เอสซีจี แนะเทคนิคปกป้องบ้าน จาก 3 ปัญหาที่มากับหน้าฝน

ฤดูฝน...ถือเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของบ้านมักพบปัญหาจุกจิกกวนใจเรื่องบ้านมากที่สุด เพราะบ้านต้องรับมือกับสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ทั้งฝน ลมพายุ หรือแม้แต่ภัยธรรมชาติ ซึ่งล้วนเป็นต้นเหตุของปัญหาที่สร้างความเสียหายให้บ้าน และสร้างความหนักใจให้เจ้าของบ้านและสมาชิกภายในบ้าน  โดยเฉพาะ 3 ปัญหายอดฮิตที่พบได้บ่อย อีกทั้งยังเป็นปัญหาเรื้อรังที่ต้องตามแก้ไขไม่รู้จบ ได้แก่ หลังคารั่วซึม กระเบื้องหลังคาหลุดปลิว รวมถึงฝนสาดและน้ำจากหลังคาสร้างความเสียหายให้ภูมิทัศน์รอบบ้าน “เอสซีจี” ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุก่อสร้าง จึงชี้ให้เห็นถึงสาเหตุพร้อมแนะเทคนิคในการรับมือกับปัญหาน่าปวดหัว เพื่อปกป้องบ้านจากปัญหาเมื่อฤดูฝนมาเยือน

นายสุภวิทย์ อุทยารัตน์ ผู้เชี่ยวชาญ จาก “เอสซีจี” กล่าวว่า ปัญหาของบ้านที่มักพบบ่อยในช่วงฤดูฝน มีหลากหลายปัญหา เอสซีจีจึงได้ทำการสำรวจพบว่า “หลังคา” เป็นส่วนประกอบของบ้านที่พบปัญหามาก เป็นอันดับหนึ่งในช่วงฤดูฝน เพราะเป็นส่วนแรกที่รองรับฝน ลม และพายุ รวมถึงสภาวะอากาศที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาเจ้าของบ้านส่วนใหญ่ไม่ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา และไม่รู้วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง จึงมักแก้ไขปัญหาแบบเฉพาะหน้าไปก่อน ดังนั้นเอสซีจีจึงอยากชี้ให้เห็นถึงสาเหตุและแนะนำเทคนิคในการแก้ไข ที่ถูกต้องเหมาะสม โดยขอแนะนำเทคนิคป้องป้องบ้านจาก 3 ปัญหาที่เกิดจากหลังคา และเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาฝากกัน ดังนี้   

ปัญหาหลังคารั่วซึม ส่วนของหลังคาที่มักเกิดการรั่วซึมบ่อยๆ คือ บริเวณผืนและตำแหน่งจุดต่อต่างๆ ของหลังคา เช่น บริเวณรอยต่อระหว่างผืนหลังคาแต่ละด้าน และรอยต่อตรงตะเข้สันหลังคา โดยสาเหตุของการรั่วซึมเกิดจากการเลือกวัสดุและอุปกรณ์หลังคาไม่ได้มาตรฐาน มีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่ถูกต้อง บางกรณีรวมไปถึงลักษณะของรูปทรงหลังคาที่ทำการออกแบบจำเป็นต้องมีการเลือกอุปกรณ์ที่มีความสอดคล้องเพื่อป้องกันการเกิดปัญหา นอกจากนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น ครอบหลังคาเสื่อมสภาพ กระเบื้องหลังคาแตกร้าว การมุงหลังคาด้วยองศาที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น

แนวทางการแก้ไขและป้องกัน ควรเริ่มตั้งแต่การทำความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ “อุปกรณ์ยึดครอบหลังคา” ว่าเป็นหนึ่งองค์ประกอบของหลังคาที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มอรรถประโยชน์และความปลอดภัยให้ผืนหลังคา ป้องกันปัญหาการรั่วซึมบริเวณสันหลังคาและตะเข้สันได้อย่างไร้กังวล โดยเฉพาะปัจจุบันมีนวัตกรรมชุดอุปกรณ์ยึดครอบระบบแห้ง รุ่นพรีเมี่ยม (Drytech System) ที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบชุด และใช้การติดตั้งแบบใหม่ คือแบบสเต็ป ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการป้องกันการรั่วซึมได้ดียิ่งขึ้น  นอกจากนี้เจ้าของบ้านควรเลือกกระเบื้องหลังคาและอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ รวมถึงเลือกช่างติดตั้งที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาหลังคารั่วซึมตั้งแต่ต้นเหตุ  ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายภายในบ้านและค่าใช้จ่ายที่บานปลายจากการซ่อมแซมในภายหลัง

กระเบื้องหลังคาหลุด-ปลิว ด้วยสภาวะอากาศที่แปรปรวนในปัจจุบัน บ้านจึงต้องรับมือกับฝนฟ้าคะนองลมกรรโชกแรง หรือแม้แต่พายุฤดูร้อน ซึ่งข้อมูลด้านสถิติความเร็วลมจากสถานีอุตุนิยมวิทยา 93 สถานี พบว่าสถิติความเร็วลมเมื่อเกิดพายุฝนในพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ที่ 103 ถึงมากกว่า 118 กม./ชั่วโมง ซึ่งเริ่มสร้างความเสียหายให้กับสิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะส่วนหลังคาเพราะหากมีการยึดกระเบื้องหลังคาไม่ดีแรงลมอาจพัดเอาหลังคาปลิวไปด้วย ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนเท่านั้น ยังอาจเกิดอันตรายกับทรัพย์สินและบุคคลที่อยู่บริเวณนั้นด้วย

เทคนิคในป้องห้องหลังคาไม่ให้หลุดปลิวทำได้ง่ายๆ และตรงจุด การยึดหลังคารูปแบบเดิมจะใช้การผูกลวดยึดกระเบื้องกับโครงหลังคา หรือการติดตั้งกระเบื้องหลังคาแบบแถวเว้นแถว แต่เพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ควรใช้ “ระบบยึดกระเบื้องหลังคา” (Roof Fixing Solution) ประกอบด้วย แป ตะปูเกลียวยึดกระเบื้อง แหนบยึดกระเบื้องเศษ ขอยึดกระเบื้อง และขอยึดเชิงชาย ด้วยวิธีการติดตั้งโดยยึดกระเบื้องหลังคาทุกแถวทุกแผ่น ซึ่งจะทำให้การยึดหลังคาทั้งผืนแข็งแรงแน่นหนา โดยแนะนำให้เลือกให้อุปกรณ์ยึดที่มีคุณภาพสูงและเหมาะกับขนาดของแปบนหลังคา

อีกหนึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยคงหนีไม่พ้น ฝนสาดและน้ำจากหลังคาสร้างความเสียหายให้ภูมิทัศน์รอบบ้าน เพราะเมื่อฝนตกหนัก น้ำฝนมักจะสาดเข้าบ้านผ่านทางรอยต่อประตูและหน้าต่างที่ไม่แนบสนิท รวมถึงน้ำฝนยังไหลจากหลังคาลงสู่พื้นทำให้ดินบริเวณนั้นเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้สนามหญ้ารอบบ้านเสียหาย หากเป็นพื้นกระเบื้องก็อาจทำให้ลื่นล้มได้ง่าย ทั้งยังกระเด็นไปยังบ้านข้างเคียงให้เลอะเปรอะเปื้อน  

ตัวช่วยสำหรับปัญหาฝนสาด คือ “กันสาด” ควรติดตั้งบริเวณประตูและหน้าต่าง ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ยังเป็นส่วนประดับตกแต่งที่สามารถเลือกดีไซน์ให้เหมาะกับสไตล์บ้าน สำหรับตัวช่วยในการปกป้องพื้นที่รอบบ้านจากน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะแนะนำให้ติดตั้ง “รางน้ำฝน” เพื่อช่วยรองรับน้ำฝนที่ตกลงมาบนหลังคาให้ระบายลงสู่พื้นที่ที่เหมาะสม โดยเลือกรางน้ำฝนที่มีรูปแบบเข้ากับบ้านอย่างกลมกลืน ขนาดเหมาะสม แข็งแรงทนทาน และวัสดุที่ใช้ควรมีอายุการใช้งานได้นาน ไม่เป็นสนิม พร้อมเสริมช่องทางระบายน้ำฝนไอเดียใหม่ด้วย “โซ่ระบายน้ำฝน” เพื่อเป็นช่องทางในการระบายน้ำจากรางน้ำฝน  โดยจะเป็นตัวนำน้ำให้ไหลลงมายังภาชนะที่รองรับอยู่ด้านล่าง หรือบริเวณพื้นที่มีการปรับเตรียมสำหรับรองรับน้ำ เช่น กระถางต้นไม้ แนวกรวด บ่อน้ำในสวน เป็นต้น

เพราะปัญหาเรื่องบ้านที่มากับฤดูฝน มักเป็นปัญหาที่เจ้าของบ้านแก้ไขไม่ถูกจุด จึงมักต้องแก้ไขซ้ำๆ ไม่รู้จบ การป้องกันและแก้ไขอย่างถูกต้องเหมาะสม นอกจากจะช่วยลดความกังวลใจให้เจ้าของบ้านแล้วยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้าน ทั้งนี้หากนำแนวทางข้างต้นมาใช้ร่วมกันจะช่วยเสริมให้หลังคาบ้านแข็งแรง ปลอดภัย พร้อมรับมือกับทุกสภาวะอากาศ อย่างไรก็ตามเมื่อพบปัญหาเรื่องบ้านเจ้าของบ้านควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาแนวทางในการแก้ไข โดยผู้ที่ต้องการรับคำปรึกษาเรื่องบ้านจากผู้เชี่ยวชาญสามารถเข้ารับคำแนะนำได้ฟรีที่ เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ เอสซีจี โฮมโซลูชั่น หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เอสซีจี คอนแทค เซ็นเตอร์ โทร. 02-586-2222 หรือคลิ๊กเว็บไซต์ www.scgbuildingmaterials.com