Favorite
The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30
ทับทิมสยามแห่งจรัญสนิทวงศ์
ห้องประกาศซื้อ-ขาย The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30
ครั้งแรกที่เห็นแบนเนอร์ของโฆษณานี้ ผมตั้งคำถามในใจว่า "ทับทิมสยาม" เลยเหรอ โบราณไปมั้ย ? ทำไมไม่เอาเพชรไปเลยดูดีกว่าเยอะ ถ้าใช้คำว่า "เพชรเม็ดงามแห่งจรัญสนิทวงศ์" คงดูดีกว่าทับทิมสยามแน่นอน จนกระทั่งผมได้มีโอกาสมาชมโครงการ ผมถึงเข้าใจว่าทำไมที่นี่ถึงเป็น "ทับทิมสยามแห่งจรัญสนิทวงศ์"
ผมว่าจริงๆคนที่มีพื้นเพแถวฝั่งธนฯมีค่อนข้างเยอะเลยนะครับ คุณลองสังเกตดูก็ได้ถ้าสอบถามเพื่อนร่วมงานของคุณผมว่าประมาณ 30% ต้องเป็นคนฝั่งธนฯ แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังสงสัยว่า คอนโดที่ไปสร้างฝั่งธนฯ มันจะมีดีมานด์เยอะแค่ไหนกัน เห็นๆหลายๆเจ้าแห่กันไปสร้างเต็มไปหมด มันจะมีคนต้องการเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
อีกอย่างผมคิดว่าคนฝั่งธนฯส่วนใหญ่น่าจะยังติดกับการอยู่อาศัยในแนวราบประเภทบ้านหรือห้องแถวมากกว่า ไม่น่าสนใจซื้อคอนโดกันเท่าไร หรือถ้าจะซื้อคอนโดทำไมไม่มาซื้อฝั่งพระนคร ใกล้ที่ทำงานมากกว่าด้วย ทำไมต้องไปซื้อฝั่งธนฯ คำถามนี้เป็นประเด็นที่ผมสงสัยมาตลอดในช่วงแรกๆที่เริ่มศึกษาคอนโดใหม่ๆ จนผมได้รู้จักเพื่อนร่วมงานหลายคนที่เป็นคนฝั่งธนฯ ผมจึงได้เข้าใจมากขึ้น
เพื่อนร่วมงานผมหลายคน มีบ้านอยู่ฝั่งธนฯ แต่ต้องมาทำงานอยู่ย่านพระนคร ไม่ว่าจะเป็น สีลม สุขุมวิท หรือ รัชดาภิเษก ผมเคยสอบถามว่าทำไม ไม่หาคอนโดใกล้ๆที่ทำงานจะได้มาทำงานสะดวก แทบจะทุกคนตอบเหมือนกันว่า เค้าไม่ชินย่านนี้และไม่ได้อยากมาอยู่ การเดินทางในปัจจุบันอาจจะมีรถติดบ้างแต่เค้าชินแล้ว สิ่งสำคัญมากกว่าคือเค้าอยากอยู่ในชุมชนหรือพื้นที่เดิมๆของเค้ามากกว่า เพราะคุ้นชินพื้นที่และต้องการอยู่กับพ่อแม่หรือญาติพี่น้องตัวเอง
ผมมองว่าฝั่งธนฯเป็นโลเคชั่นที่ค่อนข้างมีความคลาสสิคนะครับ คือมีการผสมผสาน เมืองเก่าและเมืองใหม่วิถีชีวิตของคนรุ่นเก่าและวิถีของคนชีวิตของคนรุ่นใหม่เข้าด้วยกัน ผมว่าใครได้มาย่านนี้ก็น่าจะรู้สึกได้เหมือนผม คือมันยังไม่ดูวุ่นวายเกินไปเหมือนเมืองหลวงฝั่งพระนคร
ที่นี่มีวัดวาอารามจำนวนมากให้คุณไปเลือกทำบุญได้หลายแห่ง อาหารอร่อยก็มีหลายที่ ตรงนี้แหละครับคือความมีเสน่ห์ของฝั่งธนฯที่ทำให้คนพื้นที่ไม่ค่อยอยากย้ายถิ่นไปอยู่ไหน
นี่คือเหตุผลว่าทำไม คอนโดย่านฝั่งธนถึงขายดีและมีกระแสแรงขึ้นเรื่อยๆตามความคืบหน้าของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เห็นภาพชัดเจนขึ้นทุกวัน มีการคาดการณ์กันว่ารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้ จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้พื้นที่ฝั่งธนบุรีจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินคือรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่พวกเราใช้กันอยู่ตอนนี้นี่แหละครับ รถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายเดียวที่วิ่งเป็นลูปวงกลม แต่ปัจจุบันยังวิ่งไม่ครบลูป โดยเปิดใช้แค่จาก "บางซื่อ" ไป "หัวลำโพง" เท่านั้น ซึ่งส่วนต่อขยายที่พูดถึงก็คือ
ส่วนที่จะเชื่อมต่อสถานีบางซื่อ-ท่าพระ-หัวลำโพง-บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ให้เป็นลูปขนาดใหญ่ ดังนั้นนี่ไม่ใช่แค่ทำให้โครงข่ายการคมนาคมขนส่งสมบูรณ์แบบมากขึ้น แต่ยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนฝั่งธนบุรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย
เปลี่ยนไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ
ใช่ครับ ผมอยากให้คุณนึกถึงถนน รัชดาฯ ลาดพร้าว ก่อนที่รถไฟฟ้าจะสร้างเสร็จ เทียบกับปัจจุบันว่าเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ฝั่งธนฯถ้าสร้างเสร็จเมื่อไรก็คงไม่ต่างกัน
ผมจะเทียบให้ดูง่ายๆครับ ปัจจุบันถ้าคุณอยู่รัชดาหรือลาดพร้าวแล้วต้องนั่งรถไฟฟ้าเข้ามาทำงานในเมือง อย่างย่านลุมพีนี คุณอาจรู้สึกว่าไม่ได้ไกลมาก ถ้าต้องเทียบกับการเดินทางมาจากถนนจรัญสนิทวงศ์ แต่ผมจะบอกว่าถ้ารถไฟฟ้าสร้างเสร็จเมื่อไร ระยะเวลาที่นั่งจากจรัญฯเข้ามาลุมพีนีก็ไม่ค่อยต่างจากรัชดาฯครับ คือไม่น่าเกิน 30 นาที พูดแบบนี้ คุณคงเห็นภาพว่า รถไฟฟ้าจะทำให้คนฝั่งธนฯเข้าเมืองได้เร็วขึ้นกว่าเดิมแค่ไหน
สายสีน้ำเงินถือเป็นหัวใจหลักของรถไฟฟ้าสายอื่นๆเพราะนอกจากจะวิ่งเป็นวงกลมแล้ว ยังเชื่อมต่อกับสายสีอื่นๆทั้งหมดด้วย ดังนั้นในอนาคตจึงไปได้ทุกที่ของกรุงเทพ
ยิ่งปัจจุบันความคิดและทัศนคติของผู้ใหญ่หลายคนก็เริ่มปรับเปลี่ยนมากขึ้น โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการขยายครอบครัวแต่ก็ยังไม่อยากอยู่ห่างไกลจากพื้นที่หรือญาติพี่น้องตัวเอง อีกทั้งยังมีบางส่วนต้องการซื้อลงทุนในพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้า คอนโดฝั่งธนจึงค่อนข้างจะตอบโจทย์คนฝั่งธนฯมากขึ้นเรื่อยๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ คงจะมีหลายคนเริ่มสนใจคอนโดย่านฝั่งธนขึ้นมาแล้ว วันนี้ผมจะพามาดูโครงการคอนโดนึงที่เค้าบอกว่านี่คือ ทับทิมสยามแห่งจรัญสนิทวงศ์
The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30
ตัวโครงการตั้งอยู่บริเวณซอยจรัญ 30 หรือคนแถวจรัญฯแค่บอกตรงข้ามตลาดบางขุนศรี ก็ร้องอ๋อกันหมดแน่นอน โดยโครงการห่างจาก MRT แยกไฟฉาย 300 เมตร และ MRT บางขุนนนท์ 450 เมตร เป็นระยะพอเดินได้สบายๆ
ต้องบอกก่อนว่าคอนโดฝั่งธนฯที่อยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ส่วนใหญ่ อยู่แถว บางซื่อ-บางพลัด-ปิ่นเกล้า หรือไม่ก็ วงเวียนใหญ่-ท่าพระ แต่ในช่วงของระหว่างแยกบางขุนนนท์ไปจนถึงแยกไฟฉายไม่ค่อยมีคอนโดเท่าไหร่นะครับ ส่วนใหญ่จะมีเป็นโครงการขนาดเล็กแทรกตัวอยู่ตามซอย
ถ้าเป็นโครงการติดถนนใหญ่จะมีโครงการเดียวคือ IDEO Mobi จรัญ-อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งมีข้อมูลว่าขายเกือบหมดแล้ว ทำให้ 'The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30' แทบจะไร้คู่แข่งเลยล่ะครับ ตรงจุดนี้จึงอาจเรียกได้ว่าเป็นส่วน blue ocean และน่าจะมีดีมานด์จากคนพื้นที่เยอะพอสมควรครับ
บรรยากาศรอบๆถือว่าอุดมสมบูรณ์เลยทีเดียว เป็นย่านการค้า โดยเฉพาะตลาดบางขุนศรี มีร้านอาหารตามสั่ง ข้าวแกง และตลาดสดด้านใน สะอาดถูกสุขอนามัยครับ รอบด้านมีร้านผลไม้ ร้านขายยา 7-Eleven, Watson ฯลฯ ไม่ใช่แค่ตลาดบางขุนศรีนะครับ จริงๆแถวนี้ยังมีอีกหลายตลาดเลย อาทิ ตลาดบางขุนนนท์ ตลาดน้ำเย็น ตลาดสถานีรถไฟ(ศาลาน้ำร้อน) ตลาดพรานนก ตลาดวังหลัง
ตะลุยตลาดบางขุนศรี
เลยโครงการไปแค่ 100 เมตร ก็มี Foodland อีกทั้งยังมีและ Makro ที่ห่างไปประมาณ 400 เมตร ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้สุดคือ CentralPlaza ปิ่นเกล้าห่างประมาณ 3 กม.เช่นเดียวกับ Tesco Lotus เรียกว่าอยู่แถวนี้ของกินของใช้บริบูรณ์จริงๆ
นอกจากอุดมสมบูรณ์หาของกินง่ายแล้ว แถวนี้ยังใกล้ทั้ง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ และโรงพยาบาลอีกหลายแห่ง เช่น รพ.ศิริราช, รพ.กรุงธนบุรีและรพ.วิชัยเวช
ขอบคุณภาพจาก wikipedia
ขอบคุณภาพจาก Thairath
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ค่อนข้างสะดวกและมีทางเลือกหลายเส้นทางครับ แต่รถติดพอสมควรช่วงชั่วโมงเร่งด่วน การเข้าเมืองสามารถใช้สะพานพระปิ่นเกล้าและสะพานพระราม 8 ได้ หรือใช้สะพานกรุงธนฯไปราชวิถีก็ได้ ส่วนถ้าจะมาสาทรก็ใช้สะพานตากสินได้ครับ
ข้อได้เปรียบอีกข้อของคอนโดฝั่งธนฯก็คือจะมีเรือให้ใช้บริการด้วยครับ จากโครงการประมาณ 2 กิโลเมตร จะมีท่าวังหลังใกล้ๆ รพ.ศิริราช ซึ่งมีบริการ เรือด่วนเจ้าพระยาที่สามารถใช้ทางทางไป ม.ธรรมศาสตร์จนถึงสาทรได้เลย
พูดถึงภาพรวมของโลเคชั่นมาเยอะแล้วเรามาดูรายละเอียดโครงการและห้องตัวอย่างกันบ้างดีกว่าครับ วันที่เรามาสำนักงานขายเสร็จเรียบร้อยพร้อมให้ชมเลยนะครับดังนั้นใครที่ผ่านไปผ่านมาแถวนี้แล้วสนใจก็สามารถแวะเข้ามาชมกันได้ครับ
บรรยากาศสำนักงานขาย
มาดูรายละเอียดโครงการก่อนครับ
The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30 อยู่บนที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน 79 ตารางวา แบ่งเป็น 2 อาคารคือ อาคาร A สูง 22 ชั้น และอาคาร B สูง 8 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งหมด 305 ยูนิต ล่าสุดผ่าน EIA แล้วนะครับ เริ่มก่อสร้างช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป
ตัวโครงการมีการดีไซน์เป็นสีแดงเบอร์กันดี เหมือนสีของทับทิมเลยครับ ผมเคยเห็นคอนโดที่สีคล้ายๆกันแบบนี้มาบ้าง เวลาสร้างเสร็จแล้วค่อนข้างจะดูสวยโดดเด่นสะดุดตาครับ ที่สำคัญดูไม่เก่าเมื่อระยะเวลาผ่านไปนานๆครับ
อาคาร A
อาคาร A ครับ เริ่มเป็นห้องพักจากชั้น 2 ขึ้นไปนะครับ
โดยในอาคาร A ยังมีพื้นที่ Facility ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มให้แบบคอนโดเกรด Luxury เลยครับ อาทิ
Lobby เพดานสูงแถมยังกรุผนังด้วยหินอ่อนนำเข้า
มีมุม Private Prime Corner ให้ความเป็นส่วนตัวด้วย
Precious Mailbox
โถงลิฟท์ Elegant Lift Hall
ส่วนที่ชั้นดาดฟ้าก็มีของดีอีกครับ
จัดเต็มส่วนกลางหลัก Crystalline Sky Pool, Sky View Courtyard, Leisure Sky Scene รวมถึง Finest Sky Lounge ให้คุณชมวิวทัศนียภาพกรุงเทพฯ (มีห้องสตรีมให้บริการด้วย)
สระว่ายน้ำ See Through พร้อมชมเมืองหลวงมุมมองใหม่ ใต้สระน้ำกลางฟ้ากรุงเทพฯ
Sky View Courtyard
Leisure Sky Scene
Private Meeting room
Exclusive Working Space
Finest Sky Lounge
อาคาร B
อาคาร B เป็นอาคารสูง 8 ชั้นและมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น โดยจากชั้นใต้ดินจนถึงชั้น 3 ของอาคารนี้จะเป็นที่จอดรถทั้งหมดของโครงการครับ (เท่ากับมีที่จอดรถ 5 ชั้น) ทั้งหมดมีประมาณ 43% ของยูนิต ส่วนของห้องพักอาศัยอาคารนี้จะเริ่มที่ชั้น 4 ครับ
อาคารนี้จะมีส่วนของของ Garden View Gym ด้วยครับ
สำหรับคนที่อยู่อาคาร A แล้วกังวลว่าต้องไปจอดรถอาคาร B แล้วต้องเดินตากแดด ตากฝน เพื่อมาเข้า Lobby อาคาร A ไม่ต้องกังวลครับ เพราะอาคาร A และ B มีทางเชื่อมเข้าหากัน จอดรถแล้วเดินเข้าอาคารได้เลย
แค่พาดูรายละเอียดต่างๆโครงการก็เหนื่อยแล้วครับ เดี๋ยวมาดูห้องตัวอย่างกันบ้างครับ สำหรับห้องของโครงการมี Unit Type ทั้งหมด 2 รูปแบบคือ 1-ห้องนอน (23.60-31 ตารางเมตร), 2-ห้องนอน (43.95 ตารางเมตร) ยูนิตมีจำนวนเยอะสุดคือ 1-ห้องนอน (26.5 - 31 ตารางเมตร) ส่วนยูนิตไซส์เล็ก 23.60 ตารางเมตร และ 2-ห้องนอนมีเพียง 1 ยูนิต / ชั้น ดังนั้นต้องแย่งชิงกันหน่อย
สำหรับห้องตัวอย่างโครงการมี 2 ขนาดคือ 1-ห้องนอน (31 ตารางเมตร) และ 2-ห้องนอน(43.95 ตารางเมตร) นะครับ
1-ห้องนอน (31 ตารางเมตร)
ออกแบบได้ลงตัวครับ แบ่งสัดส่วนชัดเจน
เปิดเข้ามาพบกับส่วนห้องนั่งเล่น โครงการตกแต่งให้ดูโดยใช้ขนาดยาวแต่แคบหน่อย และใช้โต๊ะอาหารแทนโต๊ะกลาง แต่ผมว่าดูฟังชั่นแปลกๆนิดนึง ถ้าหาโต๊ะทานข้าวแบบสี่เหลี่ยมจตุรัสไปวางชิดผนัง แล้วขยับโซฟามาด้านหน้าหน่อย (แบบในแบบ) จะลงตัวกว่า
อีกจุดนึงที่อยากให้ดูคือ ความสูงของห้องอยู่ที่ 2.65 เมตร ซึ่งถือว่าสูงกว่าปกตินิดนึงครับ ทำให้ห้องดูหรูขึ้นเลยครับ
ส่วนครัวมีประตูแยกเป็นโซนจากห้องนั่งเล่น และมีห้องน้ำทางขวามือ
เค้าเตอร์ครัว เป็นหินเทียมสีขาว ตู้เก็บของด้านล่าง ใช้หน้าบานลามิเนต และหน้าบาน Hi-Gross ด้านบน มีช่องสำหรับวางเตาไมโครเวฟ โครงการแถม เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (ระบบดูดออก) ซิงค์ ทุกอย่างให้ของอย่างดีจาก Franke พื้นครัวปูกระเบื้องแกรนิโต้ เช่นเดียวกับผนังครัวกรุด้วยกระเบื้องสีเทา เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย
ครัวเชื่อมต่อระเบียง สามารถระบายอากาศและกลิ่นได้ดี
ระเบียงด้านนอกมีพื้นที่วางเครื่องซักผ้าฝาหน้า โครงการทำที่แขวน คอมเพรสเซอร์ / กริล / ตะแกรงเหล็กมาให้เรียบร้อย
ห้องน้ำสุขภัณฑ์ทั้งหมดใช้ของ Kohler ผนัง-พื้นแกรนิโต้ทั้งหมด พร้อมฉากกั้นอาบน้ำ อ่างล้างหน้ามีตู้เก็บของด้านล่าง ชั้นวางของเล็กๆ ใต้กระจก ถือว่าให้ของดีและเก็บรายละเอียดครบมากครับ
สำหรับห้องนอนแบ่งเป็นสัดส่วน ให้ความเป็นส่วนตัวสูง
โครงการบิวท์อินตู้เสื้อผ้าพร้อม ชั้นใส่ของด้านบนให้ หน้าบานตู้เสื้อผ้าติดกระจกเงาให้ด้วยนะครับ
2-ห้องนอน (43.95 ตารางเมตร)
ห้องนี้ได้ถึง 2 ห้องนอนและ 2 ห้องน้ำ แบ่งสัดส่วนลงตัว ห้องนั่งเล่นกว้าง มีพร้อมครัวแยกและตู้เก็บของพิเศษ ถือว่าเหมาะกับการอยู่เปนครอบครัวขนาดเล็ก พ่อ แม่ ลูก ได้เลยครับ
เปิดประตูพบกับส่วนนั่งเล่น เหมือนห้องโถงกลาง ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้หลากหลาย จะวางโซฟา 3 ที่นั่ง / โต๊ะทำงาน / โต๊ะทานอาหารก็ได้
ส่วนครัวมีประตูกั้นแยกสัดส่วน ฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือน 1-ห้องนอน แต่มีขนาดเล็กไปหน่อยสำหรับ 2 ห้องนอน
ห้องนอน Master Bedroom ห้องตัวอย่างใช้ตู้วางทีวี ทำให้ระยะปลายเตียงแคบไปหน่อย ถ้าใช้การแขวนทีวีกับผนังจะทำให้มีพื้นที่มากขึ้น
แถมบิ้วท์อินตู้เสื้อผ้ามาให้
มีห้องน้ำในตัวสามารถลุกมาเข้าได้เลย ไม่ต้องออกมาใช้ของห้องนั่งเล่นครับ
ห้องน้ำอุปกรณ์ครบให้ของดีเหมือนแบบ 1 ห้องนอนครับ
ส่วนห้องนอนเล็ก วางเตียงได้ขนาด 3.5 ฟุต เหมาะกับเป็นห้องนอนเด็กหรือใช้รับรองแขกได้
มีบิ้วท์อินตู้เสื้อผ้าให้แบบนี้
ห้องน้ำมีนี้จะใช้ร่วมกันระหว่างห้องนอนเล็กและห้องรับแขก
ทุกห้องให้เครื่องปรับอากาศ Daikin Inverter เลยถือว่าให้ของดีเลยครับ ไม่ค่อยมีเจ้าไหนให้แบบ Inverter เท่าไร ส่วนประตูให้เป็น Digital Door Lock ของ Samsung ตัวแพงเลยครับ สเปคเค้าจัดเต็มจริงๆ
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงอยากทราบราคาของโครงการ The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30 ใช่มั้ยครับ ? ณ วันที่เข้าไปทำรีวิว เจ้าหน้าที่ยังไม่มีข้อมูลราคาให้ทั้งหมดครับ รู้แค่ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท* (23.60 ตารางเมตร)
ฉายา ‘ทับทิมสยามแห่งจรัญสนิทวงศ์’ ไม่ได้ตั้งแค่เอาเท่ๆ สำหรับคอนโดย่านฝั่งธนฯ อาจจะมีหลายที่ แต่ต้องบอกว่า ถ้าเป็นถนนจรัญฯช่วงจากแยกไฟฉายถึงแยกบางขุนนนท์ ถือว่าหายากมากครับ ทำให้ตรงนี้มีดีมานด์ของคนท้องที่บริเวณนี้ค่อนข้างเยอะครับ
กลุ่มเป้าหมายของโครงการคือ เจ้าของกิจการ / คนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ต้องการขยับขยายครอบครัว แต่ไม่อยากอยู่ไกลบ้านเดิม / บุคลากรทางการแพทย์ ทำงาน รพ.ศิริราช - รพ.ธนบุรี และนักลงทุนทั่วไป ที่ต้องการคอนโดฯ บนทำเล MRT สายสีน้ำเงิน งบประมาณ 2.5-3.5 ล้านบาท ซึ่งมีแผนเปิดบริการช่วงปี 2563 เรียกว่าใกล้ๆเวลาที่คอนโดนี้เสร็จเลยครับ
The Tree จรัญสนิทวงศ์ 30 พร้อมเปิดพรีเซล ณ สำนักขาย 24-25 มิถุนายน โดยผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,900 บาทต่อเดือน* เท่านั้น นี้ใครสนใจลงทะเบียนเลยครับ ได้รับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* ด้วย
สอบถามเพิ่มเติมโทร
1739
ลงทะเบียนได้ที่หน้าเว็บไซต์
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-11
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-04
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-10-28
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-10-21
Reference Ekkamai | ที่สุดของทำเลที่เป็นมากกว่าใจกลางเมือง เพราะนี่คือเอกมัยย่านแห่ง Design District สุดเจ๋ง ติดอันดับ 27 ของโลก ให้คุณสามารถออกแบบชีวิตอย่างมีสไตล์ได้แบบอิสระ
2024-10-17
ดีที่ได้อ่านรีวิวก่อนซื้อคอนโด ช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ชอบค่ะ
ดีไซน์เว็บสวยดีค่ะ ดูง่าย ชอบมาก
รีวิวเนียนดีค่ะ
ดีมากเลย อ่านแล้วได้ความรู้และสนุกไปด้วย
นักเขียนมืออาชีพ งานคุณภาพและมีประโยชน์มากค่ะ
ได้ความรู้