Knowledge
icon share

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

Salaryman Estator 2020-04-14 09:38:30
5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

 

 

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

Salaryman Estator

 

 

ชีวิตคนเราบางทีมันก็พลิกผันหลังเรียนจบ น้องบางคนมีแนวทางที่แน่นอนของตัวเอง ในเวลาเดียวกัน มีคนอีกจำนวนมากที่ยังคงค้นหาตัวเอง และไม่รู้ว่าควรมีแนวทางในการคิดยังไง อารมณ์ประมาณกำลังคลุกวงในและเมาหมัด มองไปทางไหนก็สับสนไปหมด อย่าว่าแต่หาสิ่งที่ตัวเองชอบเลย แค่หาว่ามีอะไรบ้างที่ควรรู้ก็ยัง งงๆ ถ้างั้นลองลงทุน ให้เช่าคอนโด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดูสิ

 

 

ผมมี 5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่ 

 

 

1. ใช้ชีวิตแบบโล่งได้แต่อย่านาน

เด็กจบใหม่ทุกคน คงจะมีอารมณ์ "จบแล้วว โว้ย ขอจัดหนัก ขอใช้ชีวิต" อันนี้ปกติครับ เป็นกันทุกคนนะผมว่า และส่วนใหญ่ก็ไปจบด้วยการเล่มเกมข้ามเดือน เที่ยวข้ามปี สังสรรค์สุดติ่งกระดิ่งแมวทั่วโลก ซึ่งผมว่าเป็นสิ่งที่ดีนะ คนเรามันต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตแบบสุดๆ ดูซักครั้ง ประสบการณ์และการลองผิดลองถูกมันจะทำให้คุณก้าวข้ามเส้นแบ่งระหว่างชีวิตนักเรียนกับชีวิตจริง 

 

แต่หลายๆ ครั้ง มันเลยเถิดไป ใช้ชีวิตให้สุดเสร็จไปแล้ว แต่ยังไม่มีเป้าหมายว่าอยากทำอะไร ก็เลยบอกตัวเองว่า "ใช้ชีวิตให้สุดต่อไปละกัน" อันนี้ผมว่าไม่ใช่ละ ออกไปในแนว "ใช้ชีวิตแบบโล่ง" อย่าเอาคำว่าใช้ชีวิตให้สุดมาหลอกตัวเองครับ ตัวคุณเองจะรู้ตัวว่าเมื่อไหร่คุณก้าวข้ามจากชีวิตสุดไปจนกลายเป็นชีวิตโล่งๆ ไร้แก่นสาร ความรู้สึกมันบอกได้ชัดเจน แค่คุณต้องยอมรับฟังมัน ใช้ชีวิตแบบโล่งได้แต่อย่านาน อย่ายอมแพ้ต่อความกลัวการเริ่มต้น ลุกขึ้นมาและก้าวต่อไปข้างหน้าได้แล้ว ถ้าเวลาที่เพื่อนวิ่ง คุณนั่งเฉยๆ เวลาที่เพื่อนเข้าเส้นชัย คุณจะมาเสียใจวันนั้น อาจจะสายไปแล้วในการเริ่มวิ่ง

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

 

 

2. อย่ากลัวความผิดพลาด

สิ่งที่ทำให้น้องจบใหม่หลายคนไม่กล้าก้าวไปข้างหน้าคือ "กลัวความล้มเหลว" เลยรอให้พร้อม 100% ค่อยเริ่ม สุดท้ายเลยไม่เคยได้เริ่ม ผมไม่โทษใครนะ ตั้งแต่เด็กโรงเรียนสอนเราว่า "คนที่ทำข้อสอบไม่ผิดเลย" คือคนที่เจ๋งที่สุด! เราเรียนแบบนั้นมาตั้งแต่เกิด จะให้เรามาไม่กลัวความผิดพลาดหลังเรียนจบมันคงไม่ง่าย

 

แต่โลกแห่งความเป็นจริง คนที่กล้าลงมือทำ กล้าก้าวไปข้างหน้า กล้าทุ่มสุดตัว กล้าทุ่มสุดใจ กล้าเผชิญความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น "จะเป็นคนที่เจ๋งที่สุด"  ไม่ใช่คนที่ทำข้อสอบได้เต็มอีกต่อไป เมื่อไหร่ที่คุณเลิกกลัวความผิดพลาด เมื่อไหร่ที่คุณกล้าทุ่มสุดตัว ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไป

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

 

 

3. เลิกมองแต่เงิน

กล้าเริ่มแล้ว แล้วไงต่อ? คำถามโลกแตก ถ้าคุณเข้าใจว่า "ในระยะยาวรายได้คุณมันจะแปลผันตามความสามารถของคุณ" คุณจะเลิกมองหางานที่มีรายได้สูงสุด แต่เป็นงานที่คุณได้ลอง ได้เรียนรู้ ได้เพิ่มขีดความสามารถของตัวเอง งานในที่นี้ผมไม่หมายถึงแค่งานประจำนะครับ สำหรับผมอะไรที่เราทำแล้วได้เงินหรือประสบการณ์ก็เป็นงานได้หมด นักธุรกิจ นักสร้างทรัพย์สิน นักพูด นักเขียน นักลงทุน และยังมีอีกหลายงานในโลกนี้ที่มันโคตรเจ๋ง แต่มันไม่ได้เงินในวันแรกที่ทำไง ถ้าคุณไปโฟกัสหางานที่ได้รายได้ดีในวันนี้อย่างเดียว คุณจะเสียโอกาสมากมายในระยะยาวครับ ลองเอาเรื่องเงินออกจากหัวดูบ้าง คุณจะรู้ว่าโลกมันโคตรน่าสนุกเลย

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

 

 

4. อย่าสร้างหนี้สิน มองหาทรัพย์สิน

มันอาจจะเจ็บปวดนะ ที่คุณจะต้องมองเพื่อนซื้อรถสวยๆ บ้านหลังใหญ่ ในขณะที่คุณนั่งสร้างทรัพย์สิน เกร็ดความรู้ : ทรัพย์สินถือครองแล้วต้องได้เงิน (อะไรก็ได้ บ้าน ลิขสิทธิ์หุ้น กรรมสิทธิ์หนังสือ ธุรกิจ แฟนเพจ) แต่บ้านอยู่อาศัยที่ต้องผ่อนตัวจนตัวแห้ง อันนั้น(สำหรับผม) ไม่เรียกว่าทรัพย์สินครับ

 

ถ้าคุณสร้างหนี้สิน มันจะล็อคตัวคุณไปนานหลายปี โดยเฉพาะถ้าคุณจะลงทุนอสังหาฯ ธนาคารจะไม่ให้คุณกู้เงิน (ซึ่งเป็นจุดตายของการลงทุนอสังหาฯ) หนี้สินจะไม่แค่ล็อกตัวคุณ ล็อกเงินคุณ มันจะล็อกสมองคุณด้วย สมองคุณจะคิดแต่เรื่องเงิน จนเดินผิดทาง ถ้าต้องเสียช่วงอายุ 10 ปีแรกหลังเรียนจบ (ซึ่งโคตรมีค่าเพราะเป็นเวลาที่เรายังล้มได้) ไปเพื่อผ่อนหนี้สิน มันฟังดูไม่น่าคุ้มเนอะ?

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

 

 

5. อย่าเก่งแต่ในหัว

ลงมือทำซะ คิดมาตั้งเยอะถ้าไม่ได้ลงมือมันไม่มีค่าอะไรเลย "พลังแห่งการลงมือทำ" สำคัญที่สุด คิดแล้วก็ต้องเริ่มเลย เริ่มทีละนิดก็ได้ คุณจะเก่งขึ้นจนตัวเองภูมิใจหลังจากคุณได้ลงมือทำจริงเท่านั้น ไม่ใช่การคิดบางทีการเริ่มทีละนิดมันพาเราไปได้ไกลจนน่าตกใจเมื่อเรามองกระจกหลังกลับไป 

 

ผมขอยกตัวอย่างจากชีวิตผมเอง ตอนเริ่มลงทุนอสังหาฯ ก็เริ่มจากการลงมือทำทันทีหลังจากที่มีแสงสว่างวาปเข้ามาในสมอง ศึกษาเพิ่มเติมอย่างหนัก อย่าว่าแต่ในร้านหนังสือที่ไม่เหลืออะไรให้อ่านแล้วเลย คลิปสอนในเน็ตผมก็ดูมาจนครบ เปิดเน็ตหาบ้านน่าลงทุน ลงพื้นที่ทันที ทั้งๆ ที่ไม่รู้อะไรเลย เดินเข้าไปในโครงการมากมายทั้งที่บางโครงการไม่มีเงินซื้อห้องที่เล็กที่สุดด้วยซ้ำ เดินทางไปชลบุรีเพื่อเจอ Agent ที่เป็นของจริงทั้งที่ตอนนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นของจริง และดูบ้านที่สนใจจนนับจำนวนไม่ได้ จนสามารถเป็นเจ้าของบ้าน positve cash flow ได้ 3 เดือนหลังภายใน 9 เดือนแรกของการลงทุน

 

ฟังดูบ้าบอเนอะ ตอนนั้นผมก็ตั้งเป้าไว้แค่ 1 หลังภายในปีแรก ไม่รู้มันไปถึง 3 ได้ไง ยิ่งไปกว่านั้น ความรู้และประสบการณ์เพิ่มขึ้นจนผมมาเป็นผมในทุกวันนี้ ใครยังไม่เข้าใจว่า"พลังแห่งการลงมือทำคืออะไร"  ไม่ต้องคิดมาก ลงมือทำเลยครับ แล้วคุณจะเข้าใจ

5 เรื่องการลงทุนที่(โคตร)อยากบอกน้องจบใหม่

 

 

สุดท้าย อยากจะบอกว่าผมเขียนบทความนี้ขึ้นเพราะเห็นน้องๆ ที่กำลังเมาหมัดมากมาย ถ้ามีน้องเพียง 1 คน ที่กำลังสับสนสามารถมีแนวทางการดำเนินชีวิตที่ชัดเจนขึ้น ... ผมก็ถือว่าผมประสบความสำเร็จแล้ว หรือใครอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์อะไรก็ติดต่อผมใน Facebook page ได้ทุกเมื่อครับ 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

Article Other

livinginsider livinginsider