคม 2564 สามารถลงทะเบียนที่ลิงก์นี้ได้เลย >>> https://bit.ly/30acb2R

 

ไม่เพียงมีแค่ทาวน์โฮมเพียงอย่างเดียว แต่โครงการ “PATIO รัชโยธิน” ยังมีบ้านแฝด 3 ชั้น ในชื่อ Type Grando ขนาดเริ่มต้น 39.8-43 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 240 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ ซึ่งเราเก็บภาพเล็กๆ น้อยๆ มาฝากกันด้วย

 

คือมีความพิเศษอยู่แทบทุกจุด โดยยังคงอยู่ในคอนเซ็ปต์ Luxury Colonial เน้นประตู หน้าต่างทรงสูง เพิ่มความหรูหราและโปร่งโล่งสบายให้แก่บ้าน ขณะผนังถูกออกแบบให้เชื่อมแค่ส่วนของชั้นล่างเท่านั้น และแยกผนังส่วนของพักอาศัยในชั้น 2 ถึงชั้น 3 ออกจากกัน เพื่อความเป็นส่วนตัว 

 

ตัวบ้านได้ หน้ากว้างถึง 8.5 เมตร พร้อมพื้นที่สีเขียวหน้าบ้านและข้างบ้าน ด้านหลังบ้านก็ลงเสาเข็มและเทพื้นคอนกรีตไว้ให้เรียบร้อย ส่วนข้างในตัวบ้านชั้นล่างจะมี ห้องนั่งเล่นที่ได้ Double Volume คือจากพื้นถึงเพดานสูงกว่า 6 เมตร เพิ่มความหรูหราโปร่งโล่งให้แก่ห้องได้เป็นอย่างดี โดยชั้นนี้จะมีห้องนอนอยู่ด้วยเพื่อรองรับผู้สูงอายุ

 

ส่วนชั้น 2 คือ Enlarge Penthouse ห้องนอนขนาดใหญ่ที่สามารถออกแบบพื้นที่ ให้มีทั้ง Walk-in Closet รวมถึงมุมนั่งทำงาน และชั้นบนสุดถูกแบ่งออกเป็น 2 ห้องนอน พื้นที่กว้างขวางพร้อมห้องน้ำในตัว และได้ช่องแสงธรรมชาติแบบจัดเต็ม 

 

ซึ่งไม่ว่าจะเจเนอเรชั่นไหนก็อยู่ได้โดยไม่รู้สึกอึดอัด เพราะทุกพื้นที่ออกแบบให้มีสเปซเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกันก็มีพื้นที่ให้ครอบครัวได้ทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างมีความสุข เป็นอีกหนึ่งบ้านแฝดที่ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านเดี่ยว ในราคาเริ่มต้น 15 ล้านบาท 

 

PATIO งามวงศ์วาน-ประชาชื่น

เหนือระดับด้วยความเป็น Prime Location โดยตั้งอยู่บนถนนงามวงศ์วานซอย 23 ที่ยังคงเดินทางสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นขับรถยนต์ส่วนตัว หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ เนื่องจากใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี พร้อมรายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้า ไฮเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงสถานศึกษาและสถานพยาบาล

 

สไตล์การตกแต่งทาวน์โฮม ยังคงอยู่ภายใต้ Luxury Colonial เรียบหรูดูแพงอย่างมีเอกลักษณ์ วัสดุคุณภาพได้มาตรฐานสูง ส่วนกลางจัดเต็มเหมือนเดิม 

 

ฟังก์ชันการใช้สอยที่ครบครัน พื้นที่ยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ ที่พิเศษยิ่งกว่าคือ Double Volume ที่ห้องนั่งเล่น พร้อมห้องนอน Penthouse Master Bedroom ขนาดใหญ่ และให้ทุกห้องนอนเป็น Master Bedroom เพื่อการใช้ชีวิตที่ลงตัว

 

ทั้งโครงการมีพื้นที่ทั้งหมด 7-2-84.6 ไร่ รวม 64 ยูนิต โดยมีแบบทาวน์โฮม ให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ 

 

1. แบบ “Premiere” ทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดเริ่มต้น 19.38 ตารางวา 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มี 45 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.8 ล้านบาท

 

2. แบบ “Pinnacle” ทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 5 เมตร ขนาดเริ่มต้น 19.38 ตารางวา 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มี 19 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 6.5 ล้านบาท

 

ใครที่ชื่นชอบถูกใจทำเลนี้ กับโครงการ PATIO งามวงศ์วาน-ประชาชื่น สามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่นี่ https://bit.ly/3c0A42t

 

PATIO กัลปพฤกษ์-สาทร

สำหรับโครงการ PATIO กัลปพฤกษ์-สาทร โดยทำเลจะตั้งอยู่ติดถนนกาญจนา-พระราม 2 และการออกแบบยังคงรักษามาตรฐานของความหรูหรา ในสไตล์ Luxury Colonial โดดเด่นด้วยช่องแสงของกระจกทรงสูง เพื่อให้แสงและลมธรรมชาติ เข้าถึงทุกพื้นที่ภายในบ้าน พร้อมกับพื้นที่ใช้สอยก็ถูกออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทั้งโครงการ มีทั้งหมด 106 ยูนิต โดยแบบทาวน์โฮมจะคล้ายกับโครงการ PATIO งามวงศ์วาน-ประชาชื่น ซึ่งมีให้เลือกทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ 

 

1. แบบ “Premiere” ทาวน์โฮมสูง 3 ชั้น ขนาดเริ่มต้น 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 164 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มี 66 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท

 

2. แบบ “Pinnacle” ทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น ขนาดเริ่มต้น 18 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 181 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ มี 40 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 5.5 ล้านบาท

 

หากสนใจอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถคลิกลงทะเบียนได้ที่ลิงก์นี้ http://bit.ly/3kCZIy9

 

ย้ำอีกที!! โครงการ PATIO รัชโยธิน Townhome Luxury ซีรีส์ใหม่ล่าสุด เติมเต็มทุกโอกาสด้วยทำเลศักยภาพ และการดีไซน์พิเศษ ที่สามารถปรับเปลี่ยนสเปซให้ลงตัว กับทุกรูปแบบการใช้งาน เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย ซึ่งสามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการ ของทุกเจเนอเรชั่นในครอบครัว ในราคาเริ่มต้น 12 ล้านบาท