ราคาถูกที่สุด ไม่มีอยู่จริง

ราคาถูกที่สุด ไม่มีอยู่จริง

เมื่อ 2 เดือนก่อน ผมอยากได้คอนโดตึกนึงมากๆๆๆๆๆๆๆ เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพ ทำเล ความต้องการเช่า ที่ดินรอบๆก็เต็ม อยู่ในโซนที่ผมเชื่อว่าจะเติบโตใน 5 ปีข้างหน้า ผมมองหาห้องแบบ 2 ห้องนอน เพราะตึกรอบๆ มีจำนวนห้อง 2 ห้องนอนน้อย ในขณะที่ความต้องการเช่าห้อง 2 ห้องนอนระยะยาวยังโอเค
 

ผมไม่รอช้าครับ เข้าไปที่โครงการทันที ขอดูห้อง 2 ห้องนอนทั้งหมดที่น่าสนใจ รวมถึงถามหาโปรโมชั่นจากเซลล์  ช่วงนี้ตลาดไม่ดี ผมคิดในใจ (ไม่ได้ราคาโปร ไม่เอา ราคาเต็มไม่มีคนซื้อ ยังไงก็ต้องออกโปร)  ราคาเต็มคือ 6.6 ล้าน
 

หลังจากคุยอยู่ซักพักเซลล์(ของโครงการ) ก็เสนอห้องที่น่าพอใจให้ครับ! ชั้น 2x วิวทะเล 50% (ไม่ใช่มุมตรง) ราคาโปร 6 ล้าน ฟรีทุกค่าใช้จ่ายวันโอน เซลล์เสนอพร้อมโน้มน้าว ด้วยประโยคทองนักลงทุน "ราคานี้ถูกสุดละค่ะ หาไม่ได้แล้ว"
 

แน่นอน ก่อนผมมาดู ผมเช็คราคาตลาดมาแล้ว ราคาตลาดอยู่ 6.5-6.8ล้าน (แต่ขายกันไม่ค่อยได้ที่ราคานี้เพราะตลาดช่วงนี้ไม่อำนวย)  เอาหละสิ! ห้องที่ต้องการ ราคาลดลงตั้ง 5 แสน กิเลสมาเลยครับ เสียงลอยมาในหัว"ราคานี้ถูกสุดละ ลุย!"
 

ก่อนที่ผมจะตัดสินใจอะไรไป ผมยังฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า --- ห้องนี้ยังไม่แต่ง ราคาแต่งอีก 3 แสน ราคาห้องรวมแต่ง 6.3 ล้าน ปล่อยเช่าได้ 42,000 บาทต่อเดือนถึงจะได้ Yield 8% เพื่อสร้าง positve cash flow  แต่ห้องนี้ในตลาดปล่อยกันที่ราคา 32-35k  และแล้ว ผมก็ตัดสินใจกลับบ้านมือเปล่าT_T แม้ว่าเสียงบอก"ราคานี้ถูกสุดละ"จะตามมาด้วยก็ตาม ... เสียดายดีกว่าเสียใจครับ
 

แต่แน่นอน ผมยังไม่ลดละ นั่งหาคอนโดนั้นและคอนโดใกล้ๆ รวมถึงฝาก Agent ช่วยดูให้ ตลอดเป็นเวลาเดือนกว่าๆ   เอาจนได้! ผมได้รับข้อเสนอใหม่จาก Agent ที่ตึกเดิม ห้องขนาดเดิม มุมเดิม ชั้นต่ำลง แต่ที่ราคา 4.4 ล้าน!!! ผมขับรถเข้าไปดูทันที ถ้าของดีจริงจะอยู่ไม่นาน และราคานี้ลงทุนได้ yield ที่ต้องการ เสียงเดิมกลับมาในหัวผมอีกครั้ง "ราคานี้ถูกสุดละ"
 

พอไปถึง พบว่าห้องมุมเดิมที่ชั้นต่ำลง มุมต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ แทนที่จะวิวทะเล กลายเป็นวิวครึ่งตึก ครึ่งที่ดินร้าง  คอนโดนี้ผมเล็งกลุ่มชาวต่างชาติเกรด A ซึ่งไม่น่าพึงพอใจกับวิวแบบนี้ ราคาค่าเช่าที่คาดหวังแต่ปล่อยห้องไม่ออกก็จะไม่ได้อะไรเลย ต้องมาลดราคาแข่งกับตลาดเกรด B อีก  และแล้วผมก็กลับบ้านมือเปล่ามาอีกรอบ T_T
 

ผ่านไปไม่ถึงอาทิตย์ เซลโครงการ(คนเดิมที่เคยเสนอห้อง 6 ล้านให้ผม) โทรมาบอกว่า"คุณคะ ยังสนใจอยู่ไม๊ ห้องมุมเดิม ชั้นกลางๆ ทำโปรที่ราคา4.4 ล้าน พร้อมแต่งครบ" สิ่งแรกที่ผมคิดคือ " อ้าว แล้วที่เคยเสนอราคานี้ถูกสุดละคืออะไร ?" ถ้าผมซื้อราคา 6 ล้านไปคงเจ็บไม่น้อย การที่มีคนหลายคนซื้อไปแล้วที่ราคานั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ผมกำไร แค่มีคนเจ็บเป็นเพื่อนเยอะขึ้น "ราคาตลาด หลายๆ ครั้ง ไม่ใช่ราคาที่ลงทุนได้ครับ แม้แต่ถูกกว่าราคสตลาด หลายๆ ครั้งก็ยังลงทุนไม่ได้"
 

เขียนมาตั้งยาว ผมแค่อยากจะบอกคุณว่าในโลกการลงทุน  "ราคานี้ถูกสุดละ" ไม่มีอยู่จริงครับ สิ่งที่มีอยู่จริงคือ "ราคานี้ลงทุนได้" ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งรีบร้อน ตลาดชะลอแบบนี้ เป็นตลาดของคนซื้อ อย่ากลัวเสียโอกาส เสียดายดีกว่าเสียใจ อสังหาฯ ไม่ใช่ลูกชิ้นปากซอย ไม่ต้องกลัวใครมาแย่งซื้อ รอซื้อเมื่อเจอ "ราคาที่ลงทุนได้"เท่านั้น แต่เมื่อเจอ อย่ากลัวที่จะตัดสินใจครับ

เวลาและการรู้จักรอ จะนำคุณไปยังแสงสว่างของเช้าวันใหม่ครับ รออย่างใจเย็นตัดสินใจแบบใจร้อน‬

Salaryman Estator