รายการโปรด
ช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้โลกเดินหน้าสู่ “ภาวะท้าทาย” ในหลายมิติ อาทิ สุขอนามัย อาหาร การสื่อสาร หรือข้อจำกัดด้านการเดินทาง เป็นต้น ซึ่งจากบทความ “2021 Was The Year of Extremes” ของเว็บไซต์ Investopedia ที่เขียนโดยบรรณาธิการข่าว “Caleb Silver” ระบุปี 2564 คือปีที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่าเป็นปีที่ยากลำบากที่สุด การเติบโตของธุรกิจแบบ K-Shape ได้สร้างความเลื่อมล้ำ โดยผู้ที่ทำธุรกิจในกลุ่ม K-Shape ขาขึ้นเท่านั้นคือผู้ที่อยู่รอด
ทั้งนี้จากการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่คาดไม่ถึงนับเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่าการปรับตัวตลอดเวลาเป็นเรื่องสำคัญ และต้องหมั่นอัพเดตความรู้จากหน่วยงานที่เชี่ยวชาญเพื่อให้เท่าทันกับทุกสถานการณ์ให้ได้มากที่สุด อันหมายรวมถึงเรื่องการบริหารพอร์ตการลงทุน ซึ่งประเด็นนี้ทาง บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT ได้ให้ความเห็นต่อแนวทางและการปรับตัวด้านการลงทุนเพื่อให้นักลงทุนได้ก้าวเข้าสู่ปี 2565 ได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ให้ความเห็นว่า จากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่มีปัจจัยจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั้น สิ่งที่นักลงทุนต้องตระหนักอย่างสม่ำเสมอคือเรื่องการกระจายความเสี่ยง ซึ่งมีทั้ง 1) การกระจายความเสี่ยงด้านการเลือกสินทรัพย์เข้าพอร์ตการลงทุน ด้วยการเลือกลงทุนในหลากหลายประเภทของสินทรัพย์
อาทิ พันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล กองทุนรวม หรือแม้แต่การลงทุนใน REIT ซึ่งแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงให้ต้องพิจารณาที่แตกต่างกันไป ) การกระจายความเสี่ยงไปในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เน้นไปในทางกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโต อาทิ ธุรกิจด้านสุขภาพ อุปกรณ์ทางการแพทย์ Logistic และ E-Commerce เป็นต้น
“แนวทางการลงทุนสำหรับกลุ่มนักลงทุนในปี 2565 นอกจากต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการกระจายความเสี่ยงแล้ว ยังต้องคำนึงถึงคุณภาพของทรัพย์สินด้วย ข้อมูลเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การตัดสินใจในการลงทุนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถึงแม้เราจะมองว่าความเสี่ยงเป็นเรื่องสำคัญ แต่เพื่อการลงทุนที่มีคุณภาพและยั่งยืน จะช่วยลดความกังวลในการลงทุน เพราะหากมีความกังวลมากเกินไป อาจส่งให้พอร์ตของเราไม่เติบโต”
โดยผู้สนใจเลือกลงทุนใน REIT ซึ่งเป็นการลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่หวือหวาเกินไปและไม่ Conservative ถึงขั้นไม่เติบโต ควรพิจารณาเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1) ทรัพย์สินที่อยู่ใน REIT เป็นทรัพย์สินที่มีคุณภาพหรือไม่ 2) ทรัพย์สินที่อยู่ในพอร์ตของ REIT นั้นๆ เป็นทรัพย์สินในกลุ่มธุรกิจใดและตั้งอยู่ในทำเลที่ตั้งใด
เพื่อให้เกิดการกระจายความเสี่ยงมากที่สุด 3) คาแรคเตอร์ของผู้ลงทุนเองที่มีความชื่นชอบ REIT ใน Sector ไหน ลงทุนในทรัพย์สินประเภทใด และสามารถรับความเสี่ยงได้เพียงไร และ 4) ความมั่นคงและผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว จากการบริหารจัดการโดยผู้จัดการกองทรัสต์ ที่มีความเชี่ยวชาญและเชื่อถือได้
สำหรับ PROSPECT REIT หลังการครบรอบ 1 ปีที่จัดตั้ง ถือได้ว่าเป็น REIT ที่สามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและทำผลการดำเนินงานจริงได้สูงกว่าเป้าหมายที่ประมาณการ ด้วยแนวทางการบริหารของผู้จัดการกองทรัสต์ที่มีความเชี่ยวชาญและมีความเข้าใจในธุรกิจนี้ในเชิงลึก
โดย นางสาวอรอนงค์ กล่าวว่า จากการที่ PROSPECT REIT มีผลการดำเนินงานที่ดีนั้น ได้ส่งผลต่อไปยังการจ่ายประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยในอัตราที่สูงและสม่ำเสมอด้วยในปีที่ผ่านมา และยังทำให้ผู้ถือหน่วยและนักลงทุนรายใหม่ให้ความเชื่อมันในผลการดำเนินงานสะท้อนผ่านราคาหน่วยของ PROSPECT REIT ที่ไล่ระดับขึ้นมาได้สูงกว่าราคา IPO และมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) แล้วในขณะนี้
“สำหรับเป้าหมายในการขยายมูลค่าสินทรัพย์รวม 10,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีที่เคยกล่าวไปนั้น ผู้จัดการกองทรัสต์มีแผนมุ่งเน้นหาทรัพย์สินคุณภาพดีเข้ามาเพิ่มเพื่อรองรับการเติบโต ซึ่งการที่ผู้จัดการกองทรัสต์เองที่มีนโยบายการลงทุนแบบอิสระ จึงไม่ได้ผูกติดกับเจ้าของทรัพย์สินรายเดิม (Sponsor) เท่านั้น แต่เรายังมองหาและศึกษาทรัพย์สินจากเจ้าของทรัพย์สินรายอื่นๆ อีกด้วย กลุ่มทรัพย์สินที่เรามองหา จะอยู่ในทำเลที่ดี ไม่ไกลจากศูนย์กลางโลจิสติกส์ โดยจะอยู่ใกล้กับสนามบิน ท่าเรือ เพื่อความสะดวกต่อการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ” นางสาวอรอนงค์ กล่าว
ดังนั้น การเลือกลงทุนใน REIT นั้นนักลงทุนควรเลือก REIT ที่มีทรัพย์สินคุณภาพดี มีผลการดำเนินงานที่ดี ซึ่งจะช่วยบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุนและทำให้พอร์ตโดยรวมมีความปลอดภัยมากขึ้น อย่างไรก็ดี นักลงทุนอาจจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตควบคู่กันไปด้วย เพื่อให้พอร์ตการลงทุนมีความเติบโตและยั่งยืน ไม่ได้หวือหวาเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น
ASW ชูกลยุทธ์ EXPAND รุก EEC ปั้น Flagship Project “อควารัส จอมเทียน พัทยา” มูลค่า 5,000 ลบ. เจาะตลาด Staycation และนักลงทุนทั้งไทย-เทศ
1 ชั่วโมงที่แล้ว
เดอะ คิวเว่ เซ็นทรัลพาร์ค นวมินทร์–รามอินทรา กวาดยอดขายกว่า 400 ล้านบาท ในรอบ EXCLUSIVE VISIT DAY
2 ชั่วโมงที่แล้ว
ลักชูรีวิลล่า “บางเทา–เชิงทะเล” มาแรง ครึ่งแรกปี 67 ยอดขายพุ่ง 500% ผลตอบแทนการเช่าเฉลี่ย 6-8%*
9 ชั่วโมงที่แล้ว
ธนาสิริ ส่งโปร “เหมันต์ หรรษา..คุ้มค่า น่าอยู่ x12” จองเริ่ม 999 บาท พร้อมสิทธิพิเศษอีกมากมาย
เมื่อวานนี้
เปิดตัว “Chapter Market” แลนด์มาร์กใหม่ใจกลางสุขุมวิท 26 ปลุกกรุงเทพฯ สู่ศูนย์กลางอาหาร คาดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก 1,000 คน/วัน
เมื่อวานนี้
อ่านแล้ว สัมผัสได้เลยว่าตั้งใจเขียน เยี่ยมค่ะ
เขียนเริ่ดมากจ๊ะ
น่าติดตามค่ะ
สู้ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียน สร้างสรรค์ผลงานมีประโยชน์ออกมาเยอะๆ ครับ