Favorite
การเลือกบ้านต้องใช้จินตนาการสูง นั่นก็เพราะว่าส่วนใหญ่แล้วเรามักจะมองหาโครงการเพิ่งสร้างเสร็จ เพื่อยืดระยะการอยู่อาศัยของเราให้ดูใหม่ได้นานที่สุด ซึ่งจุดนี้แหละเป็นเรื่องยากต่อการนึกภาพให้ออกว่าถ้าผ่านไปหลายปีโครงการจะออกมาเป็นยังไง สภาพแวดล้อมจะยังสวยและดูดีเหมือนครั้งแรกที่มาไหม
แต่ที่นี่ Nirvana BEYOND พระราม 2 เฉิดฉายให้เห็นถึงสุนทรียภาพแบบชัดเจนอย่างแท้จริง เพราะเป็นโครงการระดับ Luxury ที่สร้างเฟสแรกขึ้นตั้งแต่ปี 2015
ซึ่งระยะเวลากว่า 9 ปี ได้สรรสร้างทัศนียภาพ ออกดอกออกผลให้ต้นไม้น้อยใหญ่ได้เขียวขจีบานสะพรั่ง เหมือนรีสอร์ทปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ที่สำคัญคือยังดูใหม่เหมือนเพิ่งเปิดโครงการได้ไม่นานด้วยซ้ำ เพราะการแบ่งโซนพัฒนาโครงการเป็นเฟส ทำให้โครงการเป็นสังคมที่น่าอยู่ เต็มไปด้วยเพื่อนบ้านระดับนักธุรกิจ และบุคคลากรทางการแพทย์ก็เข้ามาอยู่ด้วยไม่น้อย เปรียบเหมือนกับว่ายิ่งอายุมากขึ้นยิ่งดูดี ทำให้มองเห็นอนาคตข้างหน้าเลยว่าจะต้องกลายเป็นโครงการ Legends Never Die
เสริมทัพความแข็งแกร่งด้วยความเป็น ทำเล พระราม 2 ที่คนภายนอกมองเข้ามาหรือใช้เป็นแค่ทางผ่านอาจมองว่าวุ่นวายจากการก่อสร้าง แต่กลุ่มคน Local คนดั้งเดิม นักธุรกิจที่ต้องใช้ทำเลใช้ชีวิตไปกลับระหว่างโรงงานและบ้านกลับเลือกอยู่อาศัยในสังคมที่นี่ ส่วนใหญ่ ลูกบ้านที่นี่เป็นคนพื้นที่ที่อยู่พระราม 2 มาตั้งแต่เด็กๆ และถึงเวลาต้องแยกครอบครัว ก็ยังคงเลือกที่นี่เพราะมองว่าเป็นโลเคชันที่น่าอยู่อาศัยและสามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้ทุกแง่มุม
ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลซื้อขายของราคาที่ดิน จะพบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นทุกปีเฉลี่ย 7-8% และคาดการณ์ว่าตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินถูกปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 50-80% เลยทีเดียว โดยเฉพาะช่วงต้นพระราม 2 ที่ปัจจุบันมีราคาแพงมากจนยากต่อการพัฒนาโครงการแนวราบ และหากในอนาคตทุกอย่างสร้างเสร็จเป็นที่เรียบร้อย จะทำให้โลเคชันพระราม 2 ยิ่งเพิ่มมูลค่าแบบทวีคูณเลยทีเดียว
Photo credit by : wikipedia
โดย เนอวานา บียอนด์ พระราม 2 (Nirvana BEYOND Rama 2) ก็เลือกปักหมุดหมายได้อย่างมีชั้นเชิงบน ใจกลาง Downtown พระราม 2 ซึ่งนอกจากจะอยู่บนทำเลที่มีราคาที่ดินแพงแล้ว ยังอยู่ในตัวเมืองช่วงต้นของทำเลพระราม 2 ที่แวดล้อมไปด้วยความพรั่งพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบทุกมิติ
ที่สำคัญคือ เป็นโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่พระราม 2 ฝั่งขาออกเมือง ระหว่างพระราม 2 ซอย 61 และ 63 ถือเป็นโครงการบ้านที่ตั้งอยู่ในช่วงต้นๆของถนนพระราม 2 เดินทางสะดวกและที่ดินเพิ่มมูลค่า เพราะไม่ต้องเสียเวลาเข้าซอยให้ลำบาก ซึ่งหาได้ยากมากบนทำเลนี้ที่โครงการบ้านจะอยู่ติดถนนใหญ่แบบนี้ โดยถนนเส้นนี้เป็นหัวใจหลักในการสัญจรไปมา ซึ่งเชื่อมโยงไปยังถนนสายสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขสวัสดิ์ ถนนบางขุนเทียน ถนนเอกชัย และถนนพุทธบูชา
แต่ที่เป็นจุดเด่นของการเดินทางต้องยกให้การอยู่ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วน ถึง 2 จุดด้วยกัน ได้แก่ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้วิ่งเข้าเมืองไปโซนสุขุมวิท พระราม9 คลองเตย รวมถึงข้ามไปฝั่งถนนพระราม 3 ออกสีลม สาทร ได้เช่นเดียวกัน และอีกทางด่วนหนึ่งคือทางพิเศษกาญจนาภิเษก (วงแหวนรอบนอก) ขณะเดียวกันจะออกนอกเมืองไปยังจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรือประจวบคีรีขันธ์ ก็ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่นาน
นอกจากนี้ยังมีโปรเจกต์ในอนาคตทั้งทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ทางยกระดับบนทางหลวงหมายเลข 35 ธนบุรี-ปากท่อ มอเตอร์เวย์ บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว และทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ซึ่งถ้าก่อสร้างแล้วเสร็จ จะยิ่งส่งผลให้ทำเลพระราม 2 เป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการจากผู้คนมากขึ้น
อีกหนึ่งจุดแข็งของย่านนี้ ที่ทำให้คนเก่าแก่หรือคนที่อยู่มานานไม่ยอมย้ายไปทำเลอื่น เนื่องมาจากความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่มีความหลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ
และอย่างที่บอกไปว่าตัวโครงการอยู่ย่านดาวน์ทาวน์ ใจกลางพระราม 2 ทำให้ใกล้ทั้งแหล่งไลฟ์สไตล์อย่าง Central พระราม 2 , The bright พระราม2, HomePro, Lotus's, Big C และร้านอาหารรวมถึงคาเฟ่อีกมากมาย ซึ่งจากโครงการไปยังสถานที่เหล่านี้ใช้เวลาเดินทางเพียงหลักสิบนาทีซึ่งถือว่าไม่ไกลเลย อย่างเซ็นทรัลก็ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนโลตัสก็ห่างจากโครงการไปเพียง 2 ซอยเท่านั้นเอง
ด้านสถานศึกษาก็อยู่ไม่ไกลเช่นเดียวกัน ซึ่งก็ล้วนเป็นโรงเรียนชั้นนำแทบทั้งนั้น ได้แก่ BASIS International School, Norwich International School รร.เลิศหล้า รร.รุ่งอรุณ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ทำให้ครอบครัวไหนที่มีลูกหลาน ก็ทำให้พวกเค้าสามารถไปเรียนได้โดยง่าย รวดเร็ว และไม่เหนื่อยอีกด้วย
ขณะเดียวกันสถานพยาบาลชื่อดัง ก็อยู่ในรัศมีโครงการไม่กี่กิโลเมตร เช่น รพ.นครธน รพ.บางปะกอก 9 และ รพ.พระราม 2 เป็นต้น
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าโครงการ เนอวานา บียอนด์ พระราม 2 มีข้อได้เปรียบเป็นต่อในเรื่องของโลเคชันครบทุกด้าน แต่สิ่งที่จะชี้วัดความสมบูรณ์แบบสู่อีกขั้นของการเป็นที่อยู่อาศัยเหนือกาลเวลา คือภายในโครงการแห่งนี้ ซึ่ง Nirvana Beyond เป็นแบรนด์ระดับ Top จาก Nirvana Development ที่สร้างความมั่นใจได้ว่าจะได้รับคุณภาพชีวิตอย่างที่ดีสุด
ความพิเศษแรกเริ่มคือ การถ่ายทอดบรรยากาศความเงียบสงบร่มเย็น ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่คนละมิติกับโลเคชันข้างนอกได้อย่างไร้ที่ติ นั่นก็เพราะว่าโครงการถูกเนรมิตมาตั้งแต่ปี 2015 อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น ทำให้สัมผัสได้ถึงความร่มรื่นของต้นไม้ขนาดใหญ่ระหว่างสองข้างทางที่ปลูกยาวต่อเนื่องของถนนในหมู่บ้านเปรียบเสมือนอุโมงค์ต้นไม้ ช่วยเพิ่มความน่าอยู่อาศัยแบบทวีคูณ
นอกจากนี้ยังได้เรื่องความเป็นส่วนตัวโดย Nirvana BEYOND Rama 2 มีจำนวนทั้งหมด 120 ยูนิต ที่แบ่งพื้นที่การขายเป็นโซน บนขนาดที่ดินทั้งหมดประมาณ 40 ไร่ ทำให้แต่ละครอบครัวได้รับไพรเวซี่ที่มากขึ้น
มาพร้อมกับ คอนเซ็ปต์โครงการ Modern Oriental ที่เข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมแบบชาวตะวันออก ผ่านมุมมองต่างๆ ทั้งการออกแบบตกแต่งด้วยดีไซน์เรียบหรู และแฝงด้วยฟังก์ชันที่ครบครัน รวมถึงความเชื่ออย่างฮวงจุ้ยก็ถูกนำมาผสมผสานเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อตอบโจทย์ครอบครัวที่มีสมาชิกหลากหลายเจเนอเรชั่นได้อย่างลงตัว
โดยให้ความสำคัญตั้งแต่ซุ้มประตูทางเข้าโครงการ ที่นอกจากมีขนาดใหญ่มองเห็นตั้งแต่ไกลแล้ว ยังได้เรื่องของความปลอดภัยที่เป็นแบบ Double Gate โดยจุดแรกอยู่ตรง Main Gate เป็นประตูรั้วอัตโนมัติ ส่วนอีกจุดจะอยู่ด้านในโครงการซึ่งก็เป็นแบบประตูรั้วอัตโนมัติเช่นเดียวกัน รวมถึงมีการติดตั้งกล้อง CCTV และระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางมีขนาดกว้างขวางรวมกว่า 5 ไร่ นอกจากนี้ยังได้รับความสบายตาในการมองวิวทิวทัศน์รอบโครงการ เสาไฟฟ้าลงใต้ดินให้เรียบร้อย โดยมี Clubhouse 2 ชั้น ตั้งอยู่หน้าทางเข้าโครงการ ซึ่ง Facilities บริเวณนี้ได้แก่ Co-Working Space ห้องสำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหรือนั่งทำงาน
ถัดไปเป็น Fitness สามารถมองวิวภายนอกขณะออกกำลังกายได้ จัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องออกกำลังกายเอาไว้หลากหลายการใช้งาน
พื้นที่ Outdoor ก็วางเก้าอี้เอาไว้ให้พอสมควร สำหรับนั่งรับลมชมวิวยามเย็น และข้างๆ กันยังแบ่งอาณาเขตให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราได้วิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย
ส่วนชั้น 2 จะเป็น Infinity Edge Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือกึ่ง Outdoor โดยแบ่งแยกสระเด็กอย่างดีเพื่อความปลอดภัย
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้เพราะยังมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่บริเวณด้านใน ที่โดดเด่นด้วยความสดชื่นของสระน้ำกลางโครงการ เหมาะแก่การมานั่งเล่นเพลิดเพลินไปกับการชมวิว
ด้านหลังจะเป็น Playground สนามเด็กเล่น ให้เด็กๆ ได้สนุกสนานและเสริมสร้างทักษะในคราวเดียวกัน
และเพื่อให้สมกับเป็นโครงการระดับ Luxury แบรนด์ระดับบนจากเนอวานา Nirvana BEYOND พระราม 2 ยังได้ออกแบบสถาปัตยกรรมบ้านโดยใช้แนวคิด Mass & Void สร้างความต่อเนื่องให้กับพื้นที่และเพิ่มสเปซให้น่าอยู่ เพื่อให้บ้านทุกหลังมีทั้งพื้นที่ปิดและพื้นที่เปิด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่ขึ้นชื่อของบ้านเนอวานา นอกจากนี้ยังใส่ใจไปถึงการเลือกใช้วัสดุระดับเกรดพรีเมียม
แต่ที่สร้างความแตกต่างได้อย่างโดดเด่นเฉพาะตัว อยู่ตรงที่การมี แบบบ้านให้เลือกหลากหลาย ซึ่งมีมากถึง 10 ดีไซน์ด้วยกัน โดยแบบบ้านที่จะพาไปชมในครั้งนี้เป็นซีรีส์ใหม่ล่าสุด ดังนี้
1. WISDOM บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 319 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้สูงสุด 8 คัน |
2. SERENE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ |
► 1. WISDOM บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 127-138 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 319 ตร.ม.
4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน จอดรถได้สูงสุด 8 คัน
ความยูนีคของบ้าน Type นี้ เริ่มตั้งแต่สถาปัตยกรรมของตัวบ้าน ออกแบบในสไตล์ Modern Tropical แต่ยังอยู่ในคอนเซ็ปต์ Modern Oriental ที่มองจากภายนอกจะเห็นว่ามีความเรียบง่ายแต่ดูหรูหรา ผ่านเส้นสายและการตกแต่งของ Facade ที่ทำเป็นลวดลายอิฐสีน้ำตาลเป็นสีเอิร์ธโทนธรรมชาติในการประดับผนัง กลมกลืนไปกับช่องแสงขนาดใหญ่ที่เป็นกระจกเขียวตัดแสง และเข้ากันได้ดีกับประตูไม้ตรงทางเข้าหน้าบ้าน จากแบรนด์ Tostem พร้อมติดตั้ง Digital Door Lock
ประกอบกับหลังคาก็มีความเรียบง่าย ลดทอนวัสดุที่ฟุ่มเฟือยเพื่อง่ายต่อการดูแลรักษาในระยะยาว ส่วนพื้นโรงจอดรถก็แสตมป์คอนกรีตลายหินช่วยเพิ่มมิติให้แก่ตัวบ้าน ขณะเดียวกันก็ได้เรื่องของความแข็งแรงทนทานที่ดีกว่าคอนกรีตทั่วไป เข้ากันกับประตูรั้วบ้านสีดำ ที่ทางโครงการติดตั้งระบบประตูอัตโนมัติเปิด-ปิดมาให้อย่างดี ทั้งหมดนี้ทำให้ Mood&Tone มีความอบอุ่นผ่อนคลาย แต่ก็ยังดูแพงสมกับเป็นลักซ์ชัวรี่
สำหรับด้านในเองก็พัฒนาฟังก์ชันให้เยอะขึ้นและน่าสนใจมากกว่าเดิม โซนแรกเป็น Foyer ที่ทางซ้ายมือจะมีสเปซโล่งๆ ให้ทำเป็นตู้เก็บของตู้เก็บรองเท้าได้ โดยชั้นนี้จะได้ Floor to Ceiling สูง 2.8 เมตร
หลังจากเดินเข้ามาอีกนิดจะเจอกับ Common Area ขนาดใหญ่ ที่สามารถแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็นหลายโซน
ส่วนแรกคือ Living Area มีพื้นที่กว้างขวาง ทำให้วางโซฟาขนาด 3-4 ที่นั่ง ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งโซฟาตัวไอ ตัวแอล หรือตัวยูก็รองรับได้สบายๆ
แต่ไฮไลต์อยู่ที่ความสูงของเพดานแบบ Double Voume ประมาณ 6.30 เมตร ประกอบกับช่องแสงหน้าต่างทั้งด้านหลังบ้าน รวมถึงประตูด้านข้างบ้าน และช่องแสงด้านบนที่สูงจรดเพดาน ทำให้ดูโปร่งโล่งสบายเหมาะแก่การเป็นมุมนั่งพักผ่อนของครอบครัว
ซึ่งประตูด้านข้างนี้จะออกไปสู่สวนด้านข้างบ้าน ที่สามารถทำเป็นสวนสีเขียว Outdoor แบบเป็นส่วนตัวของครอบครัว แต่ขนาดของพื้นที่จะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแปลนบ้าน
กลับเข้ามาด้านในเพื่อเจอโซนถัดไปกับ Dining Area วางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง ก็ยังเหลือพื้นที่มากพอให้บิวท์เป็นครัวฝรั่ง สำหรับไว้ทำอาหารเช้า หรือเมนูง่ายๆ และเนื่องจากสเปซตรงนี้มีความยืดหยุ่นพอสมควร จึงสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างอิสระ
ด้านหลังบ้านมีประตูเชื่อมต่อออกสู่ภายนอก อีกหนึ่งพื้นที่ไว้นั่งเล่นรับลม ซึ่งเหมาะอย่างมากสำหรับสังสรรค์ปาร์ตี้กินข้าวนอกบ้าน
นอกจากนี้ตรงบริเวณพื้นที่เปิดโล่งภายในบ้าน ยังมีห้องนอนอยู่ด้วยซึ่งจัดวางไว้ตรงส่วนของหน้าบ้าน โดยทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุ ให้ความสำคัญตั้งแต่ประตูทางเข้าที่มีขนาดใหญ่กว่าไซส์มาตรฐาน รวมถึงพื้นไม้ SPC และมีสเปซใหญ่พอสมควรให้วางเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนได้แบบครบครัน
ด้านในของห้องเป็นมุมแต่งตัวที่เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ ซึ่งก็ยังคำนึงถึงการใช้งานของผู้สูงอายุ ทั้งประตูแบบบานเลื่อน พื้นเรียบเสมอกันไม่มีต่างระดับ และมีที่นั่งสำหรับอาบน้ำเพื่อเอื้อต่อการใช้งานให้สะดวกมากที่สุด
เดินไปอีกฟากหนึ่งของบ้านจะพบกับห้องครัวแบบปิด สามารถบิวท์เคาน์เตอร์ครัวตัวไอขนาดใหญ่ได้ถึง 2 ฝั่ง ตอบโจทย์คนรักการทำอาหารแน่นอน
ติดกันเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room ไว้สำหรับทำธุระส่วนตัวโดยเฉพาะ
แต่ก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 ขอแวะพาดูห้องเก็บของใต้บันไดที่มีขนาดกว้างและสูง ทำให้เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้เยอะทีเดียว
ระหว่างขึ้นบันไดตรงนี้สัมผัสได้ถึงความโปร่งไม่รู้สึกคับแคบ เพราะนอกจากได้ช่องแสงแล้ว ในส่วนของราวจับกันตกนั้นก็เป็นแบบกระจกใส แต่ไม่ต้องกังวลเพราะมีความแข็งแรงปลอดภัยได้มาตรฐาน
ขึ้นมาชั้นบนพื้นจะเปลี่ยนเป็น Engineered Wood แต่ได้ความสูงของเพดานเท่ากับชั้นล่าง โดยจะเจอกับโถงบันไดที่เป็นเหมือน Sharing Space มาพร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถทำเป็นโซนนั่งทำงานของผู้ใหญ่ หรือโซนนั่งทำการบ้านของเด็กๆ หรือจะปรับเปลี่ยนเป็นโซนอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ทำได้อย่างง่ายดาย
ต่อมาคือส่วนของห้องพักอาศัย ซึ่งจะพาไปชม Master Bedroom ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งความน่าสนใจไม่ใช่แค่ได้ห้องขนาดใหญ่กว้างขวางเพียงอย่างเดียว แต่ยังโดดเด่นด้วยช่องแสงที่ผนังฝั่งหนึ่ง ถูกแทนที่ด้วยหน้าต่างบานเลื่อนและกระจกบานฟิกซ์เต็มผนัง
ถัดมาเป็น Walk-in Closet ให้สเปซมาเยอะเลยทีเดียว บิวท์อินตู้เสื้อผ้าได้ทั้ง 2 ฝั่ง พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง รับประกันว่าสายแฟชั่นจะต้องถูกใจห้องนี้
ติดกันเป็นห้องน้ำซึ่งก็ให้พื้นที่มาแบบเหลือเฟือ ได้อ่างล้างหน้า His&Her กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ โซนอาบน้ำก็ให้มาครบทั้ง Hand Shower และ Rain Shower รวมถึงติดตั้งกระจกกั้นมาให้เรียบร้อย ที่สำคัญคือได้อ่างอาบน้ำจากุซซี่อีกด้วย
โดยอีก 2 ห้องนอนที่เหลือทางโครงการก็ออกแบบให้มีขนาดใหญ่เท่าๆ กัน สำหรับห้องนอนที่ 2 จะอยู่ฝั่งติดกับบันได สามารถวางเตียง 5 ฟุต ก็ยังเหลือสเปซสำหรับวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ อย่างโต๊ะเรียน ชั้นวางทีวี หรือจะบิวท์เป็นตู้เก็บของ ชั้นวางหนังสือก็ได้เช่นเดียวกัน
มีโซนแต่งตัวที่ออกแบบอย่างเป็นสัดเป็นส่วน และได้ห้องน้ำในตัวที่จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบครัน
ห้องนอนสุดท้ายของบ้านก็กว้างขวางไม่แพ้กัน วางเฟอร์นิเจอร์สำหรับเป็นห้องนอนได้แบบครบเซต หรือถ้าบ้านไหนมีลูกคนเดียว จะปรับเป็นห้องทำงานส่วนตัวหรือห้องเล่นเกม แม้แต่ห้องของสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ทำออกมาได้อย่างสวยงามลงตัว
แน่นอนว่ามีห้องน้ำในตัวให้เหมือนกับทุกๆ ห้อง ซึ่งก็ได้ทุกอย่างครบตามที่เห็นในภาพเลย
► 2. SERENE บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ขนาดที่ดิน 62.6 ตร.วา ขนาดพื้นที่ใช้สอย 235 ตร.ม.
4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน 3 ที่จอดรถ
สถาปัตยกรรมของบ้าน SERENE ยังคงคอนเซ็ปต์ความเป็น Modern Oriental ซึ่งการออกแบบและวัสดุของหลังคา ผนังลายอิฐ กระจกเขียวตัดแสง ประตูไม้ทางเข้าหลัก พื้นโรงจอดรถ รวมถึงประตูรั้วเปิด-ปิด อัตโนมัติ จะได้เหมือนกับแบบบ้าน WISDOM
แต่ความแตกต่างอยู่ตรงการดีไซน์ Facade ที่จะโชว์ช่องแสงในแนวดิ่งจากพื้นจรดเพดาน และเพิ่มกิมมิคด้วยการเลือกใช้ระแนงเหล็ก ซึ่งนอกจากได้ความสวยงามแล้ว ยังช่วยพรางสายตาจากคนภายนอกได้เป็นอย่างดีทีเดียว และทำให้บ้านดูมีมิติมากยิ่งขึ้น
เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอ Foyer โถงทางเดินโล่งๆ มีห้องเก็บของอยู่ทางขวามือ และทำหน้าที่แจกจ่ายไปยังห้องอื่นๆ ภายในบ้าน
โดยซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ Open Plan ขนาดใหญ่เชื่อมต่อระหว่างห้องกินข้าวและห้องนั่งเล่น
ซึ่งจะพบกับห้องกินข้าวก่อนเป็นอันดับแรก ที่สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่ง และบิวท์เคาน์เตอร์ครัวฝรั่ง เหมือนบ้านตัวอย่างก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ หรือบ้านไหนอยากจะให้ความสำคัญกับโต๊ะกินข้าว เลือกขยายเป็น 8 ที่นั่งก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
และจากภาพจะเห็นว่าเหลือสเปซโล่งๆ อยู่ฝั่งหนึ่ง ก็สามารถบิวท์เป็นตู้เก็บของเพิ่มเติมได้อีกหนึ่งจุด
โดยตรงนี้จะมีช่องแสงเป็นประตูที่เชื่อมต่อไปยังด้านข้างบ้าน ซึ่งมีพื้นที่ให้ทำเป็นมุมนั่งเล่น Outdoor หรือทำเป็นพื้นที่วิ่งเล่นของสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ได้เช่นเดียวกัน
กลับเข้ามาเพื่อพบความพิเศษที่เป็นจุดเด่นของบ้านอย่างห้องนั่งเล่น ที่ได้เป็นแบบ Double Volume ประมาณ 6.30 เมตร รวมถึงได้ช่องแสงด้านหน้าบ้านที่สูงตั้งแต่ชั้นล่างไปจนถึงชั้นบน ประกอบกับช่องแสงหน้าต่างด้านข้างบ้าน ทำให้บริเวณนี้ดูโอ่โถงโปร่งโล่งแบบดับเบิ้ล
ขนาดพื้นที่ใช้สอยเองก็กว้างขวางไม่แพ้กัน เลือกวางโซฟาไซส์ใหญ่ บิวท์ชั้นวางทีวีเต็มผนัง บวกโต๊ะกลางอีกซะตัว ก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินผ่านไปมาได้สะดวกสบาย
ส่วนห้องน้ำจะเป็นแบบ Powder Room เหมือนกับแบบบ้านก่อนหน้านี้ที่ได้พาไปชม
เดินไปอีกฟากหนึ่งที่อยู่ด้านหลังของบ้านจะแบ่งออกเป็นห้องนอนชั้นล่าง มีขนาดใหญ่ที่วางโต๊ะ ตู้ และเตียง 5 ฟุต รองรับผู้สูงอายุหรือทำเป็นห้องนอนแขกได้สบายๆ
มีห้องน้ำให้ในตัว และทำการลดสเต็ปโซนอาบน้ำ เพื่อแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน
ตรงข้ามเป็นห้องครัวแบบปิดกั้นด้วยประตูบานเลื่อน แต่ที่ชอบคือพื้นที่มีความยืดหยุ่นในการออกแบบ อย่างบ้านตัวอย่างบิวท์เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล และยังมีสเปซให้วางไอส์แลนด์ได้อีกด้วย
ที่สำคัญคือมีมุมสำหรับทำ Laundry วางเครื่องซักผ้า ทำให้ดูเป็นสัดเป็นส่วนน่าใช้งาน
ขึ้นไปชมกันต่อกับชั้น 2 มีโซน Sharing Space ที่ทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องสันทนาการของครอบครัว หรือจะต่อเติมเป็นพื้นที่รวมของห้องนอนที่ 3 แบบบ้านตัวอย่างก็ได้เหมือนกัน ซึ่งบ้านจริงผนังที่เชื่อมต่อส่วนของ Double Volume ชั้นล่าง จะได้เป็นกระจกครึ่งหนึ่งและเปิดโล่งแทน
โดยจะขอพาชม Master Bedroom กันก่อน ซึ่งเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่สุดของบ้าน ทำให้แบ่งการใช้งานได้ทั้งมุมพักผ่อน ที่วางเตียง 6 ฟุตได้ ส่วนอีกโซนเป็นมุมนั่งทำงาน และยังมีมุมนั่งเล่นให้วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
โดดเด่นด้วย Walk-in Closet ให้พื้นที่มากว้างขวางที่สามารถบิวท์ได้ทั้งตู้เสื้อผ้าเต็มผนัง โต๊ะเครื่องแป้ง และไอส์แลนด์ตรงกลาง
ติดกันเป็นห้องน้ำ สุขภัณฑ์เกินกว่าครบครัน เพราะนอกจากได้อ่างล้างหน้า กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ และ Hand Shower ยังได้เพิ่มในส่วนของ Rain Shower รวมถึงติดตั้งกระจกฉากกั้นมาให้สวยงาม
ห้องนอนที่ 2 อยู่ฝั่งตรงข้าม Master Bedroom สามารถวางเตียง 3.5-5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ก็ยังเหลือพื้นที่หลวมๆ ให้ห้องยังดูโปร่งไม่รู้สึกคับแคบ
พร้อมห้องน้ำในตัวโดยไม่ต้องใช้ร่วมกับใคร ซึ่งทั้งขนาดและสุขภัณฑ์ที่จัดเตรียมไว้ให้ สามารถใช้งานได้จริง
กลับไปห้องนอนที่ 3 ที่อยู่ติดกับ Sharing Space บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งได้พื้นที่ใช้สอยมาขนาดเท่าๆ กับห้องที่แล้ว ทำให้วางเฟอร์นิเจอร์ได้แบบ Full Option
ห้องน้ำแบบเป็นส่วนตัวได้ทุกอย่างครบ แยกส่วนเปียกส่วนแห้งให้เสร็จสรรพ
ทิ้งท้ายกับเรื่องสุดท้ายที่จะเรียกว่าเป็นหนึ่งในซิกเนเจอร์ของโครงการ Nirvana BEYOND พระราม 2 ก็คงได้ คือการออกแบบดีไซน์ส่วนต่างๆ ของบ้านให้สอดคล้องถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ย ยกตัวอย่าง เรื่องทิศที่ตั้งของตัวบ้านซึ่งมีทั้งทิศเหนือและทิศใต้ ช่วยในเรื่องบารมีและเสริมโชคลาภเงินทอง
หรือประตูหน้าบ้านที่เป็นบานคู่และมีขนาดสูงใหญ่ ช่วยให้ความเจริญรุ่งเรือง รวมถึงภายในบ้านเองอย่างการออกแบบบันไดให้วนขวา ก็ช่วยด้านทรัพย์สินเงินทองเช่นเดียวกัน อีกทั้งที่ห้องน้ำจะอยู่ต่ำกว่าพื้นที่ภายในบ้านส่วนอื่นๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องดีในด้านการประสบความสำเร็จในชีวิต
ทั้งในเรื่องของทำเลที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และศักยภาพเต็มเปี่ยม ติดถนนใหญ่ใจกลางเมืองพระราม 2 และฉีกกฎแพทเทิร์นเดิมๆ ของภายในโครงการ ที่แม้ไม่ใช่โครงการใหม่แต่เล่นใหญ่ในด้านทัศนียภาพที่งดงาม อีกทั้งยังมีการออกแบบบ้านและฟังก์ชันที่ตอบสนองทุกความต้องการมาโดยตลอด ที่พร้อมมอบประสบการณ์เหนือชั้นสู่ BEYOND ของการอยู่อาศัย ในราคาเริ่มต้น 17.59-37 ล้านบาท* (ราคา ณ พ.ค. 67)
ให้ทุกรายละเอียดเกินร้อยมากไปด้วยความใส่ใจและพิถีพิถัน กับโครงการ เนอวานา บียอนด์ พระราม 2 สนใจคลิกลงทะเบียนที่นี่ >>> https://www.nirvanadevelopment.co.th/th/project/beyond-rama-2
แผนที่โครงการ : https://maps.app.goo.gl/sTLpxLur5fUJEigS7?g_st=il
สอบถามโทร Call Center 1787
Line Official : https://lin.ee/x43dSKg
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
yesterday
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
Livinginsider - Weekly Insight Report [06-12 Oct 2024]
2024-10-15
ขอบคุณผู้เขียนค่ะ เป็นประโยชน์มาก
ข้อมูลละเอียดดีครับ ขอบคุนสำหรับ ข้อมูลนะครับ
เยี่ยมเลยค่ะ
อ่านสนุกจังค่ะ
เขียนบทความน่าอ่านมากเลย