
Home
คุณคิดว่าจริงไหม ที่ว่าสุดท้ายแล้วต่อให้เราตระเวนไปดูหลากหลายทำเลที่คิดว่าใช่ เพื่อซื้อบ้านสักหลังหรือคอนโดสักห้อง แต่สุดท้ายแล้วเรามักจะวนกลับมายังจุดเดิม จุดโลเคชันถิ่นกำเนิดหรืออยู่อาศัยมานานหลายปี ซึ่งจากประสบการณ์โดยตรง จากคนรอบข้าง รวมถึงที่เคยเห็นผ่านตาตามโซเชียล บอกได้เลยว่าเกินครึ่งคือเรื่องจริง
นั่นก็เพราะเรารู้สึกคุ้นเคยทำเลนั้นแบบทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดีแล้ว คือเปรียบเหมือน Safe Zone ที่ช่วยให้ชีวิตของเราไม่ต้องวุ่นวาย ไม่ต้องเสียเวลาเริ่มต้นใหม่ เป็นย่านที่อยู่แล้วให้ความอุ่นใจสบายใจและรู้สึกปลอดภัย ขณะเดียวกันหากเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนที่กำลังสร้างครอบครัวของตัวเอง ซึ่งหลายคนก็มองว่าการอยู่บนทำเลเดิมก็ถือเป็นเรื่องดี เนื่องจากจะได้อยู่ใกล้พ่อแม่เพื่อสะดวกในการไปมาเยี่ยมเยียนกัน
อย่างไรก็ดี ต้องบอกว่าไม่ใช่ทุกทำเลที่จะมีที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอด บางย่านคือนานน๊านนนจะมีมาให้เห็นสักโครงการหนึ่งอย่างทำเล ‘อิสรภาพ’ ที่มีโครงการบ้านหรือคอนโดแบบนับนิ้วได้ ซึ่งแน่นอนว่าก็ล้วน Sold Out กันไปหมดแล้ว
เหตุผลหลักๆ คือ พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยสถานที่ประวัติศาสตร์ บวกกับเป็นชุมชนเก่าดั้งเดิม จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีที่ดินในการสร้าง New Project สำหรับที่อยู่อาศัย
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถของ AP Thailand ซึ่งก็ไปสืบเสาะหาที่ดินจนได้ปักหมุดสร้างโครงการใหม่ล่าสุด บนทำเลสุดแรร์หนึ่งเดียวในย่านวังเดิม ‘Aspire อิสรภาพ สเตชั่น’ Only One Condo พิเศษห้องหน้ากว้าง 7.5 ม. ให้ฟีลเหมือนอยู่ Boutique Hotel เปิดรับไฮไลต์วิวพระปรางค์ วัดอรุณฯ และที่สำคัญคือใกล้ MRT อิสรภาพ เพียง 350 ม. ในราคาเริ่มต้น 2.99 ลบ.*
► Freedom Just in Reach อิสรภาพในเอื้อมมือ
ขอขยายภาพโลเคชัน อิสรภาพ ให้เห็นเป็นวงกว้างมากขึ้นอีกนิด โดยจะอยู่โซนฝั่งธนเขตบางกอกใหญ่ ซึ่งเป็นชื่อที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี ว่านี่คืออาณาเขตสถานที่สำคัญของไทย ที่รวบรวมแหล่งวัฒนธรรมและงานศิลป์เข้าไว้ด้วยกันเอาไว้มากมาย ทั้งวัดเก่าแก่ โบราณสถาน และพระราชวังที่เป็น Landmark หมุดหมายให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติต้องมาเยือนซะครั้งหนึ่ง
ตรงนี้แหละที่กลายเป็นจุดขายที่มีความวินเทจแบบยูนีคและน่าสนใจของทำเลโครงการ ‘แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น (Aspire Itsaraphap Station)’ โดยเลือกที่ตั้งอยู่ บนถนนวังเดิม ที่มีความพลุกพล่านไม่มากนัก ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมระหว่างถนนหลักอิสรภาพ และถนนหลักอรุณอมรินทร์
ซึ่งฝั่งอิสรภาพนั้นจะเชื่อมไปยังโซนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น โซนจรัญสนิทวงศ์ออกท่าพระผ่านเพชรเกษม หรือถ้าจะมุ่งหน้าเข้าเมืองสีลม-สาทร ก็สามารถใช้ถนนอิสรภาพและวิ่งผ่านวงเวียนใหญ่ เข้าสู่ถนนกรุงธนบุรีและข้ามสะพานตากสินก็ถึงย่าน CBD แล้ว
ส่วนฝั่งอรุณอมรินทร์ ก็วิ่งไปได้ทั้งฝั่งพระนครโซนราชดำเนิน ถนนเจริญกรุง เยาวราช โดยเลือกวิ่งได้ทั้งถนนประชาธิปก หรือเข้าซอยอรุณอมรินทร์ 4 ผ่านสะพานพระพุทธยอดฟ้า ส่วนอีกฟากหนึ่งจะไปทางโซนศิริราช ปิ่นเกล้า สามารถใช้ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า เชื่อมถนนบรมราชชนนียาวไปถึงราชพฤกษ์ได้ หรือจะใช้ถนนจรัญสนิทวงศ์ออกไปโซนเตาปูน-บางซื่อก็ได้เช่นเดียวกัน
หรือหากใครต้องการใช้ทางด่วนเพื่อความรวดเร็ว ที่ใกล้โครงการก็จะมีทั้งทางพิเศษศรีรัช วิ่งไปทางบางนา สมุทรปราการได้ และทางพิเศษประจิมรัถยา วิ่งไปได้ทั้งถนนพระราม 6 และนนทบุรีได้อีกด้วย
แต่ถ้าอยากสะดวกสบายเดินทางง่ายๆ ถึงที่หมายแบบชิลๆ ขนส่งสาธารณะช่วยเราได้ เพราะการมาของรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง-หลักสอง) โดยสถานีที่ใกล้โครงการมากที่สุดคือ สถานีอิสรภาพ เพียง 350 เมตร* อยู่ในระยะเดินไหวสบายๆ และก็ไม่ได้รู้สึกเปลี่ยว เพราะทั้งรถสัญจรและมีคนเดินผ่านไปมาให้เห็นอยู่ตลอด ซึ่งสามารถนั่งเข้าเมืองสามย่าน-สีลม-สาทร เพียง 5-6 สถานี
หรือจะไปอโศก พระราม 9 ก็นั่งไปได้แบบไม่ต้องเปลี่ยนสายเลย นอกจากนี้เพียงสถานีเดียวก็ถึงสถานีท่าพระ ซึ่ง Interchange กับสายบางซื่อ-ท่าพระ และอีกสามสถานีจะถึงสถานีบางหว้า ที่คอนเน็กไปยังรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (สีลม) ได้อีกต่างหาก
ส่วนอีกหนึ่งการเดินทางที่รวดเร็วไม่แพ้กันคือโดยสารทางเรือ ซึ่งโครงการอยู่ไม่ไกลจาก ท่าเรือข้ามฟากวัดอรุณฯ ประมาณ 750 เมตร* ซึ่งพอข้ามไปแล้วจะเป็นท่าเตียน ที่จะมีเรือด่วนเจ้าพระยาคอยให้บริการอยู่หลายสาย
ซึ่งใครที่เรียนอยู่มหาลัยธรรมศาสตร์ หรือมหาลัยศิลปากร สามารถนั่งเรือต่อไปลงท่าช้าง หรือไปท่าวังหลังและนั่งข้ามฟากอีกทีเพื่อไปลงท่าพระจันทร์ หรือถ้าใครอยากจะเดินเที่ยววังหลังก็ลงท่านี้ได้เหมือนกัน แต่ถ้าอยากเลยไปไอคอนสยาม แนะนำให้ลงท่าสี่พระยา หรือจะไปเอเชียทีค ก็ลงท่าสาทร (สะพานตากสิน)
นอกจากนี้ยังมีวินมอเตอร์ไซค์ รถกระป้อ รถเมล์ แท็กซี่ และสามารถเรียกรถผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีระบบขนส่งครอบคลุมทุกการเดินทางอย่างแท้จริง
สำหรับแหล่งไลฟ์สไตล์และสิ่งอำนวยความสะดวกให้เราได้ ช้อป กิน เล่น เที่ยว ซึ่งหากใครมาจาก MRT ระหว่างเดินทางไป ‘แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น’ จะพบทั้งร้านสะดวกซื้อ ตลาด ร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ ของคาวของหวานครบครัน ซึ่งจะบอกว่าระหว่างเดินก่อนถึงโครงการเห็นร้านโปรด เอบิสึ ราเมน ที่อร่อยและราคาถูก รวมถึงมี Starbucks ตั้งอยู่บนพื้นที่เดียวกัน
ส่วนซูเปอร์มาร์เก็ตก็อยู่ไม่ไกลมีทั้ง Tops Market พรานนก และ Big C อิสรภาพ แวะซื้อของใช้ของสดก่อนเข้าห้องได้สะดวกสบาย
นอกจากนี้ก็มีคอมมูนิตี้มอลล์ The Old Siam Plaza ซึ่งรวบรวมร้านค้าร้านอาหารเอาไว้มากมาย
แต่ถ้าอยากช้อปเดินซื้อของเพลินๆ ก็มี ICONSIAM หนึ่งในศูนย์การค้า Luxury ที่ดีที่สุดระดับโลก ซึ่งอยู่ห่างจากโครงการไม่กี่กิโลเมตร
และที่สร้างความแตกต่างจากทำเลอื่นคือรายล้อมไปด้วย ตลาด หรือ Street Food ชื่อดังของกรุงเทพฯ ได้แก่ ตลาดวังหลัง เยาวราช และตลาดดอกไม้ปากคลองตลาด นอกจากนี้ยังมีตลาดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้โครงการอย่างตลาดโพธิ์สามต้นและตลาดพรานนก ซึ่งใช้เวลาในการไปแต่ละสถานที่ไม่กี่นาที เทียบกับย่านอื่นแล้วที่ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมง ก็นับเป็นอีกหนึ่งจุดได้เปรียบของคนที่อยู่คอนโดนี้
ส่วนร้าน Cafe น่ารักๆ หรือ Bar & Restaurant หรือบาร์ (ไม่) ลับ ก็ไม่พลาดที่จะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกัน ที่รับรองว่าใครได้เห็นแล้วจะต้องชื่นชอบ เช่น JOMO Bakehouse & Cafe, Hayday Cafe, Achcha Cafe, Hau Yong Seng Cafe, Embers, Barcode Itsaraphap, Tha Arun, Amorosa Bar และอีกเพียบที่ให้ทุกคนได้ไปดื่มด่ำกับบรรยากาศสนุกสนาน
Photo credit by : facebook the arun
Photo credit by : hungryhub
Photo credit by : sale here
เพลิดเพลินกับการเที่ยวไปแล้วก็ต้องไม่ลืมเรื่องสุขภาพ เพราะการมี โรงพยาบาล อยู่ใกล้ไว้ก่อนยังไงก็อุ่นใจกว่า โดยมีทั้ง รพ.ธนบุรี รพ.ศิริราช รพ.ศิริราชปิยมหาราชการุณย์ และรพ.สมิติเวช ธนบุรี ที่อยู่ไม่ไกลจากโครงการ
ส่วนสถานศึกษา ที่แน่นอนว่าย่านนี้มีมหาวิทยาลัยชื่อดังของไทยทั้ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) มหาวิทยาลัยศิลปากร (วังท่าพระ) รวมถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เช่นเดียวกับโรงเรียนซึ่งก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กันอย่าง รร.ราชินี รร.ศึกษานารี รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย และรร.ทวีธาภิเศก
ท้ายสุดที่จะพลาดไม่ได้เมื่อมีโอกาสได้มารีวิวย่านนี้ทั้งที นั่นก็คือศาสนสถานและโบราณสถาน ที่มีความสวยงามและมีคุณค่าทางใจ เช่น วัดอรุณฯ วัดพระแก้ว วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระราชวังเดิม พระที่นั่งวิมานเมฆ หอศิลป์แห่งชาติ ป้อมพระสุเมรุ เสาชิงช้า และภูเขาทอง เป็นต้น
► Make Freedom Yours สู่การเป็นเจ้าของอิสรภาพ
เต็มอิ่มไปกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตนอกบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็มาเติมเต็มในส่วนของการพักผ่อนเพื่อชาร์จพลังให้ตัวเองกันต่อ โดยโครงการ ‘Aspire Itsaraphap Station’ ได้แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถัน ผ่านแนวคิด Freedom Is Your Choice อิสระ… ที่คุณเลือกไลฟ์สไตล์เองได้ในแบบที่เป็นคุณ
พร้อมมอบประสบการณ์ในการพักอาศัยที่แปลกใหม่ และเป็นส่วนตัวคล้าย Staycation ที่ต้องการให้ทุกคนดื่มด่ำไปกับความเงียบสงบกลางเมือง สู่การพักผ่อนอย่างอิสระ ซึ่งจะทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ Boutique Hotel
โดยให้ความใส่ใจตั้งแต่การให้พื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคนมากขึ้น เพราะทั้งโครงการนี้เป็น คอนโด Low Rise 2 อาคาร ที่มีจำนวนเพียง 270 ยูนิต ซึ่งอาคาร A จะมีความสูง 5 ชั้น จำนวน 100 ยูนิต ส่วนอาคาร B สูง 8 ชั้น จำนวน 170 ยูนิต บนขนาดที่ดินประมาณ 3-0-93.30 ไร่ สามารถจอดรถได้ 39% หรือจำนวน 105 คัน รวม EV Charger (ไม่รวมซ้อนคัน)
ขณะเดียวกันสถาปัตยกรรมภายนอกและการตกแต่งภายใน ถูกดีไซน์ในคอนเซ็ปต์ Modern Heritage Twist ที่ออกแบบจากอัตลักษณ์สำคัญของย่านวังเดิม มาบิดดัดแปลงให้มีความโมเดิร์นทันสมัย ทั้งในส่วนของโทนสีและ Facade จนกลายเป็นงานร่วมสมัยที่ให้กลิ่นอายความอบอุ่น และโดดเด่นไม่ซ้ำใครได้อย่างมีเสน่ห์
สังเกตได้จากตัวอาคารที่เลือกใช้โทนสีที่สร้างความสะดุดตา แต่ไม่ได้รู้สึกแปลกแยกจากพื้นที่โดยรอบ อย่างสีแดงปนส้มหรือถ้าเรียกง่ายๆ ก็คือสีอิฐ ซึ่งสอดผสานกับสีขาวได้อย่างลงตัว ส่วนงานตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ภายในโครงการ ก็ได้อินสไปร์มาจากสีกระเบื้องประติมากรรมบนพระปรางค์ วัดอรุณฯ เช่น สีเขียว สีเหลือง และสีฟ้า เป็นสีโทนเย็นที่ช่วยให้สบายตาเมื่อได้มอง และเป็นการเพิ่มบรรยากาศให้รู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่อาศัย
ด้านตัว Facade เองก็นำสถาปัตยกรรมของวัดอรุณฯและป้อมมหากาฬ ที่เค้าเรียกว่าการ ย่อมุม มาลดสเกลให้เหลือเพียงความเป็นเหลี่ยมมุมแบบไล่สเต็ป ในการออกแบบตัวอาคารภายนอกของโครงการ อีกทั้งยังได้ดึงองค์ประกอบบ้านไทยสมัยก่อนมาประยุกต์ใช้เช่นเดียวกัน เช่น หน้าต่างบานพับที่กรุเป็นซี่ๆ ให้มีระยะห่างช่องไฟที่เท่ากัน เพื่อให้เกิดช่องแสงและลมพัดผ่านได้ แต่ถ้าสมัยนี้จะถูกดัดแปลงมาใช้ในรูปแบบระแนงนั่นเอง
ซึ่ง Sales Gallery ได้นำองค์ประกอบบางส่วนมาโชว์ให้เห็นถึงความสวยงาม ก่อนโครงการจะสร้างเสร็จในช่วงปี 2026 โดยตัว Sales Gallery จะอยู่บนชั้น 2 ส่วนชั้นล่างจะเป็นร้านคาเฟ่และร้านทำเล็บ ที่มองจากภายนอกแทบจะไม่รู้เลยว่าขายคอนโด ถ้าไม่มีป้ายชื่อโครงการติดบอกเอาไว้ คือให้ความรู้สึกกลมกลืนได้อย่างน่าสนใจ ทั้งนี้ตัวโครงการจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับ Sales Gallery
ส่วนภายในเองก็ตกแต่งและจัดวางเฟอร์นิเจอร์เอาไว้ได้อย่างสวยงามไม่แพ้กัน
► Freedom in Your Element อิสรภาพในการผ่อนคลาย
แต่ก่อนจะพาชมห้องตัวอย่างโครงการ ‘แอสปาย อิสรภาพ สเตชั่น’ ขอพาไปดูพื้นที่ส่วนกลางคุณภาพ ที่จะช่วยให้เราหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอก สู่ความเงียบภายในกับบรรยากาศที่คุ้นเคย โดยจัดสรรมาให้ทั้งหมด 4 ชั้น รวม 15 ฟังก์ชัน เพื่อการพักผ่อนท่ามกลางความสงบและเป็นส่วนตัว
ส่วนแรกที่รอต้อนรับการมาของทุกคนคงหนีไม่พ้นล็อบบี้ The Itsara Lounge พื้นที่รองรับสำหรับแขกที่มาหาลูกบ้าน หรือลูกบ้านจะลงมานั่งรอรับอาหารรอรถมารับ หรือแม้แต่มาเปลี่ยนบรรยากาศเพื่อนั่งเล่นก็ถือว่าตอบโจทย์ทุกวัตถุประสงค์
เดินลึกเข้ามาข้างในจะพบกับอาณาเขตของความร่มรื่นจากสวนสีเขียวกลางแจ้ง ที่โอบล้อมด้วยสองอาคาร ซึ่งจัด Facilities ที่นั่งเอาไว้ทั้งแบบโซฟาเบด The Pier Seat รวมถึงเก้าอี้ที่จัดไว้สำหรับนั่งรีแลกซ์อย่าง The Leisure Court, The Calm Nook Seat และ The Serenity Court ที่รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาพันธุ์
ในพื้นที่เดียวกันยังมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ The Aqua ขนาด 7.8 x 22.5 ม. สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง มาพร้อม The Hydro Spa Seat หรือ Jacuzzi ในวันที่แค่อยากแช่น้ำผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ซึ่งโซนนี้ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างสวนสีเขียว
ส่วน The Gym หรือฟิตเนสนั้นจะอยู่ชั้น 2 ของอาคาร B ซึ่งจะอยู่ติดกับโถงลิฟต์ แยกออกจากโซนห้องพักอาศัย ด้วยการกั้นประตูระบบสแกนหน้าล็อกอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งนอกจากมีอุปกรณ์ออกกำลังกายครบครัน ได้วิวสวนบวกกับสระว่ายน้ำแล้ว ยังสร้างไฮไลต์ตรงมีบันไดคอนเน็กไปยังพื้นที่ตรงนี้ได้โดยไม่ต้องอ้อมเข้าไปภายในโครงการ ยิ่งกว่านั้นคือ The Gym ยังเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ถัดไปที่ชั้น 5 แต่ย้ายไปฝั่งอาคาร A ถูกจัดสรรด้วย Facilities หลากหลายการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น The Sky Lounge และ The Relaxing Hub โซนผ่อนคลายปล่อยกายปล่อยใจสบายอารมณ์ของแท้
ติดกันเป็น The Sky Co-Working และ The Private Meeting สำหรับคนที่ไม่อยากนั่งทำงานในห้องแต่ก็ไม่อยากก้าวออกไปไหนไกลพื้นที่ตรงนี้คือใช่เลย รวมถึงจัดห้องประชุมแยกเอาไว้เป็นส่วนตัวต่างหาก
และก็มาถึงอีกหนึ่งมุมพิเศษที่สุดของโครงการอย่าง Arun Terrace ที่เชื่อมต่อไปยังโซน The Sky Garden จุดชมวิวที่มองเห็นพระปรางค์ วัดอรุณฯ ได้แบบเต็มๆ ตาเหมือนอยู่ใกล้แค่เอื้อม ซึ่งเป็นคอนโดหนึ่งเดียวแห่งย่าน ที่ได้รับทัศนียภาพสวยงามและยูนีคแบบนี้ ที่บอกเลยว่าถ้าได้มาดูตอนเช้าหรือตอนเย็นพลบค่ำคงจะสวยน่าดูเลย
ส่วนกลางปิดท้ายอยู่ที่ชั้น 8 โดยจะอยู่ฝั่งอาคาร B คือ The Co-Op Society อีกหนึ่งพื้นที่ Co-Working Space เปิดรับจุดชมวิวพระปรางค์ วัดอรุณฯ แบบ Indoor ซึ่งให้มุมมองที่แตกต่างไปจากเดิม เหมาะอย่างมากสำหรับใครที่ต้องการนั่งทำงานชิลๆ หรือกำลังหาไอเดียใหม่ๆ ในการทำงานน่าจะช่วยให้ครีเอทงานได้ดีขึ้น
► Freedom Is Your Choice อิสระที่คุณเลือกไลฟ์สไตล์เองได้ในแบบที่เป็นคุณ
ขึ้นชื่อว่าโครงการของเอพี ไม่เคยทำห้องพักอาศัยให้ผิดหวังแน่นอนอยู่แล้ว ยังคงจัดเต็มในเรื่องของความหลากหลายขนาด แต่เพิ่มความพิเศษอีกทวีคูณด้วยการมีห้อง Layout หน้ากว้างถึง 7.5 ม. รวมถึงมีห้องแบบ Pool & Garden Access หนึ่งเดียวในย่านนี้
โดยโครงการ ‘Aspire อิสรภาพ สเตชั่น’ มาในรูปแบบ Fully Fitted ให้เฟอร์นิเจอร์มาบางส่วน และเครื่องปรับอากาศแบบ Wall Type 1-3 เครื่อง ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง ซึ่งมี Type ห้องให้เลือกดังนี้
1. Studio ขนาด 25.5 ตารางเมตร |
2. 1 Bedroom ขนาด 28-32 ตารางเมตร |
3. 1 Bedroom Plus ขนาด 35-40 ตารางเมตร |
4. 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 47.5 ตารางเมตร |
5. 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55-57.5 ตารางเมตร |
สำหรับชั้นพักอาศัยโดยปกติถ้าเป็นคอนโด Low Rise ชั้นแรกมักจะมีโซนที่พักอาศัยรวมอยู่กับส่วนกลางด้วย แต่โครงการนี้ชั้นล่างจะเป็นส่วนกลางทั้งหมด และขยับห้องพักอาศัยไว้ชั้นถัดไปที่ชั้น 2 เพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
ส่วนชั้น 3-4 ของทั้งสองอาคาร จะเป็นพื้นที่พักอาศัยทั้งหมด
ต่อมาที่ชั้น 5 ของอาคาร A จะมีพื้นที่ฝั่งหนึ่งเป็นส่วนกลาง แต่อาคาร B ยังคงเป็นที่พักอาศัยทั้งหมด
และชั้น 6-8 จะมีแค่ฝั่งอาคาร B โดยชั้น 6-7 จะมีเฉพาะที่พักอาศัยเหมือนกัน ส่วนชั้น 8 นอกเหนือจากห้องพักแล้วจะมีส่วนกลางเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งจุด
► 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร
ห้องนี้คือ Layout สุดฮิตครัวติดอากาศ ซึ่งมีจุดเด่นของการออกแบบที่แตกต่างไปจากห้องปกติ ตรงที่เข้ามาจะยังไม่ใช่ห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว แต่เป็นพื้นที่สำหรับบิวท์ตู้เก็บรองเท้าตู้เก็บของ ที่เชื่อมต่อยาวไปห้องนั่งเล่น
ขณะเดียวกันฝั่งตรงข้ามคือห้องน้ำ ซึ่งแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม คือซื้อแค่เครื่องทำน้ำอุ่นเป็นอันจบ เพราะโครงการจัดมาให้ครบหมดแล้ว
ตั้งแต่อ่างล้างหน้ามีเคาน์เตอร์เก็บของด้านล่าง รวมถึงกระจกเงาก็ทำเป็นตู้เก็บของซ่อนเอาไว้ด้านหลัง พร้อมบิวท์ที่วางของด้านหลังอ่างให้เรียบร้อย ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ ส่วนข้างในสุดเป็นโซนอาบน้ำที่ได้ทั้ง Hand Shower และฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกใส แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาชัดเจน
ถัดไปคือโซน Living Room ขนาดใหญ่ โดยได้ Floor to Ceiling สูง 2.45 เมตร ซึ่งด้วยความกว้างของห้องทำให้เรามีไอเดียในการออกแบบดีไซน์ได้มากขึ้น
อย่างฝั่งชั้นวางทีวี ยังมีพื้นที่เหลือมากพอให้บิวท์เป็นได้ทั้งตู้เสื้อผ้า หรือตู้เก็บของ ปรับเป็นวางโต๊ะทำงาน หรือแต่งแบบห้องตัวอย่าง และเชื่อมยาวไปยังตู้เก็บรองเท้าหน้าทางเข้าก็ให้ความเก๋กันไปคนละแบบ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย
อีกด้านหนึ่งเลือกได้เลยว่าจะวางโซฟายาวเต็มพื้นที่ขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกลางซะตัว หรือจะเลือกวางโซฟาแค่ 2 ที่นั่ง และแบ่งสเปซวางโต๊ะกินข้าวก็ได้ทั้งนั้น เนื่องจากพื้นที่ Open Plan ตรงนี้มีความยืดหยุ่นในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ดีพอสมควรเลย
โซนห้องครัวเป็นครัวปิดกั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน 3 ตอน ส่วนตัวชอบแปลนให้ครัวอยู่ติดระเบียงแบบนี้ เพราะสามารถระบายกลิ่นอาหารออกข้างนอกได้ดี
โดยโครงการบิวท์เคาน์เตอร์ครัวขนาดได้มาตรฐาน พร้อมตู้เก็บของด้านบน ส่วน Top เคาน์เตอร์ก็ได้เตรียมแผ่นหินสังเคราะห์ปิดซิงค์ล้างจานเพิ่มอีกครึ่งหนึ่งมาให้ด้วย เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับการทำอาหารได้มากกว่าเดิม และด้านหลังเคาน์เตอร์ Backsplash ก็กรุกระเบื้องมาให้เพื่อง่ายต่อการเช็ดทำความสะอาดคราบเปื้อนต่างๆ ไม่เพียงเท่านั้นยังได้เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งเตาไฟฟ้าและ Hob & Hood จากแบรนด์ MEX
ติดกันเป็นระเบียงที่มีพื้นที่ให้ติดตั้งเครื่องซักผ้า รวมถึงด้านข้างยังมีที่ว่างให้วางอุปกรณ์ซักผ้า และเหลือพื้นที่ใช้สอยได้อีกประมาณหนึ่ง
ห้องนอนเองก็มีขนาดกว้างขวางพอสมควร โดยได้ประตูกระจกแบบบานเลื่อน 3 ตอน รวมถึงได้ช่องแสงทั้งแบบบานกระทุ้งและบานฟิกซ์อย่างละ 2 บาน ทำให้ช่องแสงส่องเข้ามาถึงโซนนั่งเล่นได้แบบทั่วถึง
ขณะเดียวกันด้วยสเปซของห้องนอนทำให้วางได้ทั้งเตียง 5 ฟุต พร้อมโต๊ะทำงานหรือโต๊ะแต่งหน้า ซึ่งก็ยังพอมีพื้นที่ปล่อยโล่งให้รู้สึกสะดวกสบายไม่รู้สึกอึดอัดในการอยู่อาศัย
► 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร
ห้องนี้เปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Common Area ที่คอนเน็กพื้นที่ทั้งสามโซนคือ Kitchen, Dining Area และ Living Area ทำให้เมื่อเข้ามาอยู่ข้างในแล้วสัมผัสได้ถึงความกว้างขวางปลอดโปร่ง
ฝั่งโซนครัวจะเป็นแบบครัวเปิด ขนาดเคาน์เตอร์พอๆ กับห้องตัวอย่างแบบแรก จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยทำอาหาร เน้นสั่งหรือซื้อเข้ามากินมากกว่า
มองกลับไปเป็นโซนกินข้าว ซึ่งการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบห้องตัวอย่างก็ดูเป็นไอเดียที่ดีในการใช้พื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า แต่ความจริงแล้วใครที่ไม่ได้ซีเรียสแบบเราว่าจะต้องมีโต๊ะกินข้าว จะปรับเป็นตู้เก็บรองเท้าและตู้เก็บของก็ดูน่าสนใจไม่แพ้กัน
เชื่อมต่อไปยังโซนนั่งเล่น สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้แบบครบเซต โซฟาขนาด 2-3 ที่นั่ง บิวท์ชั้นวางทีวีให้สุดผนัง และโต๊ะกลางอีกหนึ่งตัว ก็ทำให้โซนนี้คอมพลีสได้อย่างลงตัว
ในสุดของห้องคือ Multipurpose Room กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อนแบบ 3 ตอน มาพร้อมช่องแสงแบบหน้าต่างบานกระทุ้งและบานฟิกซ์อย่างละ 2 บาน ตามที่เห็นในรูปเลย
ส่วนสเปซของห้องก็สามารถดัดแปลงให้เป็นดั่งใจได้หลายอย่างทั้งห้องนอนที่สอง ห้องทำงาน หรือใครอยากมีมุมกินข้าวแบบเป็นกิจจะลักษณะห้องนี้ก็ตอบโจทย์ได้เหมือนกัน
เดินกลับไปดูห้องน้ำที่อยู่โซนหน้าห้องกันต่อ ซึ่งเป็นแบบ Double Access Bathroom คือเข้าออกได้สองทางทั้งฝั่ง Common Area และในห้องนอน โดยได้สุขภัณฑ์ทุกอย่างเพียบพร้อมเหมือนกับห้องตัวอย่าง
ปิดท้ายด้วยห้องนอน ซึ่งจะได้เป็นประตูบานทึบที่มาพร้อมกับความเป็นส่วนมากขึ้น โดยให้พื้นที่ใช้สอยมากว้างขวาง วางเตียง 5 ฟุต และบิวท์ตู้เสื้อผ้าฝั่งติดกับห้องน้ำเพื่อให้สะดวกสบายในการใช้งาน
โดยห้องนอน Type นี้จะอยู่ติดกับระเบียงที่โครงการให้สเปซมาประมาณหนึ่ง ซึ่งจัดเครื่องซักผ้าให้วางไว้ตรงระเบียง เพื่อง่ายต่อการใช้งานทั้งซักและตากในพื้นที่เดียวกัน
โครงการนี้จะเข้ามาเติมเต็มทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างอิสระ พร้อมซัพพอร์ตกลุ่มคนถิ่นเดิมให้ไม่ต้องย้ายไปไหนไกล และคนหน้าใหม่ที่สนใจคอนโดที่ช่วยให้ไม่ว่าจะ Weekday ก็ไปทำงานหรือไปเรียนได้สะดวก และ Weekend ก็ช่วยให้ใช้เวลาพักผ่อนหรือไปเที่ยวได้แบบสบาย
ซึ่งตอบโจทย์ทุกกลุ่ม ทั้งคนทำงานในเมืองโซน CBD สีลม สาทร สามย่าน รวมไปถึงบุคลากรทางการแพทย์ แม้แต่เหล่าข้าราชการที่ทำงานย่านวังเดิม และกลุ่มผู้ปกครองที่กำลังมองหาคอนโดให้ลูกหลาน หรือคนที่คิดจะขยับขยายครอบครัว กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในแบบที่เป็นคุณ... ‘Aspire อิสรภาพ สเตชั่น’ คือคำตอบสุดท้าย
แอบบอกว่าโครงการขายไปเกินครึ่งแล้ว ดังนั้นใครสนใจอาจต้องรีบเข้าไปชมไปจองกันเร็วนิดนึง โดยแวะคลิกลงทะเบียนที่ลิงก์นี้ก่อนเลย เพื่อรับสิทธิพิเศษมากมาย คลิก!!! https://apth.ly/h5vy
Livinginsider - Weekly Insight Report [09-15 Mar 2025]
2025-03-17
Livinginsider - Weekly Insight Report [02-08 Mar 2025]
2025-03-17
GOOD DAY สุขุมวิท 93 | คอนโดฟีลกู๊ด เชื่อมโยงรอบทิศ ต่อติดทุกไลฟ์สไตล์ บนทำเลแห่งอนาคต ใกล้ BTS บางจาก ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง
2025-03-05
2025 AP Business Direction ขับเคลื่อนสู่ความเป็นหนึ่ง โชว์แพลนธุรกิจบ้านเดี่ยว The Greatest Home สร้างที่สุด ให้ชีวิตดีที่สุด เพื่มเติมเต็มทุกพื้นที่ชีวิต
2025-03-03
Livinginsider - Weekly Insight Report [23 Feb-01 Mar 2025]
2025-03-03
Aspire Isaraphap 2-bed 55 sq.m., view of the prang of Wat Arun, the clearest position
Aspire Isaraphap 1-bed Plus, wide frontage, view of the prang of Wat Arun
(Down payment for sale) Aspire Itsaraphap Station, city view, north side, near MRT Itsaraphap, only 350 meters.
ASPIRE Issaraphap Station, 7.7 meter wide room, corner position, best in the project, 1 Bedroom 31 sq m., 7th floor
อ่านสนุก ได้ความรู้ด้วย
ดีคะ ไม่พูดมากเจ็บคอ
บทความดีมากครับ
ขอบคุณบทความที่มีประโยชน์ครับ