
Home
ในยุคที่การลงทุนอสังหาริมทรัพย์กำลังเป็นที่นิยม การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Yield คืออะไร จึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม เพราะ Yield เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่จะบอกได้ว่าการลงทุนของคุณจะคุ้มค่าหรือไม่ บทความนี้ Livinginsider จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Yield อย่างละเอียด พร้อมทั้ง วิธีคิด Yield ค่าเช่า ที่ถูกต้อง เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจ
Yield คืออัตราผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปีเทียบกับมูลค่าการลงทุน ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนได้ วิธีคิด Yield ค่าเช่า จะคำนวณจากรายได้ค่าเช่าที่ได้รับต่อปีหารด้วยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ คูณด้วย 100
ในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ Yield คือตัวชี้วัดที่มีหลายประเภท แต่ละประเภทมีวิธีการคำนวณและการนำไปใช้ที่แตกต่างกัน โดยประเภทหลัก ๆ ที่นักลงทุนควรรู้จักมี 2 ประเภท คือ อัตราผลตอบแทนปัจจุบัน (Current Yield) และอัตราผลตอบแทนคำนวณถึงวันครบกำหนดไถ่ถอน (Yield to Maturity)
Current Yield เป็นวิธีคิด Yield ค่าเช่าแบบพื้นฐานที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากคำนวณได้ง่าย โดยจะคำนวณจากรายได้ค่าเช่าที่ได้รับต่อปีหารด้วยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบัน คูณด้วย 100 ซึ่งจะทำให้เห็นภาพรวมของผลตอบแทนที่จะได้รับในระยะสั้น
สำหรับนักลงทุนที่วางแผนถือครองอสังหาริมทรัพย์ในระยะยาว Yield to Maturity จะเป็นวิธีคิด Yield ค่าเช่า ที่เหมาะสมกว่า เพราะคำนวณรวมปัจจัยอื่น ๆ เช่น มูลค่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นของอสังหาริมทรัพย์ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการลงทุน
Yield คืออัตราผลตอบแทนที่คำนวณจากรายได้ค่าเช่าทั้งหมดต่อปี หารด้วยมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ คูณ 100 สูตรนี้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ซื้อด้วยเงินสด ไม่มีภาระหนี้สิน โดยมีสูตรคำนวณดังนี้
Gross Rental Yield = (รายได้ค่าเช่าต่อปี ÷ มูลค่าอสังหาริมทรัพย์) × 100
Net Rental Yield เป็นวิธีคิด Yield ค่าเช่าที่สะท้อนความเป็นจริงมากกว่า เพราะคำนวณรวมค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าส่วนกลาง ค่าซ่อมแซม ภาษี โดยมีสูตรคำนวณดังนี้
Net Rental Yield = [(รายได้ค่าเช่าต่อปี - ค่าใช้จ่ายต่อปี) ÷ มูลค่าอสังหาริมทรัพย์] × 100
สำหรับนักลงทุนที่กู้เงินมาลงทุน Cash on Cash Rental Yield จะเป็นวิธีคิด Yield ค่าเช่าที่เหมาะสมที่สุด เพราะคำนวณรวมภาระการผ่อนชำระเงินกู้ด้วย สูตรคำนวณคือ
Cash on Cash Yield = [(รายได้ค่าเช่าต่อปี - ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อปี) ÷ เงินลงทุนเริ่มต้น] × 100
Yield คือตัวชี้วัดความคุ้มค่าในการลงทุน โดยทั่วไปนักลงทุนควรมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทน Yield อย่างน้อย 6-8% ต่อปี และควรสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อย่างน้อย 2% หากใช้เงินกู้ในการลงทุน ทั้งนี้ ระดับ Yield ที่เหมาะสมอาจแตกต่างกันตามทำเล ประเภทอสังหาริมทรัพย์ และสภาวะตลาด
การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Yield คืออะไร และวิธีคิด Yield ค่าเช่าที่ถูกต้อง เป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ให้ประสบความสำเร็จ หากคุณกำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นคอนโด ซื้อบ้านติดรถไฟฟ้า บ้านมือสอง หรือทาวน์โฮม Livinginsider พร้อมเป็นผู้ช่วยคุณในการค้นหาอสังหาริมทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ด้วยฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุด พร้อมข้อมูลราคาตลาดที่อัปเดตล่าสุด เพื่อให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างมั่นใจ
10 จังหวัด มีประชากรมากที่สุดในประเทศไทย
2024-02-12
หลักหมุดที่ดินสำคัญแค่ไหน ถ้าถูกเคลื่อนย้ายต้องทำยังไง?
2024-10-25
รวม 10 คอนโดวิวแม่น้ำที่สวยที่สุด ในกรุงเทพฯ
2022-08-07
7 ฮวงจุ้ยการจัดห้องพระ เสริมสิริมงคลภายในบ้าน
2022-08-03
12 ข้อควรระวัง ซื้อคอนโดปล่อยเช่า ที่ถูกมองข้าม (แต่โคตรสำคัญ)
2020-04-10
อ่านเเล้วอยยากเห็นหน้านักเขียนเลยค่ะ 555555
ชอบมากเลยครับ บทความเเนวนี้ ไม่น่าเบื่อ
ชอบมาก อ่านเข้าใจง่าย