News
icon share

เจริญ ปิดแนวรบอสังหา ซื้อไม่ยั้งพอร์ตแสนล้านรีเทิร์นตลาดหุ้น

LivingInsider Report 2017-09-29 12:26:01
เจริญ ปิดแนวรบอสังหา ซื้อไม่ยั้งพอร์ตแสนล้านรีเทิร์นตลาดหุ้น

 

“เจริญ”เปิดแนวรบอสังหา ซื้อไม่ยั้งพอร์ตแสนล้านรีเทิร์นตลาดหุ้น
 

เปิดเกมเจ้าสัวเจริญ บุกอสังหาฯครบวงจรใหญ่สุดในประเทศไทย หลังรื้อพอร์ตลงทุนแสนล้านจัดระเบียบใหม่ ดัน “แอสเสท เวิรด์” หัวหอกเจาะตลาดทุกทิศ ประกาศนโยบายให้ทุกบริษัทในเครือรุกหนักเน้นเทกโอเวอร์ ต่อยอดธุรกิจโรงแรม ห้างสรรพสินค้าออฟฟิศบิลดิ้ง คอนโดฯ แนวราบ ขึ้นครองแชมป์ค่ายพัฒนาที่ดิน ตั้งเป้ากลับเข้าตลาดหุ้นปีหน้า

 

แหล่งข่าวระดับสูงในวงการ อสังหาริมทรัพย์เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นายเจริญ สิริวัฒนภักดี มหาเศรษฐีและเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ในประเทศไทย ประกาศแผนบุกอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรเต็มรูปแบบ ภายใต้บริษัท Asset World โดยมีเป้าหมายนำบริษัทดังกล่าวเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย ในปี 2561

 

พอร์ตใหญ่แสนล้าน

 

“พอร์ตใหม่ที่ มีการจัดระเบียบสินทรัพย์และทรัพย์สินมีมูลค่าประมาณแสนล้านบาท และในอนาคตมูลค่าของแอสเสทฯจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เป็น value add มหาศาล เทียบแล้วบริษัทอสังหาฯของเสี่ยเจริญจะถือครองพอร์ตที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย รองจาก Crown Property หรือสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เท่านั้น”

 

แหล่งข่าวกล่าว ว่า ในฐานะแลนด์ลอร์ด ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินที่มากที่สุดในขณะนี้ นายเจริญ ประธานกรรมการ บริษัท ทีซีซี แลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด ประกาศเป็นนโยบายก่อนหน้านี้ “ไม่ว่าจะลงทุนในธุรกิจใดก็ตาม ขอให้เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก”

 

บุกหนัก 360 องศา

 

ที่สำคัญ goal หรือเป้าหมายใหม่ของธุรกิจในกลุ่มทั้งหมด จะรุกหนัก “เน้นซื้อกิจการ” และขยายฐานตลาดอาคารสำนักงาน (ออฟฟิศบิลดิ้ง) จาก 1.6 ล้าน ตร.ม. เป็น 3 ล้าน ตร.ม. พร้อมตั้งเป้ามีโรงแรมในมือมากที่สุดในประเทศไทย

 

เพราะเห็นโอกาสของธุรกิจท่องเที่ยว ที่สำคัญ ต้องการให้บริษัทในเครือ “ต่อยอด” กับธุรกิจอสังหาฯเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่อยู่อาศัย โรงแรม ออฟฟิศบิลดิ้ง เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ธุรกิจรีเทล คอมมิวนิตี้มอลล์ รีสอร์ต ฯลฯ

 

การประกาศนโยบายดังกล่าวเท่ากับย้ำว่า จะให้น้ำหนักกับธุรกิจอสังหาฯมากขึ้น ทั้งเพิ่มพอร์ตด้วยการซื้อกิจการที่น่าสนใจจากผู้ประกอบการ นักลงทุน ซึ่งจะเน้นหนักการขยายพอร์ตสินทรัพย์ด้วยการพัฒนาโครงการ การนำที่ดินหรือโครงการในทำเลที่มีศักยภาพมาพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่า เพิ่ม แต่หัวใจคือการแปรรูปทรัพย์สินเข้าตลาดหุ้น

 

ขยายฐานทั่วไทย

 

แหล่งข่าววิเคราะห์ว่า นอกจากทำเลกรุงเทพฯและปริมณฑลแล้ว จากที่กลุ่มเสี่ยเจริญมีโครงการอสังหาฯ อาทิ โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ฯลฯ กระจายอยู่ในต่างจังหวัดหลายจังหวัดทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเฉพาะในหัวเมืองหลัก หัวเมืองรอง เมืองท่องเที่ยว ทั้งยังมีแลนด์แบงก์ที่ซื้อสะสมไว้อีกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นที่ดินทำการเกษตร โรงงาน คลังสินค้า ฯลฯ ในจำนวนนี้มีจำนวนไม่น้อยที่มีศักยภาพในการพัฒนาประกอบกับก่อนหน้านี้

 

กลุ่มเสี่ยเจริญทยอยจัดพอร์ตทรัพย์สินที่มีอยู่ในมือเป็นระยะ ๆ ด้วยการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อรองรับ เมื่อมีนโยบายชัดเจนว่าจะชูธงรุกอสังหาฯเต็มรูปแบบ โดยเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า เมื่อเห็นว่ามีจังหวะโอกาสและสถานการณ์เศรษฐกิจเอื้อจะสามารถรุกขยายการ ลงทุนตามแผนได้ทันที

 

จ่อเข้าตลาดหุ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ ลีเฌอร์ จำกัด และบริษัท แอสเสท เวิรด์ จำกัด เป็นบริษัทที่ถือหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทย โฮเทลอินเวสเมนต์ (THIF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทยรีเทล อินเวสเมนต์ (TRIF)

 

และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าไทยคอมเมอร์เชียล อินเวสเมนต์ (TCIF) มูลค่ารวมกว่า 8 หมื่นล้านบาท ที่กลุ่มเสี่ยเจริญจัดตั้งขึ้นและอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในสัดส่วนกว่า 30% ส่วนหน่วยลงทุนที่อีกกว่า 60% ของแต่ละกองทุนของทั้ง 3 กองทุน กระจายให้กับนักลงทุนในตลาด

 

แต่หลังตัดสินใจถอนกองทุนทั้ง 3 กองทุนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ กลุ่มเจ้าสัวเจริญได้ประกาศซื้อหน่วยลงทุนจากนักลงทุนคืน พร้อมจัดตั้ง 3 บริษัทเข้ามารับซื้อหน่วยลงทุนแทน ได้แก่ บริษัท นันทพัฒน์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด, บริษัท ปณวิณ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด และบริษัท นอร์ม จำกัด ทั้งนี้ สาเหตุในการซื้อคืนหน่วยลงทุนเพื่อถอนกองทุนออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ

 

นอกจากเป็นการบริหารจัดการเพื่อประโยชน์ทางด้านภาษีแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากสินทรัพย์ในกองทุนมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น จึงซื้อคืนจากกองทุนนำมาปรับพอร์ตใหม่ และมีแผนจะนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯอีกครั้งในอนาคตอันใกล้

 

รื้อพอร์ต 3 กองทุนแต่งตัวใหม่

 

สำหรับทรัพย์สินซึ่งเดิมอยู่ภายใต้กองทุนรวมอสังหาฯที่ถูกนำมาบริหารจัดการใหม่ให้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามแผนสร้างมูลค่าเพิ่มในสินทรัพย์ มีทั้งส่วนที่เป็นโรงแรม ศูนย์การค้า ที่ดิน อาทิ โครงการอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์, อาคารแอทธินี, อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์, ซีดับเบิ้ลยู ทาวเวอร์, อาคาร 208 โดยบริษัท ซี.ไอ.ที.แอพเพรซัล จำกัด ของกองทุน TCIF

 

ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า เชียงใหม่, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า บางกะปิ, พันธุ์ทิพย์ พลาซ่า ประตูน้ำ, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, ตะวันนา และ โอ.พี.เพลส ของกองทุน TRIF ที่ดิน อาคาร เฟอร์นิเจอร์และอื่น ๆ ของโรงแรม 12 แห่ง โรงแรมเชอราตันสมุย รีสอร์ท, โรงแรมอิมพีเรียล โบ๊ทเฮาส์ บีช รีสอร์ท 

 

โรงแรมแบงก์ค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนปาร์ค, โรงแรมเดอะเมโทรโพล ภูเก็ต, โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ, โรงแรมบันยันทรี สมุย, โรงแรมวนาเบลล์ เกาะสมุย, โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท, โรงแรมดับเบิ้ลทรี ฮิลตัน สุขุมวิท, โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่, โรงแรมพลาซ่า แอทธินี กรุงเทพฯ และโรงแรมโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ภายใต้กองทุน THIF

 

บิ๊กอสังหาฯจับตา

 

ผลจากการเคลื่อนไหวที่เห็นเป็นรูปร่างชัดเจน ทำให้บริษัทอสังหาฯรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ 5-10 บริษัทต้องคอยติดตาม เพื่อเตรียมการรับมือกับการแข่งขันในอนาคต เพราะฐานทุนของนายเจริญมีความได้เปรียบ

 

ล่าสุดการเปิดตลาดทาวน์เฮาส์ ในเครือบนแพลตฟอร์มใหม่ ภายใต้แบรนด์ “โกลเด้นทาวน์” ของ บมจ.แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ (โกลเด้นแลนด์) ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการ เพราะสร้างปรากฏการณ์ทำยอดพรีเซลได้เกินคาด เฉพาะปีที่แล้วทำได้เฉียดหมื่นล้านบาท จึงตั้งเป้าโตปีนี้ไว้ถึง 40-50%

 

ทุ่ม 2 หมื่นล้าน

 

นาย ณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท ทีซีซีแลนด์ แอสเสท เวิรด์ จำกัด เปิดเผยว่า โรดแมป 3 ปีของบริษัทจะลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท เพื่อสร้างมิติใหม่ของวงการธุรกิจรีเทลในประเทศไทย ซึ่งเป็นโมเดลตลาดชุมชนมี segmentation marketing ที่ชัดเจน

 

เพราะบริษัทมีที่ดินพร้อมพัฒนา ภายใต้นโยบาย “The Most Diversify Developer” อาทิ โครงการส่วนต่อขยายเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เจริญกรุง พร้อมขยายสู่จังหวัดท่องเที่ยวที่เชียงใหม่ และพัทยา ในรูปแบบไลฟ์สไตล์ แอนด์ เฟสติวัล มาร์เก็ต โดยประยุกต์ให้เข้ากับ

 

ประวัติศาสตร์ของแต่ละพื้นที่

 

ปี 2561 จะเปิดตัวศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อ มูลค่า 2,500 ล้านบาท พื้นที่รวม 40,000 ตารางเมตร และจะเปิดศูนย์การค้าเกตเวย์แห่งใหม่ในย่านฝั่งธนฯเพิ่ม งบฯลงทุน 2,000 ล้านบาท มีพื้นที่ปล่อยเช่า 33,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับชุมชนแบบ one stop service เช่นเดียวกับเอกมัย และบางซื่อ

 

ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ เร่งปลุกตลาดรอบอาคารศูนย์การค้า “Co-On ground” บริเวณสยามสแควร์ซอย 3-4 เน้นไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์จะเน้นต่อยอด 3 มิติ คือ เกมมิ่ง, โซลูชั่น และไลฟ์สไตล์ไอที โดยเร่งปรับโฉมสาขาประตูน้ำ และเชียงใหม่ งามวงศ์วาน และบางกะปิ

 

“ในไตรมาส 1 ปีหน้า บริษัทจะเปิดศูนย์การค้าแบรนด์ใหม่ “อเวนิว-Avenue” สาขาแรกที่ซอยลาซาล ซึ่งมีครบทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านอาหาร และบริการที่เข้าถึงง่าย โดยมีร้านยูนิโคล่ โรดไซต์ (Uniqlo Road Site) แห่งแรก ๆ ในไทย ทั้งวางแผนจะขยายศูนย์การค้าแบรนด์อเวนิว ตลอด 3 ปีนับจากนี้” นายณภัทรกล่าว

 

พร้อมยกระดับโครงการตลาดนัดตะวันนา บางกะปิ พร้อมเปลี่ยนแบรนด์ใหม่เป็น “ตะวันนา มาร์เก็ต” เพื่อพัฒนาสู่การเป็นตลาดชุมชน จะเปิด 3 ทำเล คือ บางพลี 50 ไร่ พระราม 2 ที่ดิน 35 ไร่ และย่านฝั่งธนฯ ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีก 10 ไร่ รวมงบฯลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท

 

 

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

 

https://www.prachachat.net/prachachat-top-story/news-46433

 

 

>> ช่องทางในการติดตามข่าวสาร <<
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์ @livinginsider ที่นี่

Article Other

livinginsider livinginsider