Favorite
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2560 การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นการดำเนินการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางพิเศษศรีรัช) ภายหลังจากสัญญาร่วมทุนกับ บมจ.ทางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) บริษัทในเครือ บมจ.ช.การช่าง จะสิ้นสุดวันทึ่ 29 ก.พ.2563
นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่ากทพ. กล่าวว่า สัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 และสัญญาเพื่อการต่อขยายโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วนดี เป็นสัญญาร่วมลงทุนโครงการแรกที่จะสิ้นสุดสัญญาและอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ.2556
โดยกำลังจะสิ้นสุดลงในปี 2563 ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการทำผลการศึกษาเพื่อหาแนวทางดำเนินการหลังสัญญาสิ้นสุดลง
ทาง กทพ.จึงได้ว่าจ้างบริษัที่ปรึกษามาศึกษาแนวทางการดำเนินการ โดยเปรียบเทียบ 3 กรณี คือ 1.กทพ.ดำเนินการเอง 2.ให้ BEM ร่วมลงุทน 3.ให้เอกชนรายใหม่ร่วมลงทุน เพื่อประเมินแนวทางไหนที่จะเป็นประโยชน์สูงสุด จะสรุปภายในเดือน ต.ค.นี้
“หลังหมดสัญญา โครงการนี้จะตกเป็นทรัพย์สินของการทางพิเศษ เท่ากับเป็นสมบัติของชาติ และเป็นโครงการแรกที่รัฐร่วมลงทุนเอกชน ทั้งนี้การเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางที่เป็นประโยชน์ที่สุด และโครงการนี้จะเป็นโมเดลให้กับโครงการอื่นๆ ต่อไปด้วย”
นายวรวัส วัสสานนท์ รองผู้จัดการโครงการ กล่าวว่า สัญญาทางด่วนขั้นที่ 2 รวมส่วนดีนี้เริ่มสัญญาวันที่ 22 ธ.ค.2531 ระหว่าง กทพ. กับ บมจ.ทางด่วนกรุงเทพ (BECL) หรือ BEM ในปัจจุบัน จะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 29 ก.พ.2563 ในขณะนั้นใช้เงินลงทุน 56,816 ล้านบาท
แยกเป็นค่าเวนคืนที่ดิน 16,816 ล้านบาท รับผิดชอบโดย กทพ.และค่าก่อสร้างที่เอกชนเป็นผู้ลงทุน 40,000 ล้านบาท ในปีแรกเปิดบริการมีปริมาณการจราจรอยู่ที่ 100,000 เที่ยวคัน/วัน ปัจจุบันอยู่ที่กว่า 700,000 เที่ยวคัน/วัน
“การศึกษาวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้ จะดูด้านวิศวกรรม การเงิน เศรษฐกิจ กฎหมายและด้านอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเสี่ยงและแนวทางการบริหารความเสี่ยง ทั้ง 3 กรณี จะส่งรายงานวันที่ 15 ก.ย.นี้”
ทั้งนี้โครงการนี้มีมูลค่าเกิน 5,000 ล้านบาท จะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 2556 มาตรา 47 เพื่อแก้ไขสัญญา แต่หากเจรจาแล้วไม่ได้ข้อยุติจะต้องดำเนินการตามมาตรา 48 เสนอเป็นโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการใหม่ต่อไป
ขณะเดียวกันในสัญญาสัมปทานข้อ 21 ระบุว่าการต่อสัญญากับบีอีเอ็ม อาจจะต่อได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ปี ตามที่เงื่อนไขของ กทพ.กับบีอีเอ็มจะตกลงกัน โดยพิจารณาประกอบกับความเป็นไปได้อย่างต่อเนื่องของสิทธิตามสัญญา อัตราค่าตอบแทนของ กทพ. และบีอีเอ็ม
ผลประโยชน์ต่อสาธารณชน ผู้ถือหุ้นของบีอีเอ็ม และผู้ให้กู้ ก่อนสิ้นสุดของระยะเวลาสัญญา ทั้ง กทพ. และบีอีเอ็มจะต้องเจรจากันโดยสุจริต เพื่อพยายามต่อระยะเวลาของสัญญาออกไปตามเงื่อนไขที่สองฝ่ายสามารถรับได้ ส่วนจะต่อหรือไม่ต่ออยู่ที่คู่สัญญา
ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/property/news-29744
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ขึ้นแท่นอันดับ 1 ด้านคุณภาพการบริหารจัดการระดับสากล กวาด ISO มากที่สุด ครบ 3 มาตรฐานครอบคลุมทุกมิติ เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย
2022-07-14
นัมเบอร์วันเฮ้าส์ซิ่ง ดิเวลลอปเม้นท์ ส่งโครงการ THE ONE life bangna บุกเมกาบางนา บ้านเดี่ยวอารมณ์รีสอร์ตใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ทำเลต้นบางนา
2022-07-14
Last Call Promotion!! กับแคมเปญ “ชีวาทัยเป็นได้มากกว่าเพื่อน” หมดเขต 31 ก.ค.นี้เท่านั้น
2022-07-14
ASW เสริมกลยุทธ์ Lifestyle Community จัด Monstr Concert Festival Series#1 ตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกบ้านโครงการคอนโดฯ เคฟทาวน์ สเปซ
2022-07-14
เตือนภัยขอสินเชื่อบ้าน-ที่ดินระวังโดนโกง
2022-07-11
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ
ชอบมากค่ะ อ่านๆฟรีด้วย
ให้ 4 ดาวละกัน แต่ชอบนะคะ อยากให้ลงบ่อยๆกว่านี้ค่ะ