อัปเดตภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ชำระเมื่อไหร่ คำนวณยังไง เช็กเลย!

ในทุกปี ๆ คนที่มีทรัพย์สินประเภทที่ดินและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม หรือคอนโด จะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งปีนี้ได้มีการขยายระยะเวลาจัดเก็บออกไปจากเดิม ทางทีมจึงนำข้อมูลมาอัปเดตว่า ปี 2568 ต้องชำระภาษีเมื่อไหร่ คำนวณยังไง และที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประเภทไหนบ้างที่ต้องเสียภาษี

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2568 ชำระเมื่อไหร่?

สำหรับปี 2568 ได้มีการขยายระยะเวลาจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างออกไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและลดภาระของประชาชน หลังจากปีที่ผ่านมาเผชิญกับภัยน้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยช่วงเดือนมกราคมจะมีการประกาศแจ้งรายการที่ดิน จากนั้นในเดือนมีนาคมจะประกาศราคาประเมินทุนทรัพย์ แล้วแจ้งประเมินภาษีในเดือนเมษายน ซึ่งเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะต้องชําระภาษีตามแบบแจ้งการประเมินภาษีภายในเดือนมิถุนายน 

หรือหากใครไม่สะดวกจ่ายภาษีเป็นเงินก้อน สามารถเลือกผ่อนชำระได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงสิงหาคม รวม 3 งวด โดยมียอดชำระขั้นต่ำอยู่ที่ 3,000 บาทขึ้นไป แต่ถ้าไม่เสียภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีหนังสือแจ้งเตือนภาษีค้างชําระภายในเดือนกรกฎาคม และแจ้งรายการภาษีค้างชําระภายในเดือนสิงหาคม

ชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช้ากว่ากำหนดต้องเสียค่าปรับเท่าไหร่?

อย่างที่บอกไปว่า หากไม่ชำระภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนด จะมีหนังสือแจ้งเตือนภาษีค้างชําระส่งมาให้ ซึ่งหากไปชำระก่อนที่จะได้รับการแจ้งเตือน จะต้องเสียค่าปรับ 10% ของจํานวนภาษีค้างชําระ แต่ถ้าจ่ายภาษีหลังจากได้รับหนังสือแจ้งเตือน และยังอยู่ภายในระยะเวลาที่กำหนด ค่าปรับจะเพิ่มเป็น 20% ของสำนวนภาษีค้างชำระ ทั้งนี้ หากยังไม่ไปดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดในหนังสือแจ้งเตือน ค่าปรับจะเพิ่มขึ้นเป็น 40% ของจำนวนภาษีค้างชำระ

นอกจากนี้ ยังต้องเสียเงินเพิ่มอีก 1% ต่อเดือน นับแต่วันที่เลยกำหนดจนถึงวันที่มีการชำระภาษี แต่ไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องจ่าย ยิ่งไปกว่านั้น หากยังไม่ไปเสียภาษีภายในระยะเวลาที่หนังสือแจ้งเตือนกำหนด จะไม่สามารถจดทะเบียนสิทธิหรือโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างได้

ที่สำคัญ หากเกิน 90 วันนับตั้งแต่ได้รับหนังสือแจ้งเตือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีสิทธิยึด หรืออายัดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ค้างชำระภาษี เพื่อนำไปขายทอดตลาด ส่วนโทษทางกฎหมาย หากพบว่ามีการแจ้งข้อมูลเท็จ เพื่อเลี่ยงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ต้องระวางโทษทางอาญา จำคุกสูงสุด 2 ปี ปรับสูงสุด 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ต้องเสียภาษีมีกี่ประเภท 

1. ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย

ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย ทั้งที่เป็นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของอยู่เอง โดยมีเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ และทะเบียนบ้าน รวมถึงบ้านหลังอื่น ๆ ที่เจ้าของมีชื่อในโฉนด แต่ไม่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ก็ต้องเสียภาษีด้วย ซึ่งที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยที่ต้องเสียภาษีแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ 1. เจ้าของที่ดินควบคู่กับสิ่งปลูกสร้าง 2. เจ้าของสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียว เช่น คอนโด ห้องชุด และ 3. เจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากกว่า 2 หลังขึ้นไป มีการจัดเก็บอัตราภาษี ดังนี้

1.1 บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว

• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 50-75 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.03% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 75-100 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.05% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.1% ต่อปี

1.2 บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้างหลังเดียว 

• สิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 10 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี
• สิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 10-50 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.02% ต่อปี
• สิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 50-75 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.03% ต่อปี
• สิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 75-100 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.05% ต่อปี
• สิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.1% ต่อปี

1.3 บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง 2 หลังขึ้นไป

• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 50 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.02% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 50-75 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.03% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 75-100 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.05% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.1% ต่อปี

2. ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม

คือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่นำมาสร้างรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้า ร้านอาหาร ออฟฟิศ โรงแรม ฯลฯ มีการจัดเก็บอัตราภาษี ดังนี้

• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 50 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.3% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 50-200 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.4% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 200-1,000 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.5% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.6% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.7% ต่อปี

3. ที่ดินเพื่อการเกษตร

ที่ดินเพื่อการเกษตรที่ต้องเสียภาษี ได้แก่ ไร่ นา สวน ที่ดินที่ทำการเลี้ยงปศุสัตว์ หรือเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ รวมถึงการทำสวนป่า นาเกลือ และการเพาะเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริโภค จำหน่าย หรือใช้งานในฟาร์ม มีการจัดเก็บอัตราภาษี ดังนี้

3.1 บุคคลธรรมดา

• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 50 ล้านบาท ได้รับการยกเว้นภาษี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 50-125 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.01% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 125-150 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.03% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 150-550 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.05% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 550-1,050 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.07% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 1,050 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.1% ต่อปี

3.2 นิติบุคคล

• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 75 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.01% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 75-100 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.03% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 100-500 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.05% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 500-1,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.07% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 1,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.1% ต่อปี

4. ที่ดินรกร้างว่างเปล่า

ที่ดินรกร้างหรือสิ่งปลูกสร้างที่ถูกทิ้งร้างไว้โดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ จะต้องเสียภาษีดังนี้

• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าน้อยกว่า 50 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.3% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 50-200 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.4% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 200-1,000 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.5% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.6% ต่อปี
• ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป ต้องเสียภาษี 0.7% ต่อปี

ทั้งนี้ หากปล่อยที่ดินรกร้างว่างเปล่านานต่อเนื่องมากกว่า 3 ปี อัตราภาษีจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในทุก ๆ 3 ปี โดยมีเพดานภาษีสูงสุดไม่เกิน 3%

การคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2568

1. วิธีคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

สูตรการคำนวณคือ (มูลค่าที่ดิน + มูลค่าสิ่งปลูกสร้าง) x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

ยกตัวอย่าง 

เจโฮปมีที่ดินมูลค่า 60 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวที่สร้างบนที่ดินผืนนั้นมูลค่า 35 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.05% ต่อปี คิดเป็น (60+35) x 0.05% = 47,500 บาท

2. วิธีคำนวณภาษีห้องชุด

สูตรการคำนวณคือ มูลค่าห้องชุด x อัตราภาษี = ภาษีที่ต้องจ่าย

ยกตัวอย่าง 

จีมินมีห้องชุดมีมูลค่า 50 ล้านบาท ต้องเสียภาษี 0.02% ต่อปี คิดเป็น 50 x 0.02% = 10,000 บาท

3. วิธีคำนวณภาษีที่ดินเพื่อการเกษตร ที่ดินไม่มีสิ่งปลูกสร้าง และที่ดินรกร้าง

สูตรการคำนวณคือ มูลค่าที่ดิน x อัตราภาษีที่ดิน = ภาษีที่ต้องจ่าย

ยกตัวอย่าง 

บุคคลธรรมดามีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างทางการเกษตร มูลค่า 75 ล้านบาท ซึ่งต้องเสียภาษี 0.01% ต่อปี คิดเป็น 75,000,000 x 0.01% = 7,500 บาท

สำหรับใครที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังจากได้รับหนังสือแจ้งประเมินทุนทรัพย์แล้ว อย่าลืมชำระภายในระยะเวลาที่กำหนดด้วยนะ ไม่อย่างนั้นอาจต้องเสียค่าปรับ ทำให้ต้องจ่ายเงินเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญ ตอนนี้สามารถจ่ายภาษีได้ง่าย ๆ ผ่านคิวอาร์โค้ด สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จ่ายเท่าไหร่ยังไงกันแน่ 

ขายบ้าน คอนโด เสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ต้องจ่ายภาษีด้วยไหม และขอคืนภาษีได้รึเปล่า?

มีที่ดินเปล่า ทำอะไรได้บ้าง?

“ที่ดินตาบอด” จะขอทางออกต้องทำยังไง?