"ประยุทธ์"แก้ปมเผือกร้อน1สถานี BEMส้มหล่นรฟม.จ้างเดินรถสีม่วง

รัฐผ่าทางตันทุ่ม 690 ล้าน แก้ปัญหาเชื่อมสถานีรถไฟฟ้าเตาปูน-บางซื่อ เปิดใช้แน่กลางปีหน้า "BEM เครือ ช.การช่าง" ส้มหล่นได้งานบริหาร คมนาคมยืดเจรจา 30 วันให้เหมาเดินรถสายสีน้ำเงินทั้งโครงข่าย แลกสัมปทาน 30 ปี แนวโน้มแฮปปี้ เสนอผลตอบแทน 2.8 หมื่นล้าน ไม่ชาร์จค่าแรกเข้าโครงการส่วนต่อที่ 2

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามเมื่อ 19 พ.ย. 2559 ในมาตรา 44 ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ขยายเวลาไปอีก 30 วัน เรื่องการเจรจาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ระยะทาง 27 กม. กับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) หลังคณะกรรมการกำกับดูแลสายสีน้ำเงินเดิมตามมาตรา 43 และคณะกรรมการคัดเลือกสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายตามมาตรา 35 แห่ง พ.ร.บ.ร่วมลงทุนฯ2556 ไม่สามารถเจรจาได้แล้วเสร็จใน 30 วันตามกำหนด

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผย"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตามคำสั่งมาตรา 44ให้เจรจาเดินรถสายสีน้ำเงินแบบต่อเนื่อง (Through Operation) ทั้งโครงข่ายเดิมและส่วนต่อขยายใหม่รวม 47 กม. ซึ่งจะมีผลเกี่ยวพันกับสัญญาสัมปทานเดิม กรณีค่าแรกเข้าต่อที่ 2 ทำให้การเจรจาไม่บรรลุผล จึงต้องขยายเวลาเจรจาออกไปถึง 18 ธ.ค. 2559

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีข้อยุติก็อาจเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา 2 ทางเลือกคือ เจรจาต่อ หรือเปิดประมูลใหม่ ที่เจรจาได้ข้อยุติแล้ว คือ ให้แยกการเดินรถ 1 สถานีออกมาก่อน เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนที่ค้างคาอยู่ ช่วงสถานีเตาปูนสายสีม่วง กับสถานีบางซื่อสายสีน้ำเงิน โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะลงทุน 693 ล้านบาท ติดตั้งงานระบบและจ้าง BEM เดินรถ คาดเปิดให้บริการกลางปี 2560

"พร้อมเสนอ ครม.อนุมัติวันที่ 6 ธ.ค.นี้ เพราะเป็นเรื่องด่วนที่นายกรัฐมนตรีขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งจัดการ" แหล่งข่าวกล่าวและว่า
 

ส่วนการรวมสัมปทานนั้น รัฐมีข้อเสนอยกเว้นเก็บค่าแรกเข้าครั้งที่ 2 และกำหนดราคาค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 42 บาท แม้จะทำให้รายได้ BEM หายไป 50%
 

แต่เอกชนจะได้สัมปทาน 30 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2592 โดยเสนอผลตอบแทนให้รัฐ 30 ปีแบบไม่มีการชดเชยค่าแรกเข้าคิดเป็นมูลค่าปัจจุบันอยู่ที่ 28,000 ล้านบาท ถ้าคิดเป็นมูลค่าในอนาคตประมาณ 100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้จากค่าโดยสารและเชิงพาณิชย์

"คณะกรรมการจึงต้องหาข้อยุติเจรจาให้ได้ใน 30 วัน ทั้งเรื่องผลตอบแทนและส่วนแบ่งรายได้ที่ชัดเจน"

ทั้งนี้ การเดินรถสายสีน้ำเงินจะเป็นแนววงกลมทั้งโครงข่าย รัฐต้องการให้เอกชนรายเดียวบริหารเพื่อให้ค่าโดยสารถูกลง ในอัตราค่าโดยสารร่วม (Common Fare) คือ รวมสัมปทานเก่าใหม่เข้าด้วยกัน

ซึ่งผู้โดยสารจะจ่ายค่าแรกเข้าครั้งเดียว จากนั้นคิดตามระยะทาง สถานีละ 2 บาท สูงสุดเท่ากับสีน้ำเงินเดิมคือ 42 บาท

ล่าสุดได้มีการปรับประมาณการผู้โดยสารใหม่ จากเดิมเฉียด ๆ 1 ล้านเที่ยวคน/วัน ลดลงอยู่ที่ 7-8 แสนเที่ยวคน/วัน

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1480490810