Favorite
หากเอ่ยถึง 'ห้องเก็บของ' คือน่าจะเป็นห้องสุดท้ายที่หลายคนนึกถึงเลยก็ว่าได้ บางคนคิดว่าต่อให้จะมีหรือไม่มีห้องเก็บของก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย เพราะก็คงไม่ได้ใช้งานอะไรเท่าไหร่อยู่แล้ว เมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ ภายในบ้าน
แต่ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่านี่เป็นความคิดที่ผิดพลาดอย่างแรง ซึ่งเชื่อเถอะว่าห้องเก็บของมีความสำคัญอย่างมาก ลองสังเกตกันดูสิว่าในหนังหรือซีรีส์ต่างประเทศ มักจะมีให้เห็นฉากห้องเก็บของแทบจะทุกเรื่องเลยก็ว่าได้ ดังนั้นมาลองดูกันว่าห้องเก็บของมีประโยชน์ตรงไหน ต้องดูแลจัดการยังไง และถ้าบ้านไหนไม่มีจริงๆ จะแก้ไขอย่างไรดี?
ทำไมต้องมี ‘ห้องเก็บของ’
ถ้าเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งที่สวยงามต่างๆ แน่นอนว่าเราก็อยากจะโชว์ให้เห็นเป็นที่สะดุดตา ตรงกันข้าม หากเป็นของและอุปกรณ์ที่หน้าตาไม่ได้ดูดี แต่จำเป็นต่อการใช้งาน อย่างเช่น เครื่องมือช่างสามัญประจำบ้าน เราจะเก็บไว้ตรงไหนได้ถ้าไม่ใช่ในห้องเก็บของ เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ชิ้นสองชิ้นแต่มีเป็นสิบ ทำให้การรวบรวมไว้ในที่เดียวกันจะช่วยให้เป็นระเบียบและหาง่ายขึ้น นี่ยังไม่รวมของจิปาถะและสมบัติพัสถาน ที่ยังตัดใจทิ้งไม่ได้อีกมากมายนะเนี่ย นี่แหละคือความจำเป็นที่เราต้องมีห้องเก็บของ
Photo credit by : abeautifulmess
ห้องเก็บของ อยู่ส่วนไหนของบ้านได้บ้าง?
ห้องเก็บของใต้บันได
ถ้าห้องเก็บของจะอยู่ซะที่ใดที่หนึ่งในบ้าน ใต้บันไดคือที่ยอดฮิตเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้ แต่มีข้อเสียคือจะได้พื้นที่แคบและได้เพดานเตี้ย
ห้องเก็บของตรงโรงจอดรถ
อันนี้จะอยู่ข้างนอกบ้านบริเวณลานจอดรถ ซึ่งค่อนข้างได้พื้นที่เยอะพอสมควร แต่ส่วนใหญ่มักจะเก็บอุปกรณ์เครื่องใช้นอกบ้าน ทำให้ของบางอย่างที่ต้องมาใช้ในบ้าน อาจไม่สะดวกต่อการจัดเก็บ
หนึ่งห้องเก็บของจัดเต็ม
สำหรับบ้านไหนที่จำนวนสมาชิกในบ้านน้อยจึงมีห้องเหลือ หรือมีพื้นที่พอในการกั้นทำเป็นห้องเก็บของ จะช่วยให้จัดสรรพื้นที่ในการเก็บได้หลากหลายมาก หรือถ้าในบ้านไม่มีพื้นที่เพียงพอ จะสร้างห้องเก็บของหรือซื้อแบบสำเร็จมาตั้งไว้ข้างนอกบ้าน ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
ไอเดียจัดห้องเก็บของ
เนื่องจากพื้นที่มีค่อนข้างจำกัด ต้องใช้ทุกตารางเมตรให้เกิดประโยชน์สูงสุด หาอะไรมาติดมาแขวนอย่างแถบแม่เหล็กหรือทำเป็นชั้นตรงผนัง ต่อมาที่ขาดไม่ได้คือกล่องยิ่งมีฝาปิดยิ่งดี เพื่อให้ห้องเก็บของดูไม่รก โดยแยกเก็บเป็นหมวดหมู่และติดป้ายไว้ ซึ่งจะช่วยให้ง่ายต่อการหยิบใช้
โดยจัดวางให้ของหนักอยู่ข้างล่าง และนำของที่คิดว่าไม่ค่อยได้ใช้ไว้ด้านในสุดของห้องเก็บของ ที่สำคัญคือหยิบมาจากตรงไหนเก็บเข้าที่เดิมทุกครั้ง และถ้าบ้านไหนไม่มีไฟแนะนำให้หามาติดตั้งเพื่อสะดวกในการหาของ อย่างไรก็ดีหากเป็นไปได้ขนาดห้องเก็บของควรมีประมาณ 3-5% ของพื้นที่บ้านทั้งหมด
Photo credit by : abeautifulmess
บริการให้เช่าห้องเก็บของ ทางเลือกของคนมีของ (เยอะ)
แต่ถ้าบ้านไหนไม่มีห้องเก็บของ ยิ่งโดยเฉพาะใครที่อาศัยอยู่คอนโดด้วยแล้วนั้น แต่อยากมีห้องเก็บของเป็นของตัวเอง การใช้บริการให้เช่าห้องเก็บของก็ดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ซึ่งก็จะมีพื้นที่ห้องหลากหลายขนาด และกระจายตัวไปในทำเลต่างๆ เพื่อให้เราเลือกเช่าห้องเก็บของได้ตามใจชอบ
ไม่เพียงเท่านั้นบริการให้เช่าห้องเก็บของส่วนใหญ่ จะมีทั้งพื้นที่เก็บของให้เช่าอุณหภูมิปกติ และแบบควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งหมดห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะบริการให้เช่าห้องเก็บของ จะมีระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างแน่นหนา ทั้งการใช้รหัสเข้า กล้องวงจรปิด และเจ้าหน้าที่ ทำให้ข้าวของที่เราต้องการรักษาได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
คิดว่าน่าจะได้คำตอบของเรื่องราวในครั้งนี้กันแล้ว ว่าทำไมเราถึงต้องมีห้องเก็บของ หรือควรเช่าห้องเก็บของ ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับใครที่มีของเยอะ หรือเป็นคนที่ชอบเก็บแต่ไม่ชอบทิ้ง ทำให้ห้องเก็บของหรือบริการให้เช่าห้องเก็บของนี่น่าจะเป็นห้องที่โปรดปรานเลยก็ว่าได้
เจาะโปรโมชั่นเด็ด!! ซื้อคอนโดแถมรถยนต์ดีจริงไหม ?
2022-03-18
ภาพรวมที่อยู่อาศัยทั้งบ้านและคอนโด ในไตรมาส 1 ปี 2567
2024-06-27
จัดบ้านสำหรับผู้สูงวัยให้ปลอดภัย ต้อนรับวันผู้สูงอายุ
2024-04-05
ย้ายคอนโดใหม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง
2024-10-24
การจดจำนองที่ดินมีอายุกี่ปี รวมเรื่องต้องรู้ก่อนทำสัญญาจำนอง
2024-07-08
ดีคะ ไม่พูดมากเจ็บคอ
อ่านเยอะเกินไป อยากได้ไปหมดทุกที่เลย
อ่านง่าย เข้าใจง่าย ไว้จะเข้ามาอ่านบ่อยๆค่ะ
ชอบๆ มีสาระประโยชน์มากค่ะ