"ซีแพนเนล" โตตามตลาดพรีแคสต์ ปีระกาขยายฐานจิกรับเหมาภาครัฐ

ซีแพนเนล ผู้ผลิตผนังสำเร็จรูปพรีแคสต์ ตั้งเป้ารายได้โต 23% ขยายตลาดเอกชนรายกลาง-จีบผู้รับเหมาภาครัฐ ประเมินมูลค่าตลาดรวม 3,000 ล้านบาท มีโอกาสโตต่อเนื่อง 30-40% อีก 2-3 ปี

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด ผู้ผลิตผนังคอนกรีตสำเร็จรูปหรือพรีแคสต์ เปิดเผยว่าผลดำเนินงานปี 2559 บริษัททำรายได้ 300 ล้านบาทเป็นไปตามเป้าหมาย แม้ช่วงไตรมาส 4/59 ตลาดซบเซาลง โดยมีแบ็กล็อกสะสม 320 ล้านบาท รับรู้รายได้ถึงปี 2561

แผนธุรกิจปี 2560 ตั้งเป้ารายได้ 370 ล้านบาท เติบโต 23% จากปีก่อน โดยขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น จากปกติบริษัทมีลูกค้า 70-80% เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ที่เหลืออีก 20-30% เป็นผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก ปีนี้จะเน้นการเพิ่มลูกค้าเอกชนรายกลาง-เล็ก และบริษัทหน้าใหม่ซึ่งมีแนวโน้มอาศัยช่องว่างตลาดพัฒนาคอนโดมิเนียมขนาดเล็กมากขึ้น เนื่องจากแนวโน้มบริษัทรายใหญ่ชะลอการเปิดตัวคอนโดฯโครงการใหม่ รวมถึงสนใจตลาดงานประมูลภาครัฐโดยบริษัทเป็นซัพพลายเออร์ให้กับผู้รับเหมาภาครัฐอีกต่อหนึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างรอสัญญาลูกค้าโครงการรัฐ 3 ราย

ทั้งนี้ โรงงานพรีแคสต์ซีแพนเนลมีคาพาซิตี้ 4.3 แสน ตร.ม./ปี ปัจจุบันใช้กำลังผลิต 60-65% สินค้าส่วนใหญ่ 70-75% เป็นผนังคอนกรีตรับน้ำหนัก อีก 25-30% เป็นพื้น คาน บันได สามารถผลิตได้ใน 60 วันนับตั้งแต่เริ่มออกแบบบ้าน ทดลองผลิตประกอบจนถึงเสร็จสิ้นการผลิต

นายชาคริตกล่าวว่า จากการประเมินตลาดพรีแคสต์โดยรวมมีมูลค่า 2,000-3,000 ล้านบาท และมีผู้ผลิตรายใหญ่ 3 ราย คือ เอสซีจี, ซีแพนเนล และเจนเนอรัล เอนจิเนียริ่ง (GEL) ปี 2559 ตลาดรวมมีการเติบโต 30-40% คาดว่าสามารถคงระดับการเติบโต 30-40% ไปได้อย่างน้อย 2-3 ปี เนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดตลาดใหญ่ขึ้นทุกปี ทำให้บิ๊กแบรนด์รายใหญ่ที่ใช้ระบบพรีแคสต์อยู่แล้วมีอัตราเติบโตของการใช้วัสดุก่อสร้าง รวมทั้งบริษัทรายกลาง-รายเล็กหันมาใช้พรีแคสต์ในไซต์ก่อสร้างโครงการมากขึ้น จากเดิมก่อสร้างโดยระบบก่ออิฐฉาบปูน

"เหตุผลสำคัญที่หันมานิยมใช้พรีแคสต์มากขึ้น เพราะระบบก่อสร้างสำเร็จรูปทำให้คำนวณต้นทุนได้แม่นยำกว่าการก่ออิฐฉาบปูน มีการพัฒนาคุณภาพงานเหมือนก่ออิฐ ใช้เวลาออกแบบจนถึงผลิตสั้นลงมากจากเดิม 8-10 เดือน เหลือเพียง 60 วัน ในขณะที่ต้นทุนราคาสูงกว่าไม่เกิน 5%"

นายชาคริตกล่าวตอนท้ายว่า ภาวะการแข่งขันต่อจากนี้เชื่อว่ามาจาก 2 จุดสำคัญ 1.ด้านการบริการ เน้นสร้างความพึงพอใจให้ประสบการณ์ที่ดีกับลูกค้า เพราะอสังหาฯยุคนี้มีการตลาดเป็นตัวนำ จำเป็นต้องยืดหยุ่นสูงเพราะอาจมีการเปลี่ยนแบบก่อสร้างกะทันหันก่อนเปิดขายเพื่อให้ตอบสนองตลาด ซึ่งผู้ผลิตพรีแคสต์ต้องเข้าใจและปรับเปลี่ยนแบบให้ได้ตามต้องการ 2.การผลิตให้ทันตามเดดไลน์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า สามารถส่งมอบบ้านได้ตามกำหนด

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1487161595