
Home
5 เหตุผล ทำไม Open Innovation Center โดยเอสซีจี สามารถพลิกโฉมวงการนวัตกรรมได้จริง
ถึงจะเพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน สำหรับ “Open Innovation Center” โดย เอสซีจี แต่ก็สามารถสร้างกระแสความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นกับแวดวงนวัตกรรมได้ไม่น้อย เพราะนอกจากความมุ่งมั่นของเอสซีจีที่ต้องการตอกย้ำการเป็นผู้นำนวัตกรรมอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียนแล้ว เหตุใดศูนย์ฯ แห่งนี้จึงถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการนวัตกรรมอย่างแท้จริง ต้องมาติดตามไปพร้อมกัน...
เหตุผลแรก คือ การเป็นศูนย์กลางที่พร้อมเปิดรับความร่วมมือด้านงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกับทุกหน่วยงาน ให้เกิดการต่อยอดสร้างสรรค์นวัตกรรมแห่งอนาคต เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยแบ่งพื้นที่กว่า 1,600 ตร.ม. ออกเป็น 4 โซนหลัก ได้แก่
1.) โซนจัดแสดงผลงาน เพื่อต่อยอดการวิจัยระหว่างนักวิจัยเอสซีจีและพันธมิตร
2.) โซนห้องสัมมนาและห้องประชุม เพื่อใช้เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักวิจัย
3.) ห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่ในความสนใจของเอสซีจีใช้วิจัยและพัฒนา
4.) โซนออฟฟิศ สำหรับนักวิจัยและทีมประจำศูนย์ของเอสซีจี
เหตุผลที่ 2 คือ การตั้งอยู่ในแหล่งต้นกำเนิดนวัตกรรมเพื่ออนาคต คือ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เนื่องจากเป็นแหล่งรวมของนักวิจัยกว่า 3,000 คน จึงเป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวคิดระหว่างกัน
หรือหากงานวิจัยสอดคล้องกับแนวทางการดำเนินธุรกิจของเอสซีจี ที่มุ่งมั่นส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้บริโภค ก็สามารถพัฒนาต่อยอดสู่งานนวัตกรรมเพื่ออนาคตอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ เอสซีจียังได้สร้าง network of network ที่เป็นพันธมิตรของ สวทช. ในการพัฒนาสินค้าและนวัตกรรมเพื่อต่อยอดทางธุรกิจให้กว้างขวางต่อไปอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม งานนวัตกรรมใหม่ๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีห้องปฏิบัติการที่มีความพร้อม ดังนั้น เหตุผลที่ 3 จึงเป็น ห้องปฏิบัติการที่ใช้สำหรับการทดสอบแนวความคิดหรือการสาธิตต้นแบบเพื่อประเมินความเป็นไปได้ในเชิงเทคนิคเบื้องต้น ก่อนที่จะส่งต่อให้กับหน่วยธุรกิจที่มีเครื่องมือครบครันต่อไป
เหตุผลที่ 4 ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ คือ การจัดแสดงผลงานนวัตกรรมเพื่อต่อยอดการวิจัย อันเกิดจากแนวคิดที่ว่าไม่ต้องการให้สถานที่แห่งนี้ถูกจำกัดเพียงแค่นักวิจัยเท่านั้น แต่ต้องการเปิดกว้างให้กับบรรดาผู้ที่ต้องการแสวงหาความรู้ด้านนวัตกรรมใหม่ๆ อีกด้วย ในส่วนนี้แบ่งออกเป็น 5 โซนย่อย ได้แก่
1.) Inspiration starts here บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาอันยาวนานกว่า 100 ปีของเอสซีจี
2.) Performance+ จัดแสดงนวัตกรรมอันโดดเด่นของเอสซีจี เช่น Sea Cement สูตรการผสมปูนที่สามารถนำน้ำทะเลและทรายจากทะเลมาผสมเป็นคอนกรีตใช้งานได้โดยไม่ทำให้เกิดสนิมในเหล็กเสริม รวมทั้งยังทำให้คอนกรีตมีความสามารถในการป้องกันคลอไรด์จากภายนอกได้ ทำให้การก่อสร้างในพื้นที่ชายฝั่งทำได้สะดวกยิ่งขึ้น เป็นต้น
3.) Design for Sustainability การพัฒนาวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบสินค้าตามรสนิยมของผู้บริโภค และการพัฒนาสินค้าเพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร
4.) Moving Edge เน้นการพัฒนา Solution เพื่อส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับคู่ค้าและผู้บริโภคเพื่อชีวิตที่ดีของทุกคนในภูมิภาค และ 5.) Drawing the Future Together ขยายเครือข่ายการวิจัยและพัฒนากับทุกภาคส่วน ผลักดันงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพานิชย์อย่างเป็นรูปธรรม ผ่าน 60 Technology Platforms
และสุดท้ายกับ เหตุผลที่ 5 การสนับสนุนเครือข่ายสตาร์ทอัพจากทั่วโลก ที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) ในการดำเนินงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (Sci-Tech) ผ่านโปรแกรม Accelerator เพื่อร่วมพัฒนานวัตกรรมที่มีศักยภาพสูงกับเอสซีจีในกลุ่ม Materials, Clean Technology, Well Being และ Sensor & IoT ก่อนนำไปสู่การต่อยอดธุรกิจร่วมกันในอนาคตอีกด้วย
เห็นแบบนี้แล้ว ดีใจแทนบรรดาเหล่านักวิจัยทั้งหลาย ที่จะมีคนมาช่วยสานต่อผลงานวิจัยให้เป็นรูปธรรม รวมทั้งบรรดานักเรียน นักศึกษา องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน หรือผู้ที่ต้องการแสวงหาความรู้ด้านนวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะได้มีแหล่งข้อมูลดีๆ เพิ่มอีกแห่งหนึ่ง
ใครอยากรู้ว่าศูนย์แห่งนี้จะสามารถเข้ามาพลิกโฉมวงการนวัตกรรมได้จริงหรือไม่ งานนี้ขอบอกว่าต้องรีบไปดูด้วยตาตัวเองได้ที่ Open Innovation Center โดยเอสซีจีด่วนเลย เปิดให้เยี่ยมชมได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.
หรือถ้าต้องการสร้างความร่วมมือกับเอสซีจี สามารถสอบถามรายละเอียดและนัดหมายเพื่อสำรองวันและเวลาในการเยี่ยมชมล่วงหน้าได้ที่อีเมล openinnovation@scg.com และ โทร. 02-586-1065 หรือ 02-586-6324
Eden Ekkamai ชูแนวคิด “One Family, Three Residences” นิยามใหม่ของการอยู่อาศัย มอบสมดุลแห่งความผูกพันให้ทุกเจเนอเรชัน บนพื้นที่เริ่มต้น 777 ตร.ม.
yesterday
BRI โชว์รายได้ปี 67 รวม 3,860 ล้านบาท กำไรสุทธิ 427 ล้านบาท เตรียมเสนอแผนขายหุ้นสามัญเสริมแกร่งฐานเงินทุน
yesterday
ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ เผยผลประกอบการปี 67 มียอดรับรู้รายได้ 3,696.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 588.04 ล้านบาท พร้อมจ่ายปันผล 0.34 บาท/หุ้น ปี 68 ตั้งเป้ายอดขาย 5,000 ล้านบาท
yesterday
แสนสิริ บุกงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 47 ส่งโปรฯเด็ด “สำราญดีล รับโปรชิลๆ 7 ต่อ*” รับส่วนลดสูงสุด 7 ล้าน* วันที่ 20-23 มี.ค. 68 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ฯ
yesterday
ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ กวาดรายได้รวมปี 67 กว่า 11,985 ล้านบาท โชว์ยอด Backlog 44,562 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่อง 4 ปี
yesterday
ตัวหนังสืออ่านง่ายมาครับ
นักเขียนมืออาชีพ งานคุณภาพและมีประโยชน์มากค่ะ
ดีมากค่ะ ดีทุกส่วนเลย
รีวิวได้ชวนซื้อมากๆครับ ฮ่าๆ