Favorite
ห้องประกาศซื้อ-ขาย ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39
ในขณะที่หลายเจ้าทำขนาดห้องให้เล็กลงเพื่อทำราคารวมให้ถูกลง แต่ศุภาลัยไม่เปลี่ยนแปลงแนวคิดไปตามกระแส โดยไม่เคยลดขนาดห้องลงเลย นั่นแสดงถึงความเข้าใจความต้องการพื้นฐานของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ว่าพื้นที่ห้องและราคาต่อหน่วยที่คุ้มค่าคือปัจจัยพื้นฐานในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากกว่าเทคโนโลยีใดๆและมันได้พิสูจน์แล้วว่าการทำแบบนี้ ยิ่งทำให้ศุภาลัยทำยอดขายได้มากกว่าเจ้าอื่นๆ
ก่อนจะพาไปชมโครงการกัน ผมขอแนะนำตัวนิดนึงครับ ผม Poompat ครับ พอดีได้โอกาสจาก LivingInsider ให้ทำบทความรีวิวโครงการนี้ หวังว่าประสบการณ์ในวงการอสังหาฯของผมทั้งในด้าน Interior Design และการถ่ายรูปจะช่วยให้ผู้อ่านได้ความรู้และรายละเอียดของโครงการนี้ชัดเจนมากขึ้น ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ
คราวก่อนทีมงานได้ทำพรีวิวความน่าสนใจของโลเคชั่นตรงนี้ว่าดีแค่ไหน ใครที่ยังไม่เคยอ่านผมแนะนำให้อ่านกันก่อนเลยครับ โดยคลิ๊กอ่านที่ลิ้งคน์นี้เลยครับ https://goo.gl/SBkiyL
สมัยก่อนผมเคยผ่านมาแถวนี้ ค่อนข้างจะเงียบๆครับ แต่มาตอนนี้คึกคักมากๆ เห็นคนญี่ปุ่นเดินกันเยอะเลยครับ ถึงว่าแถวนี้มีร้านอาหารสไตล์ญีปุ่นขึ้นเยอะมากๆครับ แบบนี้อีกไม่นานคงมีอีกหลายอย่างตามมาเปิดที่นี่แน่นอนครับ
ต้องบอกก่อนว่าตัวผมเองเป็นคนรุ่นใหม่ ที่ยังมองศุภาลัยไว้ไม่ต่างกับสมัยก่อนๆ คือเป็นคอนโดที่ไม่ค่อยเน้นการออกแบบหน้าตาอาคารภายนอกเท่าไร
สำหรับคนซื้อศุภาลัยที่ผมรู้จักส่วนใหญ่ก็จะค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยและความคุ้มค่ามากกว่าเรื่องความสวยงามและอารมณ์ พูดตรงๆนะครับ คนในรุ่นผมถ้าจะหาซื้อคอนโด แทบไม่มีใครพูดถึงศุภาลัยกันเลย แต่หลังจากผมมาดูโครงการนี้ ทำให้ความรู้สึกเดิมๆของผมต่อศุภาลัยเปลี่ยนไปจริงๆ
มาถึง Sales Office แล้วครับ จะเห็นว่าภายนอกมีเส้นสายเรียบลื่น Dynamic ล้อมาจากเส้นสายของการออกแบบอาคารแบบ Oriental ตกแต่งอย่างเรียบง่ายและนำวัสดุตัวอย่างจากโครงการมาใช้เช่น สีของไม้ตกแต่ง สีของ กระเบื้องที่เน้นความเรียบหรู น่าสนใจจริงๆ
ด้านใน sales offfice
ชอบพื้นที่ตรงนี้ครับ มีการจำลอง Kid’s Room เผื่อให้ลูกๆเล่นรอพ่อแม่เวลาคุยกับทางฝ่ายขาย
สถาปัตยกรรมภายนอกอาคาร ออกแบบด้วย Concept “Oriental” มีการดึงเส้นสายและกลิ่นอายแบบตะวันออก การ ออกแบบที่ไม่แรงจนเกินไปแต่กลับเน้นความนิ่ง ความสงบ และดูมีราคาไม่ต่างจากคอนโดระดับ Luxury
ตัวอาคารมีความเด่นจาก Façade อาคารที่มี Dynamic มาจากการยืดหดของ Balcony แต่ละห้อง
โครงการนี้ถือเป็นโครงการที่ใหญ่มากๆ เพราะก่อสร้างอยู่บนที่ดินประมาณ 10 กว่าไร่เลยครับ ประกอบไปด้วยอาคารทั้งหมด 5 อาคาร (A,B,C,D และอาคารจอดรถ) โดยอาคาร A-B เป็นอาคารพักอาศัยสูง 25 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ส่วนอาคาร C-D เป็นอาคารพักอาศัยสูง 35 ชั้น จำนวน 2 อาคาร อีกอาคารคืออาคารจอดรถและ Facility
การออกแบบบนพื้นที่ขนาดใหญ่นี้ มีการวางอาคารให้แยกเป็นหลายๆอาคารและตั้งอยู่ห่างกัน เพื่อให้เกิดพื้นที่ “Courtyard” ตามช่องว่างระหว่างอาคาร โดยจะแทรกพื้นที่สีเขียว สำหรับ Relax ต่างๆไว้ตามช่องวางเหล่านี้ ทำให้เกิดลักษณะ พื้นที่โอบปิด สร้างความเป็นส่วนตัวและมีความร่มรืนย์มากขึ้น
อาคารจอดรถที่รองรับได้ถึง 100% ไม่รวมซ้อนนะครับ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ Fitness, Sauna, Game Room, Kid’s Room, Sky Lounge, Infinity-Edge Pool, Kid’s Pool
สระใหญ่มาก ยังกับสวนน้ำย่อมๆ
พื้นที่ส่วนกลางเยอะเหลือเฟือครับ
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือคือ พื้นที่ Green area เหล่านี้ ยังถูกดึงขึ้นไปใช้ในส่วนพักอาศัยที่อยู่ชั้นบน (Presidential Suite) และพื้นที่ส่วนกลางบนชั้นดาดฟ้า (พื้นที่สวนรอบๆ Sky lounge) เพื่อกันมลภาวะทางอากาศ แสงแดด และ เสียง ทำให้ห้องเหล่านั้นมีเอกลักษณ์ และ ความน่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง
แบบห้องที่นี่มีให้เลือกกันเยอะมากๆครับ เป็นโครงการที่มีแบบห้องเยอะที่สุดตั้งแต่ผมเคยเห็นมาเลย ใครสนใจลองมาเลือกดูแบบที่ตัวเองชอบกันเองนะครับ แต่ละแบบจัดวางฟังชั่นของห้องได้ดีมากๆเลยครับ
ห้องตัวอย่างที่นี่ โครงการทำไว้ 3 แบบ เดี๋ยวเรามาดูกันเลยครับ
Executive Suite C
1-Bedroom [49.5 sq.m.]
จากแบบจะเห็นว่า มีการวางฟังชั่นการใช้งานที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบเลย ได้ทั้งห้องนั่งเล่นติดระเบียง ห้องครัวแยก ห้องน้ำเข้าได้จากทางห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นดูกว้างมากเลยครับ นี่ขนาด 1 ห้องนอนเองนะเนี่ย มีพื้นที่เหลือๆขนาดวางโต๊ะทานข้าวสำหรับ 4 คนได้เลย
ระยะดูทีวีจากโซฟาไม่ชิดเกินไป มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางได้ ไม่อึดอัด
มีพื้นที่ผนังให้ทำตู้วางทีวีและตู้เก็บของสวยๆได้เลยครับ
ส่วนของห้องครัวมีประตูกระจกกั้นแยกโซน ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นเวลาทำอาหารเลยครับ
ชุดครัวคุณภาพดีครับ Top หินเทียม พร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ตู้อบอาหาร นอกจากนี้ยังมีการปูผนังกันเปื้อน (backsplash) ให้อีกด้วย
ข้างๆมีพิ้นที่ใส่ตู้เย็นขนาดใหญ่ได้เลย
ในส่วนของห้องนอนค่อนข้างจะกว้างและยังได้หน้าต่างแบบ Full-Height นอกจากทำให้ห้องโปร่งและหรูขึ้นมากแล้วยังช่วยให้เสพวิวทิวทัศน์ได้เต็มๆอีกด้วย
มีตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่รวมไปถึงโต๊ะแต่งหน้าข้างหัวเตียงให้คุณผู้หญิงด้วยครับ
ห้องน้ำก็ขนาดใหญ่มากๆครับ สุขภัณฑ์มาตรฐานของ Cotto มีตู้เก็บของให้ ส่วน Shower มี Partition กระจกและฝักบัวแบบ Rain แถมมาให้ด้วยครับ
Sukhumvit Suite A
1-Bedroom [57.0 sq.m.]
ภาพรวมของห้องจะพัฒนาจาก Executive Suite C ในอีกระดับนึงครับ เนื่องจากตัวห้องมี ความลึกมากขึ้น สิ่งที่จะมีเพิ่มมาคือระเบียงคู่ทั้งจากส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอน และจะได้พื้นที่ใช้สอยส่วนห้องนอนที่กว้างมากขึ้นโดย
ห้องนั่งเล่นกว้างจริงๆ ที่อื่นถ้าเป็นห้องขนาดนี้เค้าทำเป็น 2 ห้องนอนกันแล้ว แต่นี่ทำเป็น 1 ห้องนอน ใครชอบกว้างๆมาที่นี่เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เหลือพื้นที่วางโต๊ะทานข้าว นั่งได้ 4 คนแบบสบายๆไม่อึดอัด
ย้ำว่า...กว้างจริง สามารถหาซื้อแบบโซฟาเบดหรือแบบตัว L มาวางได้เลย
ห้องนั่งเล่นที่พื้นที่เชื่อมต่อระเบียงแบบนี้ ทำให้รู้สึกห้องกว้างขึ้นเยอะครับ
แถมระเบียงที่นี่ ราวกันตกเค้าให้แบบกระจก Tempered ด้วย แบบนี้ยิ่งทำให้เรามองวิวได้โดยไม่มีอะไรมาบังสายตาเลยครับ
ชุดครัวคุณภาพเหมือนเดิม Top หินเทียม พร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ตู้อบอาหาร นอกจากนี้ยังมีการปูผนังกันเปื้อน (backsplash) ให้ด้วย ที่สำคัญหมดปัญหาเรื่องพื้นที่วางตู้เย็นเล็กไป เพราะที่นี่คุณใส่ตู้เย็น 2 ประตูขนาดใหญ่ได้สบายๆ
ห้องนอนกว้างจริงๆ สามารถใส่เตียง King Size ได้สบาย และยังมีส่วนหน้าต่าง Full-Height ที่สามารถเปิดออกไปที่ระเบียงได้เช่นเดียวกับส่วนห้องนั่งเล่น
ชอบไอเดียแต่งห้องที่มีการใช้สันของตู้เสื้อผ้า ทำเป็นที่วางของ ทำให้ตู้ไม่ทึบและตัน
คุณผู้หญิงน่าจะชอบห้องนี้แน่ๆ เพราะสามารถทำ walkin closet และ มุมโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบจัดเต็ม
ห้องน้ำของห้องนี้ ทางเข้าจะอยู่ในห้องนอนนะครับ ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆก็จัดเต็มให้เหมือนเดิมครับ
Premier Suite A
2-Bedroom [84.5 sq.m.]
2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แบบนี้จะเป็นห้องมุมครับ ทำให้ได้วิว 2 ด้าน ทั้งจากทางห้องนั่งเล่นและห้องนอน ผมมองว่าแบบห้องนี้ลงตัวสุดๆ ห้องนั่งเล่นได้พื้นที่ติดระเบียง ห้องนอนมีหน้าต่างทุกห้อง ห้องครัวเป็นครัวปิดและยังมีระเบียงเล็กๆระบายอากาศได้ด้วย สัดส่วนห้องลงตัวจริงๆ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นทางโครงการจัดห้องไว้ค่อนข้างลงตัวครับ ห้องนั่งเล่นนอกจากจะกว้างแล้วยังมีพื้นที่ลงโต๊ะทานข้าว 6 ที่นั่งได้เลย
การวางโต๊ะทานข้าวตรงพื้นที่กลางห้องได้ ก็ทำให้มีการใช้งานที่ลงตัวมากขึ้น สามารถเดินวนรอบโต๊ะ เหมาะกับการอาหารพร้อมหน้ากันในครอบครัว
ระยะดูทีวีจากโซฟาไม่ชิดเกินไป มีพื้นที่สำหรับวางโต๊ะกลางได้ ไม่อึดอัด
พื้นที่ห้องนั่งเล่นเชื่อมต่อระเบียงทำให้รู้สึกห้องกว้างขึ้นเยอะครับ ราวกันตกเค้าให้แบบกระจก Tempered ด้วย เสพวิวได้เต็มๆโดยไม่มีอะไรมาบังสายตา
ห้องครัวเป็นครัวปิดและยังมีระเบียงระบายอากาศได้ด้วย ต้ม ผัด แกง ทอด กันได้เต็มที่
ของแถมครบเหมือนเดิม
ห้องน้ำของห้องนั่งเล่นใช้ร่วมกับห้องนอนเล็กครับ มีครบทั้งส่วน power และ shower
บริเวณทางเข้าห้องนอนใหญ่ สามารถทำเป็นโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆได้เลยครับ ถือว่าใช้ผนังห้องด้านนี้ได้เป็น ประโยชน์อย่างมาก
ห้องนอนกว้างมาก
เนื่องจากเป็นห้องมุม ทำให้ได้กระจก 2 ฝั่ง แบบนี้วิวสวยมากแน่ๆครับ เพราะเห็นแบบเต็มๆเลย ตรงตำแหน่งติดตั้งโทรทัศน์ ถือว่าใช้ประโยชน์จากความผนังทึบจากเสาของอาคารได้ดี
ห้องน้ำของห้องนอนใหญ่ มีอ่างอาบน้ำให้ด้วย คนไทยอาจเฉยๆ แต่คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จำเป็นต้องมี ดังนั้นใครคิดซื้อห้องแบบนี้ให้เช่า ไม่ต้องห่วงครับ มีคนญี่ปุ่นมาขอเช่าแน่ๆ
ห้องนอนเล็ก ถ้าเทียบขนาดกับเจ้าอื่นๆ นี่อาจใหญ่กว่าห้องนอนใหญ่ของเค้าซะอีก
วางเตียง King Size ยังได้
เหลือพื้นที่ให้ทำตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งได้โดยไม่มาทำให้ห้องอึดอัด
สำหรับแอร์ที่ให้ในห้องทุกแบบจะเป็นแบบ Conceal Type นะครับ ทำให้ได้ความรู้สึกแบบโรงแรมหรือรีสอร์ท ข้อดี คือ ลูกค้าจะได้พื้นที่ใช้สอยที่เป็นระเบียบมากขึ้น อาจมีพื้นที่ติดตั้ง Built-in หรือ ตกแต่งห้องให้สวย โดยไม่ต้องมีแอร์มาเกะกะสายตา
หมดละครับ ห้องตัวอย่างที่โครงการทำไว้ให้เราชม อย่างที่บอกที่นี่มีห้องหลายแบบมากๆ มีอีกห้องที่ผมเห็นแบแล้วผมชอบมาก คือ Penhouse ห้องนี้ครับ มีครบเลย ห้องแม่บ้านยังมีเลยครับ อยู่กันได้แบบเป็นครอบครัวใหญ่ เหมือนอยู่บ้านเลยครับ แต่ดูจากขนาดห้อง คงได้แต่ฝันต่อไปครับ
หลังจากชมโครงการแล้ว อย่างแรกที่รู้สึกได้เลยคือ ศุภาลัยกำลัง Transfrom ภาพลักษณ์ที่มีมานาน มาเป็นคอนโดที่ดูทันสมัยและถูกใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น อีกทั้งยังมี Facility ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนชีวิตเมืองในยุคปัจจุบัน ผนวกกับจุดแข็งเดิมที่ไม่มีใครสู้ได้อยู่แล้ว อย่างในเรื่องความคุ้มค่าของราคาและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างกว่าใคร นี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้ศุภาลัยแทบจะไม่มีจุดอ่อนเลย
ถ้าคุณกำลังหาที่พักอาศัยซักที่ใจกลางเมืองอย่างย่านสุขุมวิท ผมแนะนำว่าคุณควรมาดู "ศุภาลัย โอเรียนทัล สุขุมวิท 39" เพราะนี่คือคอนโดที่คุ้มค่าและราคาถูกที่สุด ถ้าเทียบหมัดต่อหมัดกับโครงการอื่นๆ
ผมแนะนำให้ลองไปดูในวันที่ 3-4 มิ.ย. นี้ เพราะนอกจากคุณจะได้โปรโมชั่นดีๆแล้ว คุณยังจะได้ฟังเพลงเพราะจาก " หน้ากากทุเรียน" ในงาน "The ShowCase" Supalai Oriental Sukhumvit 39 โดยงานจะจัดที่สำนักงานขายโครงการ พร้อมชม Mini Concert วง Room39 วันที่ 3 มิ.ย. เวลา 16.00-17.00 น.
ราคา 4.5 - 53 ล้านบาท
สอบถามเพิ่มเติมโทร 1720
เว็บไซต์โครงการ
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ขอบคุณมากครับ เอาใจไปเลยลูกพี่!!!
บทความดีๆ อ่านแล้วตัดสินใจง่ายขึ้นเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆค่ะ
รีวิวได้ทุกซอก ทุกมุมจริงๆเลยครับ ชอบครับ ตัดสินใจง่ายดี
ได้ประโยชน์มากๆ อ่านสนุกดี