รถไฟฟ้า 8 สีบูมทาวน์เฮาส์ 14 บิ๊กแบรนด์ถล่มตลาด 1.5-10 ล้าน

เจเอสพี พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป เปิดข้อมูลตลาดทาวน์เฮาส์ไตรมาส 1/60 เป้าประสงค์หลักเพื่อป่าวประกาศว่า ณ บัดนี้ บริษัทนี้ได้เบียดแทรกช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดจนกระทั่งเข้าไปติดชาร์ตท็อป 10 เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับถือโอกาสเปิดแผนบุกหนัก 5 ปีหน้า (2560-2564) ตั้งเป้ามียอดรับรู้รายได้ 9,000 ล้านบาท แน่นอนว่าคีย์ซักเซสมาจากการเปิดขายโครงการแนวราบเป็นหลัก

"เจเอสพี" รายงานตัว

"ไพโรจน์ วัฒนวโรดม" เอ็มดี เจเอสพีแอสพลัส ในเครือเจเอสพี พร็อพเพอร์ตี้กรุ๊ป ระบุว่า สถิติไตรมาส 1/60 ตลาดทาวน์เฮาส์ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล มีมูลค่ารวมประมาณ 20,000 ล้านบาท ปรากฏว่าในภาพรวมเจเอสพีสามารถเบียดเข้ามารั้งอันดับ 6 คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 3%

ในขณะที่อันดับ 1 เป็นของค่ายพฤกษา เรียลเอสเตท ครองส่วนแบ่งตลาด 21%, อันดับ 2 ค่ายโกลเด้นแลนด์ ส่วนแบ่งตลาด 12%, อันดับ 3 ค่ายเอพี (ไทยแลนด์) สัดส่วน 9%, อันดับ 4 ค่ายควอลิตี้เฮ้าส์ สัดส่วน 5% และอันดับ 5 กลุ่มอารียา พร็อพเพอร์ตี้ ส่วนแบ่งตลาด 3% ใกล้เคียงกับเจเอสพี แต่มีมูลค่าขายสูงกว่าเล็กน้อย

"เป็นปรากฏการณ์ที่ต้องบันทึกไว้เพราะเจเอสพีกล่าวได้ว่าเป็นรายใหม่ที่เข้าสู่ตลาดทาวน์เฮาส์และผมเพิ่งมานั่งบริหารได้1 ปี 1 เดือน แต่เราแทรกตลาดเป็นอันดับ 6 ของตลาดรวม"

5 เดือนแรกทาวน์เฮาส์พุ่ง

ล่าสุด "ดร.โสภณ พรโชคชัย" ประธานกรรมการ เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เปิดผลสำรวจเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล สถิติ 5 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-พฤษภาคม 2560) มีการเปิดตัวใหม่ 131 โครงการ ลดลง -24% รวม 36,768 ยูนิต ลดลง -6% มูลค่ารวม 120,026 ล้านบาท ลดลง -5%

ราคาเฉลี่ยต่อหน่วยเพิ่มเล็กน้อย จาก 3.231 ล้านบาท เป็น 3.264 ล้านบาท

ทั้งนี้ คอนโดฯ ยังนำด้วยสัดส่วนเปิดตัวใหม่ 53% จำนวน 19,506 ยูนิต รองลงมาทาวน์เฮาส์ 36% 13,412 ยูนิต ทิ้งช่วงสถิติเปิดตัวใหม่ของบ้านเดี่ยวที่มีสัดส่วน 5% 1,969 ยูนิตแบบไม่เห็นฝุ่น

รถไฟฟ้า 8 สีบูมตลาด

ก่อนหน้านี้ "สุธีร์ ศรีจิรารัตน์" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์และวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์ ค่ายอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ระบุว่า โจทย์ปีนี้ แนวโน้มพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวใหม่เดิมเคยอยู่คอนโดมิเนียม มีความต้องการที่พักอาศัยที่มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น

ในขณะที่บ้านเดี่ยวมีราคาสูงเกินไป คำตอบสุดท้ายจึงเป็นสินค้าทาวน์เฮาส์โดยเฉพาะกลุ่มราคา 2-3 ล้านบาท สถิติของปี 2559 พบว่ามียอดขาย 26% จำนวน 2,951 ยูนิต จากภาพรวม 11,427 ยูนิต

ปัจจัยหลักที่ทำให้ทาวน์เฮาส์กลุ่มราคานี้มีซัพพลายออกมาเยอะ ควบคู่ไปกับมีอัตราดูดซับหรือมียอดขายในระดับน่าพอใจ มาจากการขยายตัวของเมืองจากการลงทุนภาครัฐ ทั้งรถไฟฟ้า ถนนตัดใหม่ ทางด่วน

โฟกัสเฉพาะรถไฟฟ้าที่ผู้ประกอบการใช้เป็นคู่มือการลงทุน มีทั้งหมด 8 สายทางด้วยกัน 1.สายสีแดงเข้ม ไปรังสิต 2.สายสีแดงเข้ม หัวลำโพงไปมหาชัย 3.สายสีเขียว ต่อขยายไปคูคต 4.สายสีชมพู เชื่อมแคราย-มีนบุรี 5.สายสีเหลือง เชื่อมลาดพร้าว-สำโรง 6.สายสีม่วง ไปบางใหญ่ 7.สายสีน้ำเงิน และ 8.สายสีเทา

14 โซนหลัก 78 โซนย่อย

ทั้ง 8 สายทาง เป็นตัวช่วยเปิดหน้าดินให้กับตลาดทาวน์เฮาส์ชานเมืองรวม 14 โซนหลัก 78 ซับโซนหรือโซนย่อยในปัจจุบัน โดยโซนหลักได้แก่

1.สุขสวัสดิ์ 2.พระราม 2-เพชรเกษม 3.ธนบุรี 4.ปิ่นเกล้า-พุทธมณฑล 5.โซนตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา 6.รัชดา-ลาดพร้าว 7.โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก 8.บางนา-สมุทรปราการ 9.ทำเลใจกลางเมือง 10.รังสิต-ปทุมธานี 11.ติวานนท์ 12.นนทบุรี-บางซื่อ 13.พหลโยธิน-รามอินทรา และ 14.โซนมีนบุรี-สุวินทวงศ์

"สุธีร์" บอกว่า ในจำนวนนี้พบว่าท็อป 5 โซนย่อยที่มียอดขายสูงสุด เริ่มจาก 1.โซนรังสิต-ลำลูกกา กลุ่มราคาหลัก 1.9-2.5 ล้านบาท 2.โซนศรีนครินทร์ ราคา 2.5-3 ล้านบาท 3.สุขาภิบาล 1-วัชรพล ราคา 3-3.5 ล้านบาท 4.โซนเอกชัย-บางบอน ราคา 3-3.5 ล้านบาทเท่ากัน และ 5.โซนแจ้งวัฒนะ-ติวานนท์ กลุ่มหลักราคา 3.5-4 ล้านบาท

"รถไฟฟ้าสายใหม่ที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง กำหนดทยอยเปิดบริการตั้งแต่ปีཻ เป็นต้นไป เป็นตัวช่วยให้ตลาดทาวน์เฮาส์รองรับลูกค้าคนรุ่นใหม่ให้คึกคักมากขึ้น"

14 บิ๊กแบรนด์ขย่มรอบกรุง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้เล่นหลักของตลาดทาวน์เฮาส์ หากแบ่งคร่าว ๆ เป็น 8 เซ็กเมนต์ตามกลุ่มราคา เริ่มจากห้องละไม่ถึง 1 ล้านบาทไปจนถึงราคาเกินห้องละ 10 ล้านบาท

พบว่ามีผู้ประกอบการบิ๊กแบรนด์ 14 ราย ได้แก่ 1.พฤกษา เรียลเอสเตท 2.โกลเด้นแลนด์ 3.เอพี (ไทยแลนด์) 4.ควอลิตี้เฮ้าส์ 5.อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ 6.แสนสิริ 7.มั่นคงเคหะการ

8.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค 9.ศุภาลัย 10.อารียา พร็อพเพอร์ตี้ 11.เจเอสพี 12.แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ LPN (ในนามบริษัทพรสันติ) 13.ปริญสิริ 14.ลลิล พร็อพเพอร์ตี้

จะเห็นว่าทาวน์เฮาส์ราคาต่ำล้านตลาด 100% เป็นของผู้ประกอบการรายกลาง-รายเล็ก และกลุ่มทุนเจ้าถิ่น แต่มีขนาดตลาดไม่ใหญ่มากนักประมาณ 200 ล้านบาท

ในขณะที่กลุ่มที่มีขนาดตลาดใหญ่ท็อป 3 เป็นของทาวน์เฮาส์ราคา 2-3 ล้านบาท โดยไตรมาส 1/60 ขนาดตลาด 7,400 ล้านบาทโดยประมาณ เป็นส่วนแบ่งตลาดของบิ๊กแบรนด์ถึง 68% มีค่าย "เจเอสพี-ปริญสิริ-LPN" เข้ามาเบียดแทรกเล็กน้อย

รองลงมาราคา 3-5 ล้านบาท ตลาดรวมอยู่ที่ 5,800 ล้านบาท รายใหญ่ครอบงำตลาดถึง 73% โดยเจเอสพีเบียดรั้งอันดับ 5 ในเซ็กเมนต์นี้ แซงอารียาฯ กับแสนสิริ

และกลุ่มราคา 1.5-2 ล้านบาท ประมาณ 3,400 ล้านบาท บิ๊กแบรนด์มีส่วนแบ่งตลาดเกินครึ่งอยู่ที่ 57% โดยเจเอสพีรั้งอันดับ 4 ในเซ็กเมนต์นี้ แซงอารียาฯ, LPN และลลิลฯ

ท็อป 3 "พฤกษา-โกลด์-เอพี"

ยังมีตลาดที่ไม่อาจมองข้าม ภาวะการแข่งขันสูงมาจากผู้ประกอบการนอกตลาดหลักทรัพย์ โฟกัสตลาดหลักคือกลุ่มราคาเกิน 10 ล้านบาท มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันถึง 87% จากขนาดตลาดประมาณ 1,200 ล้านบาท

รองลงมาผู้ประกอบการนอกตลาดมีส่วนแบ่งถึง 54% ขนาดตลาด 1,000 ล้านบาท ในกลุ่มทาวน์เฮาส์ราคา 5-7 ล้านบาท

ส่วนแชมป์ถาวรของตลาดทาวน์เฮาส์ มองจากรายได้รวมดูเหมือนยังไม่มีใครหายใจรดต้นคอ "ค่ายพฤกษาฯ" ซึ่งกินรวบเซ็กเมนต์ราคา 1.5-5 ล้านบาทได้

โดยอันดับ 2 ตามมาห่าง ๆ ในตอนนี้เป็นของ "โกลเด้นแลนด์"

ตามติดด้วย "เอพี (ไทยแลนด์) ที่ยึดโยงอยู่กับแบรนด์บ้านกลางเมือง-บ้านกลางกรุง อยู่อันดับ 3 ของตารางในขณะนี้

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1498039478