ช.การช่าง ท้าชิงเค้กทุกโปรเจ็กต์ เด้งรับปีทองรัฐเทกระจาดประมูลงาน9แสนล้าน

"ช.การช่าง" ชี้ปี"60 ปีทองรับเหมาก่อสร้าง เด้งรับโครงการยักษ์รัฐเทกระจาดประมูล 9 แสนล้าน ประกาศชิงเค้กทุกโปรเจ็กต์ 20-25% ทั้งทางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ สนามบิน ยัน EEC จ่อเซ็น 2 หมื่นล้านวางระบบสายสีน้ำเงิน คาดดันงานในมือทะลุแสนล้าน รับรู้รายได้ 3 ปี เฉลี่ย 3.5 หมื่นล้าน/ปี

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ช.การช่าง หรือ CK เปิดเผยว่า ปีนี้เข้าสู่ปีที่ 45 ที่บริษัทดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และพร้อมก้าวสู่การเป็นผู้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในประเทศและต่างประเทศในระดับภูมิภาคต่อไป ด้วยขีดความสามารถของบริษัทด้านวิสัยทัศน์ เทคโนโลยี กำลังคน และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง พร้อมเข้าร่วมประมูลหรือลงทุนทุกโครงการ 
 

ปัจจุบันรัฐบาลจัดเตรียมโครงการขนาดใหญ่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศทยอยเปิดประมูลมาเป็นระยะเวลา2 ปีแล้ว นับจากปี 2559 สำหรับปี 2560 มีงานอีก 9 แสนล้านบาทที่จะเปิดประมูลจนถึงปีหน้า ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ ทางด่วน รวมถึงโครงการจะรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
 

"ปีนี้และปีหน้าถือว่าเป็นปีที่ดี เป็นปีทองของรับเหมา และมีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต ซึ่งบริษัทมีศักยภาพ และเตรียมตัวพร้อมจะเข้าประมูลทุกโครงการ มีโอกาสได้งานใหม่อย่างน้อย 20-25% ขณะเดียวกันมองหาโอกาสขยายงานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว เมียนมา ที่ยังมีการลงทุนก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก"
 

ขณะนี้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่ 85,231 ล้านบาท อีก 1-2 เดือนนี้จะเซ็นสัญญากับ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) รับงานจัดหาและติดตั้งอุปกรณ์งานระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค 2 สัญญา วงเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท จะทำให้งานในมือเพิ่มเป็น 100,000 ล้านบาท 
 

นางสาวสุภามาส ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ช.การช่าง กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2559 บริษัทมีรายได้รวม 45,768 ล้านบาท กำไรสุทธิ 2,002 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 7.08% เป็นไปตามเป้า ยังรักษาระดับความแข็งแกร่งการสร้างรายได้และกำไรเป็นที่น่าพอใจ "เรามีงานเซ็นสัญญาแล้ว 28,500 ล้านบาท รอเซ็นอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท รวมแล้ว
 

ปีนี้จะมีงานใหม่เข้ามาเพิ่ม 5 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบัน 85,231 ล้านบาท รวมเป็น 1 แสนล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้อีก 3 ปีข้างหน้าเฉลี่ยปีละ 35,000 ล้านบาท นับจากปี"60 เป็นต้นไป"
 

ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่ารัฐจะผลักดันโครงการประมูลออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น รถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง มูลค่า 1 แสนล้านบาท, รถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย อาทิ สายสีม่วง เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ, สีน้ำเงิน ช่วงบางแค-พุทธมณฑล สาย 4, สีเขียวเข้ม สมุทรปราการ-บางปู, สีเขียวเข้ม ช่วงคูคต-ลำลูกกา และสีส้ม ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม, ทางด่วนสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกตะวันตก, สนามบินสุวรรณภูมิ เฟส 2 เป็นต้น 

ด้านนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ บมจ.ช.การช่าง กล่าวว่า การที่รัฐบาลเดินหน้าประมูลงานโครงการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามแผนงานถือว่าเป็นทิศทางที่ดีมากต่อธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เช่น รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) สีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) 
 

"งานก่อสร้างโดยรวมถือว่ายังไม่ล่าช้า แต่จะเป็นพระเอกช่วยผลักดันเศรษฐกิจนั้น ต้องมีงานให้มากกว่านี้ อาจเป็นเพราะรัฐมีข้อจำกัด จึงควรเร่งส่งเสริมให้เอกชนร่วมลงทุนด้วย อย่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่ BEM ลงทุน หรือสีชมพูและสีเหลืองที่บีทีเอสเป็นผู้ลงทุนทั้งโครงการ เพื่อให้โครงการขับเคลื่อนได้เร็ว และกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งอสังหาริมทรัพย์และวัสดุก่อสร้าง สำหรับปัจจัยเสี่ยงผู้รับเหมาไม่ได้อยู่ที่การเมืองและเศรษฐกิจ อยู่ที่การบริหารต้นทุนก่อสร้างมากกว่า"
 

สำหรับโครงการ EEC ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดัน บริษัทสนใจทั้งโครงการก่อสร้าง และร่วมลงทุน PPP ไม่ว่าจะเป็นท่าเรือ สนามบิน รถไฟความเร็วสูง เนื่องจาก ช.การช่าง มีบริษัทลูกที่มีความพร้อมบริหารระบบสาธารณูปโภคทุกด้าน เช่น ระบบน้ำ รถไฟฟ้า ถนน ทางคู่ และทางด่วน

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1493463389