คอนโดรถไฟฟ้าขายฝืด สายสีม่วงอ่วมสุด-LPN ดิ้นดึงคนมีเงินช็อปห้องถูกเก็งกำไร

คอนโดฯแนวรถไฟฟ้ากทม. ล้นกว่า 4 หมื่นหน่วยจากกำลังซื้อฝืด แอลพีเอ็นยอมรับปีนี้ตลาดยังไม่ฟื้นลด 40% ยังไร้ผล ล่าสุดสาดแคมเปญดึงคนมีเงินเหมาของถูก 1 หมื่นหน่วยเก็งกำไร-เช่า แทนฝากแบงก์ ด้าน“โลจายะ” สวนทางเปิดอีก 2,700 หน่วยสะพานพระนั่งเกล้า

ไม่เพียงเฉพาะคอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดเท่านั้นที่ โอเวอร์ซัพพลาย เมื่อเอ็กซเรย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลด้วยแล้วพบว่า แม้จะมีรถไฟฟ้าเป็นแม่เหล็กดูด แต่ กำลงซื้อกลับหดหายคนมีเงินไม่จับจ่าย ปัจจัยหลักเกิดจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น กลุ่มลูกค้าระดับล่างไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลพีเอ็น ดีเวล็อปเม้นต์ จำกัด(มหาชน) (LPN) เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่ายอมรับว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้ยังซบเซาต่อเนื่อง ยังไม่ดีจริงตามที่หลายค่ายการันตี และมีคอนโดมิเนียมรอการขายจำนวนมากของหลายค่าย

โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมของบริษัท ในเขตกทม.-และปริมณฑลรอการขายกว่า 10,000 หน่วยระดับราคา 1 ล้านต้นๆ ซึ่งล้วนเป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ ทั้งหมด คาดว่าจะระบายหมดในปี 2561ทั้งนี้แคมเปญล่าสุดแบ่งเป็น2 กลุ่ม กลุ่มแรก สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง แต่มีกำลังผ่อนไม่มากสามารถกู้แบงก์เข้าอยู่ได้ในระยะยาว ยอดผ่อนต่องวดต่ำไม่เกิน 4,000 บาทเหมือนเช่าอาพาร์ทเม้นต์อยู่อาศัย

กลุ่มที่ 2 เจาะกลุ่มคนมีเงิน หรือมีกำลังซื้อให้มาซื้อคอนโดเก่าราคาถูก พร้อมเข้าอยู่ของแอลพีเอ็น ที่สามารถซื้อเก็งกำไรขายต่อ ทำกำไร รวมทั้งให้เช่าหากซื้อไว้หลายห้องจะสามารถเพิ่มรายได้ระยะยาวได้ ซึ่ง ดีกว่านำเงินไปฝากแบงก์ที่ดอกเบี้ยแทบไม่ขยับ

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา บริษัทจัดแคมเปญ นำ 12โครงการ 250 หน่วย มูลค่า 300 ล้านบาท ลดราคา 40% เพื่อทดสอบกำลังซื้อ คนมีเงินที่จะออกมาช็อปของถูกหรือเหมาหลายๆหน่วย ปรากฏว่า ขายได้เพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น สะท้อนว่า ไม่มีกำลังซื้อจริง แต่บริษัทยังหวังว่า จะมีกลุ่มคนมีเงิน หรือเงินเย็นมาเหมาซื้อคอนโดของบริษัท ทำเลเหลือมากสุดคือรังสิต 3,000 หน่วย รวมถึง ทำเลสายสีม่วง ซึ่งพัฒนาตั้งแต่ปี 2555 กว่า 2,000 หน่วย ปัจจุบันเหลือ 50หน่วย ทางออกบริษัทหยุดพัฒนาโครงการขนาดใหญ่แต่เน้นพัฒนาโครงการเล็กไม่เกิน 500 หน่วยแทน

นายโอภาสระบุว่า ทำเลสายสีม่วงวันนี้กลายเป็นทะเลเลือดแต่ละค่ายบาดเจ็บขณะเดียวกัน ยังมีผู้ประกอบการกล้าเปิดตัวขณะนี้ คือ โครงการเดอะโพลิแทนอควา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สะพานพระนั่งเกล้า ทางออกบริษัทหยุดพัฒนาโครงการขนาดใหญ่แต่เน้นพัฒนาโครงการเล็กไม่เกิน 500 หน่วยแทน

"ฐานเศรษฐกิจ"สอบถาม พนักงานขาย โครงการเดอะโพลิแทน อควา บริษัทบางกอกรีวา จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บริษัทเอเวอร์แลนด์ จำกัด(มหาชน)ของ นายสวิจักร์โลจายะเริ่มพรีเซล 18-19 มีนาคมนี้ จำนวน 2,700 หน่วย โดยให้ส่วนลดสูงสุด 40,000 บาท ขณะที่โครงการแรก 2,500 หน่วย ขายแล้ว 90% นัดโอนปี 2562

นายวสันต์ คงจันทร์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โมเดิร์นพร็อพเพอร์ตี้คอนซัลแทนส์ กล่าวว่า บริษัท เอเจนซี่ฟอร์เรียลเอสเตทแอฟแฟร์ส (AREA) สำรวจว่า มีคอนโดเขตกทม.-ปริมณฑล เหลือขายกว่า1แสนหน่วยหนักสุดคือ สายสีม่วง

ขณะที่นาย สุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและพัฒนา คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) สะท้อนว่า โดยรวม คอนโดในเขตกทม.และปริมณฑลรอการขายจำนวน กว่า 40,000 หน่วย แยกเป็นกทม. 31,000 หน่วย อีก กว่า 10,000 เป็นปริมณฑล ทำเลวิกฤติคือสายสีม่วง เหลือขาย กว่า 10,000 หน่วย แยกเป็น ช่วงเตาปูน-วงสว่าง กว่า 2,000 หน่วยและ ฝั่งนนทบุรีอีก กว่า 8,000 หน่วย

ขณะที่ สมาคมอาคารชุดไทยระบุว่า มีสูงถึง 20,000หน่วย เข้าใจว่าน่าจะร่วม จำนวนหน่วยที่ ทิ้งดาวน์หรือ แบงก์ตีกลับปฏิเสธสินเชื่อแล้วนำกลับมาขายใหม่ รวมถึงโครงการที่เปิดใหม่ ส่วน ทำเลสุขุมวิทแนวรถไฟฟ้า ช่วงหมอชิต-แบริ่ง ยอดเหลือขาย 8,500 หน่วย ทำเลนี้ น่าจะดูดซัพชับพลายได้มากกว่าทำเลอื่น อย่างไรก็ดี การขายโครงการจะดีหรือไม่ดี ขึ้นอยู่กับทำเลและตอบโจทย์กลุ่มที่มีกำลังซื้อ

แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ย้ำว่า จำนวนหน่วยเหลือขายโดยเฉพาะค่ายใหญ่ แนวรถไฟฟ้าใจกลางเมือง มียอดเหลือขายจำนวนมาก และ ส่วนใหญ่ปรับเป็นโรงแรม ห้องเช่า สร้างความรำราญให้กับเจ้าของกรรมสิทธิ์ และมีการร้องไปยังกรมการปกครองกันมาก

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

http://www.thansettakij.com/content/135442