หลายคนมีงบประมาณที่ไม่ได้มีข้อจำกัด มากนัก สามารถเลือกได้หลายที่คงเคยตัดสินใจว่าจะเอาที่อยู่แบบไหน ระหว่าง ซื้อคอนโด ห้อง Penthouseใหญ่ๆ สุดหรูนอกเมือง หรือห้องเล็กๆเท่ห์ๆใจกลางมหานคร..

ปัจจุบันอย่างที่ทราบกันดีว่าคอนโดใจกลางเมืองราคาเรียกได้ว่า “แพงระยับ” บางที่เกือบ 10 ล้าน ได้แค่ 1 ห้องนอนไม่เกิน 40 ตรม.

ทำ ให้บางครั้งการตัดสินใจซื้อคอนโดหลังแรกเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย อาจต้องคิดหลายตลบเพื่อความเหมาะสมกับการใช้ชีวิต ทั้งยังอาจต้องคิดถึงการลงทุนด้วย เพราะทุกคนก็อยากขายต่อง่ายได้กำไรงามหรือปล่อยเช่าง่ายๆด้วยถ้าไม่ได้อยู่ อาศัย

นั่นแหละฮะ ท่านผู้ชมครับ ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง คอนโดที่มีพื้นที่เยอะ อยู่สบาย อาจอยู่นอกเมืองหน่อย แต่ถ้าต้องการอยู่ในโซน CBD (ใจกลางเมือง) ก็คงได้แค่ห้องเล็กๆ  หลายคนอาจนึกภาพไม่ออกว่าแตกต่างกันขนาดไหน งั้นจะลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพกันนะครับ

หางมังกร

“Ashton Asoke” คอนโดที่ กูรู เกจิ คอนโดทั้งหลาย บอกว่า โลเคชั่นดีที่สุดประวัติศาสตร์สยามประเทศ ใกล้ทั้งBTS, MRT

ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ฯลฯ ราคา 1 ห้องนอนขนาด 34-35 ตรม. อยู่ระหว่าง 8-9 ล้านบาท

"Noble Ploenjit" ชีวิตแถวหน้า สำหรับคนที่มองเห็น ...รอมองมา 5 ปีแล้ว ยังไม่เห็น (เสร็จ) ซักที

ราคา 1 ห้องนอน 45 ตรม. ราคา 12-14 ล้านบาท

ขอบคุณภาพจาก web skyscrabercity

“Pyne By sansiri” เป็นตำนานไปแล้ว คอนโดย่านราชเทวี สำหรับลูกเศรษฐี ชนชั้นมีอันจะกิน Gen Me ผู้เรียนจุฬา เตรียมอุดม ราคาโดดจาก 130,000 กว่าๆ/ตรม. ไปถึงเกือบ300,000บาท/ตรม.บาท OH MY GOD!!! What The Fact !!!! ราคา1 ห้องนอน ห้องขนาด 44.5-46.5 ตรม. ราคาไปที่ 12-15 ล้าน

 "HQ ทองหล่อ" (การเดินทางจากแสนสองถึงสองแสนและเรื่องเศร้าของคนขายหมู) ด้วยโลเคชั่นสุดโดดเด่นใจกลางทองหล่อ แหล่งสุดฮิปของ ดารานักแสดง เศรษฐีไทยผู้ยังมีไฟและลุ่มหลงในแสงสี อีกทั้งเป็นแหล่งที่อัตราค่าเช่าต่อตรม. สูงสุด ทีนี่คนญี่ปุ่นถามเช่าตลอดหัวกะไดไม่แห้ง (สมัยนี้คงต้องบอกว่าปุ่มลิฟท์ไม่แห้ง) ราคา 1 ห้องนอนขนาด 43-46 ตรม. อยู่ที่ 8.8 -9.5 ล้าน

"The XXXIX" คอนโดสุดหรู สเปคระดับโลก ใกล้ห้างที่หรูหราที่สุดในเมืองไทย EM District ราคาปัจจุบันวิ่งจาก ประมาณ 180,000 ต่อตรม. มาถึง 260,000-280,000 ต่อตรม. ราคา 1 นอน50 ตรม. ปัจจุบันอยู่ที่ 15 ล้าน  OH ชิด!!! อะไรกันนี่ ถนนแคบ ฝนตกน้ำท่วม ห้องก็วิวบล๊อค มาถึงจุดนี้ได้ไง แต่ นั่นแหละฮะ ท่านผู้ชมครับ สเปคเค้าดี แบรนด์เค้าแข็ง อย่างที่รู้ นี่ใครครับ แสนสิรินะครับ ขนาด พระโขนง จตุจักร ยังขายเกือบสองแสนวันเดียวหมดมาแล้ว ของเค้าแรง อย่าไปท้า ความสามารถเฉพาะแสน

จะ เห็นว่าใจกลางกรุงเทพ ท่านจ่าย 10 กว่าล้าน เดี๋ยวนี้ ได้แค่ 1 ห้องนอน อย่าไปสงสัยว่าใครมันจะบ้าซื้อ เพราะเค้าซื้อกันไปแล้ว แถมขายดีด้วย นี่แหละครับบ้านเรา คนรวยเยอะโครต แบบซุ่มรวย ไม่บอกใคร ที่เช็คได้ก็แค่เศรษฐีในตลาดหุ้น

หัวหมา

คราว นี้ลองมาดูคอนโดที่ขยับออกมานอกเมืองหน่อยในราคาใกล้เคียงกันว่าเราจะได้ อะไรบ้าง มีโครงการนึงซึ่งคอนเซปต้องบอกว่า เจ้าของกล้าทำมากๆ  “The Unique Sukhumvit 62/1” โครงการนี้จะมีห้องพิเศษแบบมี 3 ชั้น ที่เรียกว่า “Tri Plex”

ซึ่ง แบ่งเป็น 3 ชั้น มี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เหมือนทาวน์โฮม และบางห้องยังมีแบบ pool access เดินชิลล์จากระเบียงลงสระได้เลย  โดยราคาอยู่ระหว่าง 9-14 ล้านขนาด 99-133.5 ตรม.  ขอบอกว่า เท่ห์มากๆครับ ไลค์เลย!!! อยากเห็นตอนสร้างเสร็จจริงๆ

"Whizdom Connect Sukhumvit" ต้องบอกว่าโครงการนี้อลังการงานสร้างจริงๆ มูลค่าโครงการ 30,000 ล้านบาท งานนี้เสี่ยสั่งลุย ไม่รวยจริงทำไม่ได้ มีทั้งชอปปิ้งมอลล์ ทั้งอาคารสำนักงาน แล้วยังจะมีแผนจะทำ sky walk เชื่อมเข้าโครงการเลยด้วย มาดูห้องทีอยากแนะนำคือห้อง PentHouse 3 ห้องนอน 81 ตรม. หลายคนอาจไม่ได้เห็นแปลนห้องนี้ในเว็บไซต์โครงการ ในเว็บไซต์จะเห็นถึงแปลนแค่ชั้น 30 เพราะชั้นสูงกว่านั้น เค้าขายไปหมดแล้วโดยพวก super vip ได้ข่าวว่าห้องนี้ถูกซื้อไปแล้วโดยผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ทั้งตึกมีแค่ 4 ห้อง ชั้นละห้อง คือชั้น 38-41ซึ่งราคาอยู่ที่ 10-11 ล้านเท่านั้น

"Supalai wellington" ใครเคยไปเมือง wellington อาจบอกได้ว่าบรรยากาศเหมือนที่นี่แค่ไหน....

“คอนโดฯหรู คุณภาพศุภาลัย ทันสมัย ใจกลางรัชดาฯ ย่านธุรกิจใหม่ของกรุงเทพฯ”ของปรมจารย์แห่งวงการอสังหาฯ ผู้คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆให้เราได้ทึ่งในความ minimalist design ทำน้อย ได้เยอะ คอนโดนี้อยู่ในย่าน (เหมือนจะใกล้) CBD ตรงแยกพระราม 9 หลายท่านอาจไม่เชื่อว่า ห้อง 3 ห้องนอนที่นี่ขนาดถึง 124 ตรม. ราคาแค่ 9.5 ล้าน หรือตกตรม.ละ 76,000 บาท เท่านั้น เฮ้ย !!! เป็นไปได้ไง ตอนนี้คอนโดในซอยบางที่ยังตรม.ละ 80,000 แล้ว นี่แหละครับ ศุภาลัยและการดีไซน์แบบ minimalist ที่เรียกว่า ทำน้อย ได้เยอะ (กำไร)

แต่ก็ไม่ใช่แค่ขนาดอย่างเดียวที่จะวัดค่าได้ว่าคุ้มค่ามั้ย ต้องดูถึง โลเคชั่น คุณภาพ การออกแบบ ชื่อเสียงของผู้ประกอบการด้วย ถ้ายึดแต่ โลเคชั่นเป็นหลัก เราอาจได้ห้องเล็กๆกลางใจเมือง ซึ่งเอาเข้าจริงห้องเล็กๆไม่รู้เราจะอยู่ได้มั้ย ถ้ายึดขนาดห้องเป็นหลักอาจได้ห้องใหญ่เดินทางไม่สะดวก สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้องไม่หลอกตัวเอง และคิดถึงความเป็นจริงในชีวิต คิดถึงสิ่งที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเรา บางทีโลเคชั่นอาจไม่ใช่ทุกอย่าง หรือ บางทีขนาดห้องใหญ่อาจไม่จำเป็น  

แต่ ไม่ว่าจะอยู่แบบไหน  อยู่แบบ “หัวหมา” หรือ “หางมังกร” สิ่งสำคัญที่สุดคือ มันจะต้องเป็นที่ที่ไม่ว่า เราจะสุข เศร้า เหงา ทุกข์ อกหัก เมาปลิ้น ฟินกับแฟน หรือ อารมณ์แบบไหนก็ตาม ที่นี่จะต้องเป็นที่ที่ให้เราได้พักกายพักใจอย่างเต็มที่ ไม่ว่าเราจะไปเที่ยวไหนมา สุดท้ายเราก็ต้องกลับมาที่นี่ ที่ที่เรามักจะพูดตอนมาถึงว่า “อ้า.........ถึงบ้านซะที”