
หน้าแรก
สิ่งของอะไรก็ตามที่เป็นเครื่องทุ่นแรง ในการทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากขึ้น ย่อมได้รับความสนใจจากผู้คนเสมอ เหมือนกับ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ที่ตอนนี้ถือว่ากำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเรามีวิธีในการเลือกซื้อสำหรับคนที่มีงบจำกัด แต่ได้ของดีมีคุณภาพกลับไปใช้งานได้อย่างตอบโจทย์ในทุกๆ ด้าน
ตั้งบัดเจทที่เราสู้ไหว
ถึงจะมีงบน้อยก็อย่าเพิ่งถอดใจ เพราะเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ทำราคาออกมาให้เลือกค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียว ตั้งแต่หลักร้อยปลายๆ ไปจนถึงพันต้นๆ ก็สามารถซื้อใช้ได้แล้ว หรือหลักหมื่นบาทก็ยังมี จึงอยากให้ตั้งงบประมาณไว้ก่อน ว่าสู้ไหวที่ราคาเท่าไหร่ เพื่อจำกัดการค้นหาให้แคบลง จะได้ไม่ต้องเสียเวลานั่นเอง
ขนาดพื้นที่ช่วยเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
เมื่อตั้งงบแล้วก็ต้องมาดูพื้นที่ใช้สอยประกอบด้วยเพื่อให้บาลานซ์กัน ซึ่งพื้นที่ในคอนโดไม่ค่อยน่ากังวล เนื่องจากพื้นที่ไม่เยอะ ก็จะเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สายได้หลายแบบหลายราคา จะเลือกราคาถูกก็ได้แพงก็ดี แต่ถ้าเป็นบ้านซึ่งมีพื้นที่ในการดูดค่อนข้างเยอะ ราคาและคุณภาพควรจะต้องสูงตามไปด้วย เพื่อให้ใช้งานได้จริงและได้ยาวนาน
ความแรงให้ดูที่ PA และกำลังวัตต์
คราวนี้มาดูกันต่อว่า และควรจะเลือกยังไงให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยดูที่แรงดูดซึ่งจะใช้คำว่า PA และกำลังวัตต์เป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่ที่ขายตามท้องตลาดจะมีแรงดูดตั้งแต่ 8,000-27,000 PA ส่วนกำลังวัตต์ถ้าเป็นแบบไร้สายก็จะประมาณ 150-700 วัตต์ ยิ่งค่า PA มาก ก็จะดูดสิ่งสกปรกหรือเศษฝุ่นเส้นผมและขนสัตว์ได้ง่ายกว่า PA ที่มีค่าน้อย ที่แน่นอนว่าแรงดูดจะเป็นส่วนประกอบหนึ่งในการตั้งราคาว่าจะถูกหรือแพง
การใช้งานของหัวดูดฝุ่นไร้สาย
แต่ต่อให้พลังดูดแรงแต่หัวดูดฝุ่นโดยเฉพาะหัวดูดพื้น ออกแบบมาไม่ดีไม่คล่องตัวต่อการใช้งานบอกได้เลยว่าจบทันที ซึ่งหัวดูดที่เหมาะสมคือสามารถบังคับทิศทางได้ง่าย จะเดินหน้าหรือถอยหลังก็สะดวก ขณะที่วัสดุก็ควรดักจับฝุ่นละอองได้ดีเช่นเดียวกัน
ระยะเวลาการใช้ทำความสะอาด
ยิ่งเครื่องดูดฝุ่นไร้สายมีความจุแบตเตอรี่มากเท่าไหร่ ก็จะช่วยให้เราทำความสะอาดบ้านได้นานขึ้นเท่านั้น โดยสามารถใช้งานได้ตั้งแต่ 10-60 นาที แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปรับระดับความแรง ถ้าใช้โหมดแรงสูงสุดก็จะดูดได้ไม่กี่นาที แต่ถ้าโหมดแรงปกติก็จะดูดได้นาน 30-60 นาทีเลย ขณะเดียวกันการชาร์จแบต จะอยู่ที่ 1- 6 ชั่วโมงโดยประมาณ บางรุ่นอาจใช้เวลาชาร์จนานกว่านี้
อุปกรณ์เสริมที่ได้มา
มาต่อด้วยอุปกรณ์เสริมถ้าราคาประมาณ 700-1,000 กว่าบาท พวกหัวดูดทั้งหลายจะมีหลักๆ อยู่สามชิ้น คือหัวดูดพื้น หัวดูดปากแคบและหัวแปรง แต่ถ้าราคาสูงกว่านั้น 2,000 บาท ขึ้นไป ก็จะมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มขึ้นมาด้วยอย่างหัวดูดไรฝุ่น ยิ่งราคาหลักหมื่นก็จะมีหัวดูดชนิดต่างๆ เสริมเข้ามาให้เหมาะกับการใช้งานของพื้นที่นั้นๆ ขึ้นอยู่กับเราว่าอยากได้แบบไหน
เลือกแบรนด์หรือร้านที่น่าไว้ใจ
ความจริงแต่ละแบรนด์ทำออกมาได้ค่อนข้างดีกันอยู่แล้ว ไม่ค่อยน่ากังวลเท่าการเลือกร้านที่ขายในออนไลน์ พยายามเลือกร้านที่ดูน่าเชื่อถือ เน้นบริการหลังการขายให้ดี ติดต่อง่าย พูดจาสุภาพ และมีการรับประกันสินค้าไม่น้อยกว่า 6 เดือน เพราะเวลาเครื่องมีปัญหาจะได้ส่งซ่อมอย่างสบายใจ
อ่านรีวิวให้เยอะๆ
ห้ามขี้เกียจอ่านรีวิวเด็ดขาด ถ้าเราตัดสินใจได้แล้วว่าจะซื้อรุ่นไหน แนะนำให้หารีวิวดูเยอะๆ ไม่ว่าจะเป็นใน Youtube หรือใน Pantip รวมถึงรีวิวจากลูกค้าของร้านนั้นๆ ว่าพอซื้อมาใช้จริงแล้วดีจริงไหม มีอะไรที่ติดขัดตรงไหนบ้างรึเปล่าลองไล่อ่านให้ครบ อย่าลืมว่าแม้แต่คำตินิดเดียวก็มีผลสำหรับเราแล้ว เพราะนั่นหมายความว่าความขัดข้องนั้น อาจเกิดขึ้นกับเราด้วยก็เป็นได้ ลองพูดคุยกับเจ้าของร้านว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะแก้ไขยังไง แต่ว่าถ้ามีแต่คนชมก็แปลว่าสินค้าร้านนั้นน่าจะโอเคพอสมควร
ไม่อยากให้คิดว่าของถูกและดีมีอยู่จริง เพราะคำว่าดีของแต่ละคนแตกต่างกันไป แต่เราควรเลือกเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ราคาเหมาะสมกับคุณภาพจะดีกว่า ถ้าซื้อของถูกคุณภาพเค้าทำได้แค่นี้ แต่เรานำไปใช้กับบ้านที่มีพื้นที่เยอะ ก็อาจตอบโจทย์ได้ไม่ดีเท่าที่ควร กลับกันถ้าเราอยู่คอนโดไม่ได้ใช้งานหนัก ก็อาจเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว นี่สิถึงจะเรียกว่าคุ้มค่าคุ้มราคา
8 สถานที่พาแม่เที่ยวในกรุงเทพ สนุกเพลินทั้งครอบครัว
2020-08-11
SHAPE OF FENG SHUI รูปร่างคอนโดตามหลักของฮวงจุ้ย
2020-12-16
จัดสวนในขวดแก้ว เพิ่มพื้นที่สีเขียวไซส์มินิ
2020-12-04
HARD ROCK HOTEL PATTAYA สวรรค์แห่งการพักผ่อน
2016-07-15
ANOTHER STORY ดีไซน์ชีวิตด้วยไลฟ์ไตล์สุดเท่
2016-07-21
ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้มากๆ เลย
ขอบคุณผู้เขียนค่ะ เป็นประโยชน์มาก
ดีมากเลยค่ะ น่าติดตามข้อมูล
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนดี รอติดตาม
รีวิวอ่านง่าย รูปภาพสวยครับ