Favorite
The Gentry สุขุมวิท 101
"Never Lose Yourself"
ห้องประกาศซื้อ-ขาย The Gentry สุขุมวิท 101
หลังจากคราวก่อนได้รีวิวความน่าสนใจของบ้านเท่ๆในย่านสุขุมวิทอย่าง The Gentry สุขมวิท 101 กันไปแล้ว วันนี้เราจะพามาชมโครงการจริงๆกันบ้างครับว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง สำหรับท่านที่ยังไม่เคยอ่านรีวิวตอนแรกในเรื่อง concept และ โลเคชั่นของ The Gentry สามารถอ่านได้โดย
เราเข้าซอยสุขุมวิท 101 จากปากซอยก็ตรงมาเรื่องๆครับ ขับรถประมาณ 5 นาทีก็มาถึงละครับ ระหว่างทางมีของกินตลอดนะครับ เห็นมีตลาดด้วยครับ
ถึงละครับ The Gentry ทางเข้าโครงการ อิฐสีแดงๆแบบนี้ เข้ากับกับ Concept " Red Hook Brooklyn" เลย เท่มากๆครับ
ป้อม รปภ.ที่นี่เข้มงวดสุดๆเลยครับ สอบถามทุกอย่าง เป็นใคร มาจากไหน มาหาใคร ถ้าคนข้างในไม่ให้เข้านี่คือเข้าไม่ได้เลยนะครับ Premium Security จริงๆ
เข้ามาแล้วจะเจอวงเวียนน้ำพุ ด้านหลังจะเป็นส่วนของ คลับเฮ้าส์ของโครงการครับ ตอนแรกเห็นจากภาพว่าสวยแล้ว แต่ของจริงดูสวยกว่านะครับ
ขอพาดู คลับเฮ้าส์กันก่อนละกันนะครับ ดูออกแนว Industrial Loft เท่ๆดิบๆดีครับ สไตล์นี้กำลังฮิตเลยครับ แต่ส่วนใหญ่เป็นคอนโด ไม่เคยเห็นใครเอามาทำเป็นหมู่บ้านเท่าไร มี SC Asset นี่แหละครับ ที่กล้าฉีกแนว
สระว่ายน้ำ เป็นสระที่อยู่ใต้อาคารคลับเฮ้าส์ ใครชอบว่ายน้ำแต่กลัวแดด แบบนี้มาว่ายได้สบายเลยครับ ไม่ร้อน ไม่ดำด้วย
มีส่วนของห้องสมุด เชื่อมต่อกับพื้นที่ของสระว่ายน้ำ
ห้องออกกำลังกาย
จริงๆโครงการยังมีสวนตรงกลางหมู่บ้านด้วยนะครับ แต่วันที่ไปดู ยังลงต้นไม้ไม่เสร็จครับเลยไม่ได้เก็บรูปมา งั้นเอาภาพไปดูก่อนละกันครับ
เอาล่ะครับมาดูบ้านกันบ้างดีกว่า บ้านที่เราจะพามาดูวันนี้ จะเป็นแบบบ้าน หลังเกือบใหญ่ที่สุด ที่เรียกว่าแบบ Manhattan ขนาดที่ดินประมาณ 60 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 448 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ส่วนพักผ่อน 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
ประตูหน้าบ้านออกแบบและทำจากไม้อย่างดี เมื่อเข้าสู่ตัวบ้าน จะเจอ Foyer (โถงทางเข้าบ้าน) ที่พื้นปูด้วยหินแท้นำเข้าจากอิตาลีซึ่งเป็นลวดลายที่สั่งทำพิเศษเฉพาะโครงการนี้เท่านั้น โดยถ้าสังเกตจะเห็นว่าด้านซ้ายมือจะมีประตูกระจกสไลด์ซึ่งประตูนี้จะใช้เวลาเข้าจากบริเวณลานจอดรถหน้าบ้านได้อีกทางด้วยครับ
โถงห้องรับแขก แนวคิด "vertical living" เพดานสูงถึง 7 เมตร นอกจากนี้ผนังยังใช้กระจกหน้าต่างบานสูงติดตั้งให้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้บ้านดูโปร่งและสว่าง โดยจะสามารถเห็นวิวรอบๆบ้านได้หมด โดยที่ชั้น 1 ของบ้านจะปูด้วยกระเบื้องหินที่นำเข้าจากอิตาลีทั้งหมด
โดยโถงส่วนรับรองแขกจะเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งสามารถวางโต๊ะอาหารชุดใหญ่นั่งได้ถึง 8 คนเลยครับ
พื้นที่ของบริเวณทานอาหารจะเชื่อมต่อกับส่วนครัวของบ้านซึ่งเป็น Double Kitchen โดยส่วนภายในบ้านจะเป็นส่วนของครัวฝรั่งและถ้าเปิดประตูออกไปหลังบ้านจะมีพื้นที่ทำครัวไทยได้ด้วย
แน่นอนครับ บ้านระดับนี้ต้องมี maid แน่นอน โดยถัดจากครัวไทยจะเห็นว่ามีประตูห้องอยู่ ห้องนี้เป็นส่วนของห้อง maid ซึ่งจะมีห้องน้ำในตัว ดูจากขนาดห้องแล้ว ถ้า maid มีของไม่เยอะก็อยู่กันได้ถึง 2 คนแบบเบียดๆหน่อย แต่ถ้าเอาสบายๆคนนึงก็กำลังดี
อีกฝั่งนึงของบริเวณบ้านชั้น 1 จะมีห้องเอนกประสงค์ สามารถใช้เป็นห้องทำงาน ดูทีวี หรือใช้สำหรับรับรองแขกที่มาค้างก็ได้ โดยเฉพาะถ้าบ้านเรามีคนสูงอายุก็สามารถทำเป็นห้องนอนได้ด้วย ไม่ต้องเดินขึ้นลงบ้านให้อันตรายด้วยครับ
ห้องน้ำที่ชั้น 1 จะอยู่หน้าห้องเอนกประสงค์ ซึ่งจะมีส่วน Shower สามารถอาบน้ำจริงจังได้เลย สำหรับคนที่พักอาศัยในห้องเอนกประสงค์ก็สามารถใช้ได้สะดวก ไม่ต้องขึ้นไปอาบชั้นบน (โดยทั่วไปห้องน้ำชั้นล่างของบ้านะจะไม่ได้มีพื้นที่อาบน้ำนะครับ ส่วนใหญ่จะใช้เป็นส่วน Powder (สำหรับขับถ่ายอย่างเดียว) สุขภัณฑ์นำเข้าของ kohler
ขึ้นไปดูชั้น 2 กันบ้างดีกว่าครับ ตัวบันได้เป็นไม้มะค่าแท้นะครับ ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งที่ทนและแข็งแรงมาก ถือเป็นไม้อย่างดีมากๆในการทำบันได ทนมอดทนปลวกได้ดีอีกด้วย
พื้นชั้น 2 และชั้น 3 จะปูด้วย engineering wood นะครับ โดยที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่หลักๆ 3 ส่วนคือ
- Vertical Living
- Laundry Room
- Master Bedroom
- Vertical Living คือส่วนของห้องนั่งเล่นแบบ " Vertical Living" โดยจะเชื่อมต่อกับโถงห้องนั่งเล่นชั้น 1 ทำให้เห็นวิวได้ทางหน้าบ้านและชั้นล่างด้วย และด้านข้างยังมีหน้าต่างบานใหญ่ที่สามารถมองไปเห็นสวนบริเวณข้างๆบ้านของเราได้ด้วย การที่ได้ช่องแสงเยอะๆแบบนี้จะช่วยให้บ้านรู้สึกโปร่งและโล่งขึ้นเยอะเลยครับ โดยพื้นที่นั่งเล่นบริเวณนี้จะเหมาะที่จะเป็นพื้นที่ของครอบครัวที่จะมานั่งดูทีวีหรือทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันก่อนแยกย้ายกันเข้านอน เพราะจะสะดวกกว่าใช้พื้นที่ห้องนั่งเล่นบริเวณชั้นล่างแล้วต้องเดินขึ้นมานอน
- Laundry Room นอกจากนั้นชั้น 2 ยังมีฟังชั่นพิเศษ อย่างห้อง laundry ให้อีกด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกให้ สามารถ ซัก-ตาก-รีด ที่ชั้น 2 ได้เลย จะสะดวกและเพิ่มความเป็นส่วนตัวได้มาก เพราะถ้าจะให้ maid ทำด้านล่าง เค้าจะต้องซักและตากผ้าที่หลังบ้านบริเวณใกล้ๆครัวและเวลารีดเค้าจะต้องเข้าไปรีดในห้องนอนของเค้าและยังต้องถือเสื้อผ้าขึ้นมาเก็บให้เราโดยเดินผ่านบริเวณห้องนั่งเล่น แต่ถ้ามีห้องแบบนี้ จะสามารถทำใช้งานได้ดีกว่ามากและเป็นส่วนตัวด้วย ต้องยอมรับว่า SC Asset คิดจุดนี้มาละเอียดจริงๆ
- Master Bedroom พื้นที่อีกเกือบครึงนึงของชั้น 2 จะเป็น Master Bedroom ที่ต้องบอกว่าใหญ่มากๆเลยครับ คือในห้องนอนยังมีพื้นที่ที่สามารถใช้เป็นห้องนั่งเล่นอยู่ภายในอีกด้วย
ในห้องน้ำก็ใหญ่มากๆเช่นกัน โดยจะใช้สุขภัณฑ์นำเข้าของ kohler และอ่างอาบน้ำของ bathroom design
และยังมี Walk-in Closet His and Her ขนาดใหญ่มากๆ แบ่งแยกกันเลยของผู้ชายฝั่งนึง ของผู้หญิงฝั่งนึง แบบนี้ใครเสื้อผ้าเยอะ ต้องชอบแน่นอนครับ
ขึ้นมาดูชั้น 3 กันบ้างครับ เมื่อขึ้นมาถึงชั้น 3 จะเห็นเป็นพื้นที่ของช่อง Void ที่เชื่อมมาจากชั้น 2 ซึ่งจะให้ความรู้สึกบ้านดูโปร่งโล่งขึ้นมากเลยครับ เพราะนอกจากจะไม่เจอผนังทึบแล้วยังมีช่องแสงเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะเห็น SC Asset ให้ความสนใจตรงจุดนี้มาก เพราะ Void แบบนี้จะมีทั้งจาก ชั้น 1 มาชั้น 2 และจาก ชั้น 2 มาชั้น 3 ใครที่ชอบไฟแต่งบ้านด้วยไฟแชนเดอเลีย (Chandelier) ที่นี่มีให้ทำได้ 2 จุดเลยครับ
โดยที่ชั้น 3 นี้จะมีพื้นหลักๆ 4 ส่วนคือ
- ระเบียง (Panoramic Living Balcony)
- ห้องพระ
- ห้องนอนที่ 2
- ห้องนอนที่ 3
- ระเบียง (Panoramic Living Balcony ) เมื่อเข้าสู่พื้นที่ชั้น 3 พื้นที่บริเวณหน้าห้องนอนจะมีส่วนที่เป็นเค้าเตอร์เล็กๆที่สามารถทำเป็นส่วนของมินิบาร์ได้ เนื่องจากชั้นนี้มีบริเวณระเบียงที่ใหญ่มากพอจะจัดปาร์ตี้เล็กๆหรือตั้งโต๊ะทานอาหารกันได้เลย ดังนั้นพื้นที่ส่วนมินิบาร์ได้จะมีประโยชน์มากๆในการใช้วางอาหารเครื่องดื่มต่างๆ
- ห้องพระ ส่วนห้องที่อยู่หลังเค้าเตอร์มินิบาร์ จะเป็นห้องพระครับ ซึ่งมีประตูเปิดปิดได้ด้วย
- ห้องนอนที่ 2 ลองสังเกตที่หน้าต่างนะครับ จะเห็นว่าม่านถูกเก็บพับขึ้นไปถึงเพดานเลย เพราะตรงนี้เค้าออกแบบหน้าต่างเป็นแบบ Skyline Window ที่จะเป็นกระจกขึ้นไปถึงมุมเพดานเลย ซึ่งจะช่วยให้เห็นมุมเปิดกว้างถึงท้องฟ้าด้านบนมากขึ้น ใครชอบนอนมองดูดาวตอนกลางคืนต้องชอบแน่ๆ
ห้องน้ำของห้องนอนที่ 2 ครับ โดยพื้นที่หน้าห้องน้ำยังสามารถทำเป็น Walk-In Closet ได้ด้วย
- ห้องนอนที่ 3 ขนาดห้องใหญ่พอๆกับห้องนอนที่ 2 ครับ
ส่วนของห้องน้ำและเช่นเดียวกันพื้นที่หน้าห้องน้ำยังสามารถทำเป็น Walk-In Closet ได้ด้วย
จะเห็นว่าแม้จะไม่ใช่ Master Bedroom แต่ห้องนอน 2 และ 3 ก็มีขนาดใหญ่มากๆเลยครับ
สำหรับบ้านระดับนี้ เรื่องความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆสำหรับผู้อยู่อาศัย ดังนั้นที่นี่ จึงติดตั้งสัญญาณกันขโมยนำเจ้าจาก Italy ของ inim โดยจะโชว์เป็นภาพ 3 มิติของผังบ้านทั้งหลัง ซึ่งถ้ามีการบุกรุกจากจุดไหน จะแสดงตำแหน่งขึ้นที่หน้าจอทันที ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในบ้าน ต่อให้คุณไม่อยู่คุณก็จะได้รับการแจ้งเตือนทันที
ส่วนเครื่องสีดำๆจะเป็น VDO Call phone ซึ่งเชื่อมต่อกับป้อม รปภ. หน้าหมู่บ้าน โดยถ้าเรามีแขกมาหาทางป้อมจะส่งสัญญาณภาพมาให้เราดูก่อนว่าเป็นใคร เพื่อจะให้เราอนุญาตว่าให้เข้ามาหาได้หรือเปล่า นอกจากนั้นทางโครงการยังติดตั้งกล้องวงจรปิดให้อีก 5 ตัวด้วย โดยจะมีที่หน้าบ้านหลังบ้านอย่างละจุด และ อยู่ในบ้านอีกชั้นละจุด
ต้องบอกก่อนนะครับ ว่าหลังที่เราพามาชมเป็นแบบ Manhattan หลังใหญ่ของทางโครงการเลย แต่ถ้าใครไม่ได้ต้องการพื้นที่เยอะขนาดนี้ก็ยังมีแบบอื่นๆให้เลือกนะครับ
อย่างเช่น บ้านแฝดแบบ Queens เนื้อที่ประมาณ 46 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 302 ตร.ม. 3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ส่วนพักผ่อน 3 ที่จอดรถ
หรือถ้าใหญ่ขึ้นมาอีกนิดเป็นแบบ แบบ Brooklyn เนื้อที่ประมาณ 50 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 361 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ส่วนพักผ่อน 3 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
แบบไหนที่เหมาะกับเรา ลองแวะมาดูบ้านจริงกันกันก่อนได้เลยครับ
The Gentry สุขุมวิท 101 เป็นบ้านที่เหมาะกับนักธุรกิจที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่เริ่มรู้สึกว่าพื้นที่ห้องของคอนโดในเมืองมันเล็กเกินไป แล้วต้องการหาบ้านที่มีเอกลักษณ์และอยู่ในโลเคชั่นที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตแบบคนเมือง
จริงๆแล้วถือว่าราคาไม่แพงนะครับ ถ้าเทียบคอนโดติดรถไฟฟ้าย่านนี้ ราคาต่อตรม.เฉลี่ยที่ 150,000 บาทต่อตร.ม. แต่สำหรับ Gentry ถ้าหารออกมาจะอยู่ที่ 60,000-70,000 บาทต่อตารางเมตรเองครับ ที่สำคัญจอดรถได้หลายคันด้วย ไม่ต้องมีปัญหาที่จอดเหมือนอยู่คอนโด
นอกจากนั้นบ้านแบบนี้นับวันยิ่งเป็นทรัพย์สินที่จะยิ่งหายากขึ้นเรื่อยๆนะครับ เพราะต้นทุนที่ดินในย่านสุขุมวิทตอนนี้ไม่สามารถพัฒนาเป็นบ้านได้แล้วครับ เพราะที่ดินแพงมากๆ ดังนั้นถ้าใครมองถึงการลงทุน ที่นี่ก็เป็นที่จะเพิ่มมูลค่าขึ้นแน่นอนครับในอนาคต
โดยโครงการนี้ทางบริษัทจะทำเป็นบ้านสร้างเสร็จก่อนขายนะครับ แต่ได้ยินว่าบางคนสนใจมากขอจองก่อนสร้างเสร็จก็ได้ ปัจจุบันมีการเริ่มก่อสร้างไปแล้วพอสมควรครับ ทางโครงการมีกำหนดเปิดขายและให้ชมบ้านจริงในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560 ใครสนใจลองไปลงทะเบียนกันก่อนได้เลยครับ
ราคาเริ่มต้น 25 ล้านบาท*
โดยจะมีส่วนลดพิเศษตอนวัน Pre-sale ให้ด้วย
ลงทะเบียนเพื่อรับส่วนลด คลิกที่นี่
สอบถามเพิ่มเติมโทร 1749
หมายเหตุ : บ้านที่ทีมงานพาไปชมเป็นบ้านตัวอย่างนะครับ บ้านจริงจะไม่ได้ตกแต่งแบบนั้นทั้งหมดนะครับ ส่วนรายการไหนที่แถมให้บ้างหรือช่วงนี้มีโปรโมชั่นอะไรบ้างสามารถติดต่อขอชมบ้านพร้อมสอบถามฝ่ายขายได้เลยครับ
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ใช้ภาษาเข้าใจง่ายดีค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ เขียนดี รอติดตาม
ดีมากกกกก ชอบสุดๆ ให้ข้อมูลดีมากๆ
อ่านยังไงให้เสียตังงงงงงงง เขียนแบบนี้ต้องเสียตังแน่ๆ
ได้ประโยชน์มากๆ อ่านสนุกดี
อันนี้รีวิวหรือวิทยานิพนธ์คะ ละเอียดจริงๆ สุดยอดเลยค่ะ