
Home
บริทาเนีย โชว์รายได้กลุ่มบริษัทปี 2567 รวม 3,860 ล้านบาท กำไรสุทธิ 427 ล้านบาท เตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเคาะแผนขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน-แจกวอแรนท์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม เสริมความแข็งแกร่งของฐานทุน รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
ดร.ศุภลักษณ์ จันทร์พิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI กล่าวว่าสำหรับผลประกอบการของบริทาเนีย ในปี 2567 จากการดําเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “Crafting for Everlasting Growth” รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงบริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 5,000 ล้านบาท นําไปสู่การสร้างยอดขาย (Presale) รวม 6,551 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ได้มีการร่วมทุนพัฒนาโครงการจากพันธมิตรท้ังสิ้น 7 โครงการ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยหนึ่งในนั้นบริทาเนียได้รับความไว้วางใจจาก โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท ในเครือโซเท็ตซึ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านรถไฟฟ้า-อสังหาฯ-ค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น
สําหรับปี 2567 บริทาเนีย มียอดโอนกรรมสิทธิ์จำนวน 3,441 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการที่ไม่ได้เป็นโครงการร่วมทุนเท่ากับ 2,848 ล้านบาท และเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์จากโครงการร่วมทุน 593 ล้านบาท
นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทยังมีรายได้ค่าบริหารโครงการ เท่ากับ 536 ล้านบาท กําไรจากการจําหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย 362 ล้านบาท รายได้อื่น 114 ล้านบาท จากรายการดังกล่าวทําให้บริทาเนียมีรายได้รวม เท่ากับ 3,860 ล้านบาท กําไรสุทธิ เท่ากับ 427 ล้านบาท ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2567 บริทาเนียมียอดขายที่รอรับรู้ได้รายได้เท่ากับ 802 ล้านบาท
ดร.ศุภลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ตลอดปี 2567 ที่ผ่านมา ภาพรวมของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เผชิญกับแรงกดดันจากปัจจัยสำคัญต่าง ๆ อาทิ ภาวะเศรษฐกิจโลก หนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินจากอัตราหนี้เสียที่เพิ่มสูงขึ้น
ส่งผลให้กำลังซื้อในประเทศยังคงชะลอตัว เนื่องจากผู้บริโภคยังคงไม่มีความพร้อมทางการเงินสำหรับการซื้อทรัพย์สินราคาสูงดังเช่นที่อยู่อาศัย ซึ่งในปี 2568 จะยังคงเป็นปีแห่งการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงสำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ
บริทาเนียจึงมีแผนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) โดยจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนในครั้งนี้บางส่วนไปใช้ในการชำระคืนหนี้เงินกู้ยืมจากบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
ส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Debt to Equity ratio: D/E) ลดลง ทำให้บริษัทสามารถลดภาระหนี้สิน ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการกู้ยืมเงินของบริษัทได้ ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความมั่นคงทางการเงินของบริษัท ให้มีโครงสร้างเงินทุนและอัตราส่วนทางการเงินที่เหมาะสม รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
โดยบริทาเนียจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) จำนวน 853,081,100 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 1:1 และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ
ทั้งนี้ บริษัทจะนำแผนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนรวมถึงการออกใบสำคัญแสดงสิทธิดังกล่าว นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทในวันที่ 24 เมษายน 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป
Eden Ekkamai ชูแนวคิด “One Family, Three Residences” นิยามใหม่ของการอยู่อาศัย มอบสมดุลแห่งความผูกพันให้ทุกเจเนอเรชัน บนพื้นที่เริ่มต้น 777 ตร.ม.
7 hours
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลประกอบการปี 67 มียอดรับรู้รายได้ 3,696.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 588.04 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผล 0.34 บาท/หุ้น ปี 68 ตั้งเป้ายอดขาย 5,000 ล้านบาท
9 hours
แสนสิริ บุกงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 ส่งโปรฯเด็ด “สำราญดีล รับโปรชิลๆ 7 ต่อ*” รับส่วนลดสูงสุด 7 ล้าน* วันที่ 20-23 มี.ค. 68 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ
10 hours
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กวาดรายได้รวมปี 67 กว่า 11,985 ล้านบาท โชว์ยอด Backlog 44,562 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่อง 4 ปี
10 hours
สิงห์ เอสเตท เผยรายได้ปี 67 อยู่ที่ 15,095 ล้านบาท เติบโต 3% (YoY) พร้อมโชว์รายได้จากโรงแรมสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เตรียมจ่ายเงินปันผล 0.01 บาท/หุ้น
yesterday
เขียนรีวิวถูกใจเจ้มากค่ะ
Good job well done
ดีมากๆเลยค่ะ ลงบ่อยๆนะคะ