คนพญาไทฮือ สนง.เขต ถกเครียด ค้านคอนโดประชารัฐ พหลโยธิน 11

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 มีนาคม ที่สำนักงานเขตพญาไท นางกนกรัตน์ พันธ์นรา ผู้อำนวยการเขตพญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา ,กรมธนารักษ์ เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ประชุมร่วมกับชาวบ้าน กลุ่มชมรมอนุรักษ์พญาไท ซอย5,7,9,11 และบริเวณข้างเคียง นำโดยนายสมวงศ์ โปษยานนท์ ประธานชมรม เพื่อหารือถึงสภาพความเป็นอยู่ กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นในพื้นที่เขตพญาไท รวมถึงพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหา หลังจากชมรมดังกล่าวได้ร้องเรียนขอให้พิจารณาทบทวนโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐซอยพหลโยธิน11 โดยบรรยากาศมีสื่อหลายสำนักมารอทำข่าว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในที่ประชุมเป็นไปด้วยความตึงเครียด โดยทางชาวบ้านได้นำข้อมูลมาชี้แจงถึงผลกระทบที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ในที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องที่จอดรถในชุมชนและละแวกใกล้เคียงที่มีไม่เพียงพอ และคับแคบ การขายของบนทางเท้า จนไม่มีที่ให้เดิน รวมถึงการก่อสร้างหลายโครงการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่สอดคล้องกับสภาพพื้นที่ที่มีอยู่ และในเวลากลางคืนมีเสียงการก่อสร้างและฝุ่นละอองจำนวนมาก ขณะเดียวกันย่านดังกล่าวจะ มีธุรกิจซ่อมแอร์ ซ่อมรถจักรยานยนต์ พ่นสี และร้านอาหารเกิดขึ้นมากมาย จำนวนขยะเพิ่มมากขึ้น ล้นนอกถังขยะที่มีจำนวนไม่เพียงพอ ทำให้มีคนต้องวางบนฟุตบาท เมื่อคนเดินก็ต้องลงไปบนถนน เสี่ยงต่อการถูกรถชน

ระหว่างการประชุมเกิดการถกปัญหาเกี่ยวกับการอนุมัติให้มีการสร้างคอนโดมิเนียมสูง ผิดพ.ร.บ.อาคารก่อสร้างของโครงการต่างๆ ซึ่งหนึ่งในรายละเอียดเป็นเรื่องกฎหมายพ.ร.บ.อาคารก่อสร้าง อาทิ เรื่องการวัดความสูงของอาคาร และการวัดพื้นที่รอบอาคาร ซึ่งไม่ตรงกัน โดยทางชมรมได้แนะวิธีการวัดแก่เจ้าหน้าที่เขตฯ นอกจากนี้ยังมีกรณีที่มีการสร้างคอนโดมีเนียมสูงใกล้ชุมชนมาก และส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านของประชาชนหลายหลัง ตั้งแต่การลงเสาเข็มทำให้บ้านหลายหลังมีรอยร้าวตั้งแต่ชั้นล่างถึงชั้นบน จนเป็นเหตุให้บางหลังต้องรื้อถอน เนื่องจากได้รับความเสียหายทางโครงสร้าง จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ เป็นต้น

ขณะที่ซอยพหลโยธิน 11 เป็นถนนที่ถูกมองว่าสวยมาก เพราะมีต้นไม้ตลอดสาย ให้ความร่มรื่น แต่เมื่อมีการเตรียมการสร้างอาคารของกรมธนารักษ์ ต้นไม้ถูกตัดแล้ว 5 ต้น ซึ่งหลายๆครั้งที่เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าเพราะพื้นที่เขตพญาไทมีความเจริญ โดยทางชมรมอยากบอกว่าตอนนี้ไม่ได้มองว่าเขตพญาไทมีความเจริญแล้ว แต่กลับมองว่าเป็นความแออัด ความเละเทะ โดยชมรมต้องการความสะอาด ชีวิตความเป็นอยู่ในการใช้ชีวิตแบบปกติกลับคืนมา

นอกจากนี้ยังมีการเตรียมก่อสร้างคอนโดมีเนียมหรู ซึ่งอยู่ ห่างจากที่ทำการสำนักงานเขตพญาไทเพียง 100 เมตร ยึดทางเท้าสาธารณะเป็นที่ก่อสร้าง และยังนำรถมาจอดริมถนนจำนวนมาก และยังเป็นการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ปล่อยขยะและดินโคลนลงท่อระบายน้ำอีกด้วย

นายสมวงศ์ กล่าวว่า อยากขอความมั่นใจว่า ถ้ามีคอนโดสูงเกินกฎหมายกำหนด อยากทราบว่าทางเจ้าหน้าที่เขตฯจะมีมาตราการอย่างไรให้ประชาชนมั่นใจ และก่อนที่ผอ.เขตที่จะอนุมัติโครงการ8 ชั้นนั้น ขอให้ทำเป็นมาตราการเป็นหนังสือทางการว่าจะทำอย่างไรเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ทั้งนี้ความตั้งใจที่แท้จริงพวกตนคือมาช่วยผอ.เขต ไม่ได้มีเจตนาจะมาทะเลาะ หรืออะไร แต่เราอยากมาช่วยแก้ปัญหา เพราะอยู่ตรงนี้มานานมาก เราเห็นมาตลอด เลยอยากจะบอกให้เห็นปัญหาจริงๆ

ขณะที่นางกนกรัตน์ ผอ.เขตฯ กล่าวว่า ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่ให้มาเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นเสียงสะท้อนปัญหาที่แท้จริง โดยเรามีพี่เลี้ยง ทั้งหน่วยงานจากกรุงเทพฯ สมาชิกสภากรุงเทพฯ สำนักการโยธา ควบคุมอาคาร สำนักการผังเมือง สำนักการระบายน้้ำ สำนักการจราจรและขนส่ง ซึ่งทำงานร่วมกับตำรวจสน.บางซื่อ เจ้าของพื้นที่ด้วย ทั้งนี้มีโครงการจับรถเร่ขายของเสียงดังตามที่ชาวบ้านร้องเรียน โดยทำร่วมกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ และสน.บางซื่อซึ่งทำให้ลดน้อยลงแล้ว

นางกนกรัตน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีการจัดการผู้ค้าบนทางเท้า อยู่ระหว่างทยอยจัดการทีละส่วน ทีละสถานที่ เพื่อให้เวลาผู้ค้าที่ทำมาหากินในการติดต่อร้านค้า หรือตลาด ซึ่งต้องเข้าใจว่าขอเวลาให้พวกเขาด้วย ทั้งนี้ในส่วนของอาคารที่ร้องเรียนมานั้น เราจะเร่งตรวจสอบอาคารที่ชมรมกล่าวมา ซึ่งจากที่ฟังตนพบว่าเป็นปัญหามาช้านาน ยืนยันเจ้าหน้าที่เขตฯไม่นิ่งนอนใจ เรามีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขประชาชน และจะนำความสะดวกสะอาดตามที่ประชาชนบอกว่าหายไปกลับคืนมา

นางกนกรัตน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามอยากให้เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่เขตฯต้องดำเนินการแต่ละกรณีไป ขอเวลาในการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ไม่เพียงพอ ทั้งนี้ยอมรับว่าปริมาณคนและความรู้ความสามารถในทางเฉพาะบางอย่างของสำนักงานเขตฯไม่เพียงพอ อาจต้องขอความร่วมมือ ความช่วยเหลือจากประชาชน ยืนยันจะเร่งดำเนินการกรณีนี้ทันที นอกจากนี้สำหรับปัญหาน้ำท่วมในซอยพหลโยธิน สำนักงานเขตได้งบประมาณมาแล้ว จะเร่งดำเนินการให้เสร็จเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. นางกนกรัตน์ เปิดโอกาสให้ตัวแทนกรมธนารักษ์ ชี้แจงถึง โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐซอยพหลโยธิน11 โดยตัวแทนได้เปิดสไลด์เพื่อโชว์รูปแบบแนวคิดการก่อสร้างดังกล่าว

น.ส.ชุติมา ศรีปราชญ์ ตัวแทนกรมธนารักษ์ กล่าวว่าโครงการดังกล่าวเกิดเพื่อให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยได้อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว โดน50-60เปอร์เซ็นต์เป็นข้าราชการของกระทรวงการคลัง และที่เหลือเป็นข้าราชการจากหน่วยอื่นๆ โดยเน้นข้าราชการเข้าใหม่ เงินเดือนไม่เกิน 20,000 บาท โดยแต่เดิมที่ดังกล่าวเป็นโรงกษาปณ์ เมื่อย้ายไปเราก็ขอใช้พื้นที่ เนื่องจากสภาพตรงนั้นทรุดโทรมมาก จึวต้องการปรับปรุงและบูรณะใหม่ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายรัฐอยากให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัย ก็เล็งเห็นว่าเจ้าหน้าที่เราเองก็ไม่มีที่อยู่อาศัยในกทม. แทนที่จะให้เอกชนนำที่ไปสร้าง เราก็น่าจะดูแลคนของเราเอง โดยคิดอัตราค่าเช่าไม่เกิน 4,000บาท และกำหนดไม่ให้อยู่เกิน5 ปี เพราะเกรงว่าจะเหมือนข้าราชการทั่วไปที่อยู่ครั้งเป็นข้าราชการระดับล่างแต่เมื่ออยู่ก็อยู่นานไปจนถึงระดับสูง ซึ่งจะไม่ได้ช่วยเหลือข้าราชการชั้นผู้น้อยที่แท้จริง อย่างไรก็ตามเรื่องจราจรที่ิติดขัดนั้น ขอชี้แจงว่าได้มีการตรวจสอบ อยู่ระหว่างดำเนินการ รวมถึงเรื่องอาคารด้วย

น.ส.ชุติมา กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงว่าไม่ทราบว่ามีการร้องเรียนกรณีที่ให้เอกชนมารื้อถอนสิ่งก่อสร้าง โดยทางบริษัทก็ทำให้ เกิดฝุ่น รบกวนด้านเสียง สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนขนาดนี้ ทั้งนี้เหลือส่วนของการรื้อถอนแทงค์น้ำ จะกำชับกับบริษัทให้ระมัดระวัง และดำเนินการให้เรียบร้อยที่สุด และจะให้เบอร์โทรศัพท์กรมธนารักษ์ไว้ เผื่อมีอะไรให้แจ้งความเดือดร้อนได้เลย

ทั้งนี้ยอมรับ ว่ามีการเปิดการรับจองและลงชื่อแล้วจริง ในส่วนของการจราจรนั้น ที่ประชาชนเกรงว่าจะติดขัด นั้นขอชี้แจงว่า จากโครงการดังกล่าวจะใช้ทางเข้าและออกเป็นซอยพหลโยธิน11 และถนนประดิพัทธ์ 6 โดยได้ทำหนังสือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอใช้พื้นที่ในการระบายรถ กรณีมีจราจรติดขัดด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดระยะเวลาการชี้แจงนั้น เป็นไปด้วยความเคร่งเครียด เนื่องจากทางชมรมที่อาศัยอยู่ในพื้นที่พยายามซักถามหลายๆประเด็น ซึ่งเมื่อตัวแทนกรมธนารักษ์ได้ตอบคำถาม ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ และขอให้ยกเลิกโครงการดังกล่าวเสีย พร้อมเสนอแนะให้ใช้ที่จุดอื่นสร้างแทน เนื่องจากที่ดังกล่าวมีความแออัดแล้ว กระทั่งเกิดการถกเถียงกันอย่างเคร่งเครียด จนทางตัวแทนกรมธนารักษ์ขอเวลากลับไปรายงานผู้บังคับบัญชา และนางกนกรัตน์ ผอ.ได้เสนอให้ใช้ห้องประชุมของสำนักงานเขตพญาไท ในการมาประชุมหารือกันในครั้งหน้า ก่อนจะจบการประชุมในเวลา 13.50 น.

ขอบคณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1488623495