เพอร์เฟคJVซูมิโตโมผุดคอนโดหรู 4.5 พันล้าน

“พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค” ควง “แกรนด์แอสเสทฯ” จอยต์เวนเจอร์ “ซูมิโตโม ฟอเรสทรี” ยักษ์ใหญ่ธุรกิจไม้และรับสร้างบ้านของญี่ปุ่น ประเดิมคอนโดฯลักเซอรี่แห่งใหม่ย่านทองหล่อ มูลค่าลงทุน 4,514 ล้านบาท

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มเพอร์เฟคร่วมลงทุน (จอยต์เวนเจอร์) กับพันธมิตรญี่ปุ่น ร่วมลงทุนคอนโดมิเนียมระดับลักเซอรี่ บนพื้นที่ 2.5 ไร่ ริมถนนสุขุมวิท ระหว่างสถานีบีทีเอสทองหล่อกับเอกมัย ทำเลที่ตั้งห่างสถานีทองหล่อ 350 เมตร ออกแบบเป็นคอนโดฯไฮไรส์ สูง 45 ชั้น 400 ยูนิต ตามแผนเปิดตัวโครงการและเริ่มก่อสร้างในปี 2561 คาดว่าแล้วเสร็จในปี 2563 มูลค่าลงทุน 4,514 ล้านบาท

ทั้งนี้ กลุ่มเพอร์เฟคและบริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมลงนามในสัญญาความร่วมมือพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับนายอาคิระ อิชิคาวะ ประธาน, นายทัตสึโอะ อิวางาคิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี (สิงคโปร์) จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุน โดยแกรนด์ แอสเสทฯ ถือหุ้น 40%, เพอร์เฟค 11% อีก 49% ถือหุ้นโดยซูมิโตโม ฟอเรสทรี (สิงคโปร์) (Sumitomo Forestry (Singapore) Ltd.)

“ซูมิโตโม ฟอเรสทรี มีประวัติยาวนาน 326 ปี เป็นผู้นำในธุรกิจป่าไม้และธุรกิจก่อสร้างบ้านของญี่ปุ่น ในขณะที่ทำเลทองหล่อตลาดหลักคือญี่ปุ่น แม้มีการแข่งขันสูง แต่ก็มีดีมานด์ต่อเนื่อง จอยต์เวนเจอร์กับซูมิโตโมฯจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี นอกจากคอนโดฯทองหล่อแล้ว เรายังมีแผนสานต่อความร่วมมืออื่น ๆ เพิ่มเติมในอนาคตด้วย”

นายวิทวัส วิภากุล กรรมการและกรรมการบริหาร แกรนด์ แอสเสทฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกแบบคอนโดฯ ใช้แนวคิด timeless ผสมผสานคลาสสิกและโมเดิร์น เน้นหรูหราสวยงามร่วมสมัยไร้กาลเวลา โดยแกรนด์ แอสเสทฯ มีประสบการณ์พัฒนาโครงการในทำเลสุขุมวิท ได้แก่ คอนโดฯไฮด์ สุขุมวิท 11 และไฮด์ สุขุมวิท 13 โรงแรมระดับห้าดาว เดอะ เวสติน แกรนด์ สุขุมวิท, ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท โรงแรมแห่งใหม่บนถนนสุขุมวิท 13 ติดคอนโดฯไฮด์ ที่จะเปิดให้บริการต้นปีหน้า

นายอาคิระ อิชิคาวะ กล่าวว่า การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยในขณะนี้ ทำให้ซูมิโตโม ฟอเรสทรี มีความสนใจลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในประเทศไทย ความร่วมมือกับกลุ่มเพอร์เฟคถือเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว และยังเป็นการขยายธุรกิจพัฒนาอสังหาฯในภูมิภาคเอเชีย ช่วยสร้างฐานรายได้จากธุรกิจในต่างประเทศให้แก่บริษัทเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากการลงทุนในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลียก่อนหน้านี้

“ดีลร่วมทุนครั้งนี้ นอกจากเห็นโอกาสการลงทุนในประเทศไทยที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเป็นความร่วมมือที่เกิดขึ้นในโอกาสสำคัญ ในวาระครบรอบ 130 ปีความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ญี่ปุ่นด้วย”

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/property/news-57556