รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 อัปเดตล่าสุด ธนาคารคิดดอกเบี้ยเท่าไหร่

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านในแต่ละปีมีการอัปเดตเป็นประจำ ทำให้คนกู้ซื้อบ้านต้องหมั่นติดตามอย่างเสมอว่าดอกเบี้ยบ้านเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหนแล้ว ซึ่งสำหรับสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 2567อัตราดอกเบี้ยก็ไม่เหมือนปีก่อนๆ ดังนั้นเราจึงนำสินเชื่อ รีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตล่าสุด จากธนาคารชื่อดังมาฝากทุกคนกัน รู้แล้วได้คำตอบว่าดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 อยู่ที่เท่าไหร่?

รู้จักกับรีไฟแนนซ์บ้านทางเลือกของคนฝันอยากมีบ้าน

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การขอปรับโครงสร้างหนี้บ้านกับสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่ให้เงื่อนไขดอกเบี้ยดีกว่าสถาบันการเงินแห่งเดิม จึงอาจกล่าวได้ว่าสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตนเอง เพราะช่วยลดดอกเบี้ย จนสามารถปิดหนี้บ้านในระยะเวลาอันรวดเร็วเมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ ทั้งนี้จะขอรีไฟแนนซ์ได้ก็ต่อเมื่อผ่อนชำระสินเชื่อบ้านกับธนาคารแห่งเดิมมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี

อย่างไรก็ตามรีไฟแนนซ์ 2567 เป็นการขอสินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ ซึ่งแตกต่างกับการรีเทนชั่นที่เป็นการปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารแห่งเดิม ทำให้ต้องเตรียมเอกสารแสดงรายได้ รวมถึงเอกสารยืนยันตัวตนใหม่ และการรีไฟแนนซ์ 2567 ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการจดจำนอง รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกด้วย ดังนั้นก่อนจะขอรีไฟแนนซ์ ก็ควรพิจารณาให้ดีว่าคุ้มค่าจริงหรือไม่ เมื่อเทียบกับการจ่ายค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ได้จ่ายไป ระหว่างขอสินเชื่อ

นอกจากนี้สินเชื่อรีไฟแนนซ์ยังมีอีกประเภทที่เรียกว่า สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเพิ่มวงเงิน หรือ กู้เพิ่ม ซึ่งเป็นการนำบ้านที่อยู่ในระหว่างการผ่อนชำระเข้าธนาคาร เพื่อกู้เงินก้อนออกมาจำนวนหนึ่ง โดยข้อดีสินเชื่อรีไฟแนนซ์กู้เพิ่ม คือ ธนาคารจะอนุมัติวงเงินกู้เทียบเท่าหลักประกัน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำ ทำให้คุณสามารถนำเงินก้อนที่ได้รับไปปิดหนี้อื่น ๆ ได้นั่นเอง

รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 กับธนาคารไหนดี ดอกเบี้ยถูก?

อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ของแต่ละธนาคารได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นประจำตามสภาวะเศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้ต้องติดตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งสามารถเช็กข้อมูลสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านอัปเดตล่าสุด2567 ของทุกธนาคาร ได้จากตัวอย่างดังตารางต่อไปนี้

ธนาคารออมสิน - สินเชื่อเคหะรีไฟแนนซ์ และกู้เพิ่มเติม กรณีกู้เพื่อไถ่ถอนจำนองสัญญากู้เพื่อที่อยู่อาศัย ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 40 ปี เมื่อรวมกับอายุผู้กู้เข้าด้วยกันแล้วต้องไม่เกิน 70 ปี ในกรณีที่ผู้กู้ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินเชื่อ อัตราดอกเบี้ย 1-3 ปีแรก MRR - 1.800% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี 4.795% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 110% ของราคาประเมินหลักทรัพย์ ทั้งนี้ผู้กู้ต้องมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ไม่มีหนี้ค้างชำระในปัจจุบัน รวมทั้งมีอาชีพรายได้ที่มั่นคง

ธนาคารกสิกร - สินเชื่อรีไฟแนนซ์ กรณีวงเงินกู้ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป หากทำประกันชีวิตตามเงื่อนไขคิดอัตราดอกเบี้ย 2.24% ต่อปีในปีแรก ปีที่ 2 และปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว MRR-2.49% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR-1.75% ต่อปี รวมแล้วอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปี อยู่ที่ 3.87% ต่อปี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 30 ปี เมื่อรวมกับอายุของผู้กู้ด้วยแล้วไม่เกิน 70 ปี โดยผู้กู้ที่มีรายได้ต่อเดือนตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปจะได้รับวงเงินกู้สูงสุด ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินของหลักทรัพย์

ธนาคารกรุงไทย - สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ แบบวงเงินกู้น้อยกว่า 2 ล้านบาท ในกรณีที่ทำประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ MRTA คิดอัตราดอกเบี้ย 1.99 % ต่อปี ในปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2-3 อยู่ที่ 4.39% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MLR - 1.00% ต่อปี รวมเฉลี่ยแล้วอัตราดอกเบี้ย 3 ปีอยู่ที่ 3.59 % ต่อปี ระยะเวลาการผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี 

ธนาคารอาคารสงเคราะห์ - สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน Happy Life ปี 2567 สำหรับข้าราชการตุลาการ อัยการ หรือข้าราชการกลุ่มอื่นที่มีอายุเกษียณ 60 ปีขึ้นไป สามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 40 ปี และเมื่อรวมอายุของผู้กู้เข้ากับระยะเวลาที่ผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกินกว่า 75 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยบ้าน Happy Life ในปีที่ 1 อยู่ที่ 1.95% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 2 และ 3 เป็นแบบคงที่ 3.5% ต่อปี ส่วนอัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 เป็นต้นไปสำหรับลูกค้ากลุ่มสวัสดิการ ดอกเบี้ยอยู่ที่ MRR-1% ต่อปี และเสนอวงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาท

ขั้นตอนรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ทำได้อย่างไร

รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ต้องเตรียมอะไรบ้าง? บางคนไม่เคยทำเรื่องรีไฟแนนซ์มาก่อน ก็อาจจะสงสัยเป็นเรื่องธรรมดา แต่บอกเลยว่าขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ซึ่งจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

• สำรวจอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร

ก่อนจะคิดว่าควรรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ดีไหม? ให้สำรวจเสียก่อนว่าในขณะนั้นอัตราดอกเบี้ยบ้านของแต่ละธนาคารอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะอัตราดอกเบี้ยบ้าน ได้แก่ MRR, MLR และ MOR อ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้อยู่ตลอดเวลา หากอัตราดอกเบี้ยสูงเกินไป ก็อาจจะรอให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงมาก่อน แล้วค่อยทำเรื่องรีไฟแนนซ์ในภายหลัง

• การเตรียมเอกสาร

หลังจากสำรวจดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน 2567เป็นที่เรียบร้อย จนได้ธนาคารที่พึงพอใจแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้คุณเตรียมเอกสารยืนยันตัวตน, เอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้ เอกสารแสดงสิทธิ์หลักประกัน และเอกสารสัญญารีไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งเดิม ได้แก่

เอกสารยืนยันตัวตน

1.สำเนาบัตรประชาชน

2.สำเนาทะเบียนบ้าน

3.สำเนาทะเบียนสมรส (ในกรณีที่จดทะเบียนสมรส)

4.สำเนาเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล (หากเคยมีประวัติเปลี่ยนชื่อ - นามสกุล) ส่วนในกรณีที่กู้ร่วมซื้อบ้าน ให้เตรียมสำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ของผู้กู้ร่วมมาด้วย

เอกสารแสดงแหล่งที่มาของรายได้

กลุ่มผู้มีรายได้ประจำ

1.รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

2.หนังสือรับรองการทำงาน

3.สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน

4.หนังสือรับรองการหักภาษี 50 ทวิ (ถ้ามี)

กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจส่วนตัว

1.รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน

2.สำเนาใบทะเบียนการค้า หรือหนังสือจดทะเบียนบริษัท

3.สำเนาบัญชีผู้ถือหุ้นของบริษัท

4.หลักฐานการจ่ายภาษี เช่น สำเนา ภ.พ 30

• เอกสารแสดงสิทธิ์ของหลักประกัน

1.สำเนาหนังสือสัญญาจำนอง

2.สำเนาหนังสือสัญญาขายที่ดิน ทด.13 ส่วนในกรณีที่เป็นคอนโดให้ใช้สัญญาซื้อขายห้องชุดแทน

• เอกสารสัญญากู้ซื้อบ้าน หรือสัญญารีไฟแนนซ์ของธนาคารเดิม

1.สำเนาหนังสือสัญญาจำนองหลักทรัพย์

2.สำเนาเงินกู้ของธนาคารเดิม

3.สำเนาการเคลื่อนไหวบัญชีชำระเงินกู้จากธนาคาร

• จ่ายค่ารีไฟแนนซ์

รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายเสมอ เนื่องจากเป็นการขอกู้สินเชื่อกับธนาคารแห่งใหม่ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้

1.ค่าจดจำนองกับกรมที่ดินประมาณ 1 % 

2.ค่าประกันอัคคีภัย ซึ่งต้องทำทุก 1 - 3 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด

3.ค่าเบี้ยประกันชีวิตคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ หรือที่เรียกกันว่า MRTA

4.ค่าประเมินราคาหลักทรัพย์ (แล้วแต่ธนาคารกำหนด)

5.ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท

6.ค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ทางธนาคารเรียกเก็บ

แนะนำโครงการบ้านน่าสนใจจาก SC Asset ที่ให้คุณรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ได้

ก่อนจะรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ได้ อันดับแรกต้องมีบ้านในฝันของตนเองเสียก่อน หากยังไม่มีไอเดียว่าควรเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกกับทางโครงการไหนดี ไม่ควรพลาดกับ 4 โครงการทำเลทองจากทาง SC Asset เพราะที่นี่มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร ในราคาจับต้องได้ และพร้อมตอบคำถามแก่ลูกบ้านว่าควรรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ธนาคารไหนดี?

1. เวนิว ไอดี รามอินทรา-มีนบุรี (Venue ID Ramintra-Minburi)

โครงการที่ให้ผู้อยู่อาศัยสัมผัสกับบรรยากาศในสไตล์รีสอร์ตของชาวญี่ปุ่น ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพที่เดินทางสะดวกสบาย ใกล้กับรถไฟฟ้า 2 สาย มาพร้อมกับสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ ฟิตเนส กล้องวงจรปิด Co-working Space และนวัตกรรม Living Solutions ที่รู้ใจผู้อยู่อาศัยมากกว่าเดิม ทั้งหมดนี้ให้คุณเป็นเจ้าของได้ในราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท

2. วี คอมพาวด์ บางนา-ศรีนครินทร์ (V Compound Bangna-Srinakarin)

ทาวน์โฮมที่ให้คุณสัมผัสกับความร่มรื่นของธรรมชาติ พักผ่อนหย่อนใจหลังเลิกงานไปกับ Clubhouse ที่รองรับทุกไลฟ์สไตล์ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ส่วนสวนกลางขนาดใหญ่ และฟิตเนส มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยชั้นยอดด้วยกล้อง CCTV เข้าออก ตลอด 24 ชั่วโมง และให้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบายตลอดการอยู่อาศัยด้วยเทคโนโลยี Smart Home ทั้งหลัง ในราคาเริ่มต้น 3 ล้านบาท

3. เพฟ บางนา (PAVE Bangna)

บ้านเดี่ยวขนาด 3 - 5 ห้องนอนในสไตล์โมเดิร์นที่ให้คุณสัมผัสกับมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ด้วยสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ สระว่ายน้ำ Co-working Space Kid’s Room และพร้อมปกป้องคุณตลอด 24 ชั่วโมงด้วยสัญญาณกันขโมยทั้งบ้านด้วยระบบ Magnatic ในราคาเริ่มต้น 4.69 ล้านบาท

4. เวนิว ไอดี เวสต์เกต (Venue ID Westgate)

บ้านที่เป็นมากกว่าที่อยู่อาศัย เพราะที่นี่ให้คุณเติมเต็มทุกความฝันที่ต้องการ และออกแบบพื้นที่ส่วนตัวของตนเองได้ในแบบฉบับของคุณ ตั้งอยู่บนพื้นที่ศักยภาพบนทำเลบางใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง และเซ็นทรัลเวสต์เกต มาพร้อมกับนวัตกรรม Living Solution อย่างครบครัน ให้การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่เป็นเรื่องง่าย ในราคาเริ่มต้น 5.99 ล้านบาท

รีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของบ้านในฝันได้ง่ายกว่าเดิม

ครบถ้วนกันไปแล้วสำหรับข้อมูลต่างๆ ที่ได้นำเสนอมาหวังว่าทุกคนคงจะรู้แล้วว่ารีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ต้องทำยังไง และจะเห็นได้ว่าสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน 2567 ของแต่ละธนาคารเสนออัตราดอกเบี้ย และวงเงินกู้แตกต่างกันออกไป ทำให้ก่อนขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ควรตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารให้ดี เพื่อได้เงื่อนไขดอกเบี้ยที่ดีที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.scasset.com/th/