มหาลัยกรุงเทพเนื้อหอม ขาใหญ่รุมจีบซื้อ ”วิทยาเขตกล้วยน้ำไท”

มหา”ลัยกรุงเทพเนื้อหอม ขาใหญ่รุมจีบซื้อ”วิทยาเขตกล้วยน้ำไท”

ม.กรุงเทพเนื้อหอม ยักษ์ธุรกิจรุมจีบซื้อ “วิทยาเขตกล้วยน้ำไท” ที่ดินกว่า 26 ไร่ ทั้งกลุ่ม “ลอริเอท” เครือข่ายมหาวิทยาลัยนานาชาติของสหรัฐ คิง เพาเวอร์-ไทยเบฟ “ดร.เจริญ คันธวงศ์” ยอมรับมีนายหน้าติดต่อเข้ามาหลายราย

ทุนไทย-เทศจีบ ม.กรุงเทพ

แหล่งข่าวจากแวดวงการศึกษาเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า เครือลอรีเอท หรือ Laureate International Universities เครือข่ายมหาวิทยาลัยนานาชาติชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายเครือข่ายธุรกิจการศึกษาในประเทศไทยมากขึ้น

โดยมีความสนใจซื้อมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ซึ่งผู้บริหารได้มีการพบปะพูดคุยกันถึงรายละเอียดแล้ว นอกจากนี้ล่าสุดทางมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้ดำเนินการย้ายหน่วยงาน และคณะอื่น ๆ ออกจากวิทยาเขตกล้วยน้ำไท ไปยังวิทยาเขตรังสิต โดยตั้งเป้าให้วิทยาเขตกล้วยน้ำไทเป็นแคมปัสสำหรับหลักสูตรอินเตอร์เท่านั้น

ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจได้สอบถามข้อมูลไปยังมหาวิทยาลัยกรุงเทพเกี่ยวกับการร่วมเป็นพันธมิตรกับเครือลอรีเอท ได้รับแจ้งว่า “นายเพชร โอสถานุเคราะห์” อธิการบดีมหาวิทยาลัยกรุงเทพ และในฐานะเจ้าของ ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ส่วนรองอธิการบดีที่เกี่ยวข้องปฏิเสธให้ข้อมูล

สำหรับเครือลอรีเอทมีมหาวิทยาลัยในเครือกว่า 75 สถาบัน ใน 25 ประเทศทั่วโลก มีนักศึกษาในมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั่วโลกรวมกว่า 1 ล้านคน โดยเมื่อปี 2555 ได้เข้ามาขยายเครือข่ายในไทย และได้ซื้อมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด นอกจากนี้มีรายงานข่าวได้มีการทาบทามไปยังมหาวิทยาลัยรังสิต แต่ “ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์” เจ้าของและอธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ปฏิเสธข้อเสนอ

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่านอกจากเครือลอรีเอทแล้ว ที่ผ่านมายังมีกลุ่มธุรกิจใหญ่อีกหลายรายที่สนใจและติดต่อขอซื้อวิทยาเขตกล้วยน้ำไท อาทิ กลุ่มคิง เพาเวอร์, ไทยเบฟของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นต้น

ย้าย อจ.-เจ้าหน้าที่ไปรังสิต

ขณะที่ ดร.เจริญ คันธวงศ์ กรรมการสภามหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวมีผู้สนใจเข้ามาเจรจาซื้อมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท หลายราย ส่วนใหญ่จะเป็นนายหน้าที่เข้ามาติดต่อว่ามาจากคนนั้นคนนี้

ซึ่งส่วนตัวก็ได้สอบถาม อาจารย์เพชร โอสถานุเคราะห์ ก็ได้รับการยืนยันว่าไม่มีความคิดที่จะขาย และช่วงนี้อาจมีกระแสข่าวมากขึ้น เพราะในการประชุมกรรมการสภามหาวิทยาลัย เมื่อ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการแจ้งเรื่องมหาวิทยาลัยจะย้ายอาจารย์-เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ที่ประจำอยู่ที่วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ไปอยู่ที่วิทยาเขตรังสิต

เนื่องจากนักศึกษาของ ม.กรุงเทพทั้งหมดราว 24,000 คน จำนวนกว่า 2 หมื่นคนอยู่ที่วิทยาเขตรังสิต ขณะที่กล้วยน้ำไทมีนักศึกษาประมาณ 4,000 คนเท่านั้น เป็นหลักสูตรนานาชาติ ปริญญาโทและปริญญาเอก ดังนั้นจึงเห็นว่าควรที่จะย้ายอาจารย์-เจ้าหน้าที่ไปอยู่ที่วิทยาเขตรังสิต จะเหมาะสมและสะดวกกับนักศึกษามากกว่า ซึ่งทำให้ที่วิทยาเขตกล้วยน้ำไทจะมีอาคารว่างลง ก็มีแผนจะทำการรีโนเวตเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น ๆ ซึ่งยังไม่มีการแจ้งว่าจะทำอะไร

สำหรับกรณีที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ อาจจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาอื่นหรือบริษัทเอกชนอื่น ๆ เข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจหรือสร้างประโยชน์จากที่ดินหรือไม่ ดร.เจริญกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ

อย่างไรก็ตาม ดร.เจริญยอมรับว่าในสถานการณ์ปัจจุบันที่จำนวนประชากรเกิดใหม่น้อยลง ผู้ที่สมัครเข้าเรียนแต่ละปีลดลง ก็ทำให้ในส่วนของสถาบันการศึกษา มหาวิทยาลัยต้องมีการปรับตัวอย่างมาก ซึ่งนอกจากหลักสูตรต่าง ๆ ต้องมีการปรับเปลี่ยน ต่อไปในอนาคตก็อาจเห็นภาพการควบรวมของมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นได้

ราคาซื้อขาย ตร.ว.ละ 5 แสน

ด้าน “ดร.แอนดรูว์ สกาวน์” อธิการบดีมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด ในเครือลอรีเอท กล่าวว่า ประเด็นที่เครือลอรีเอทจะซื้อมหาวิทยาลัยกรุงเทพนั้น ตนไม่ทราบเรื่อง ที่ผ่านมาก็มีกระแสที่ว่าเครือลอรีเอทมีความสนใจเข้าไปซื้อมหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่ง ซึ่งส่วนตัวก็มองว่าเป็นเรื่องปกติของธุรกิจด้านการศึกษา

ตอนนี้มหาวิทยาลัยมีนักศึกษาประมาณ 4,000 คน และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี มีสัดส่วนนักศึกษาไทยกับต่างชาติอยู่ที่ 70:30 ถึงแม้นักศึกษาจะเพิ่มขึ้น แต่แสตมฟอร์ดไม่มีแผนที่จะเพิ่มแคมปัสใหม่แต่อย่างใด

“เรามีแคมปัสอยู่ 3 แห่ง คือ พระราม 9, หัวหิน และศูนย์การศึกษาอโศกแคมปัส อาคารเอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์ ซึ่งทั้ง 3 แคมปัสยังสามารถรองรับนักศึกษาได้ อีกทั้งกำลังพัฒนาวิทยาเขตหัวหิน ให้สามารถรับจำนวนนักศึกษาต่างชาติเพิ่มขึ้น ด้วยการเพิ่มหลักสูตรนานาชาติเข้าไป จากเดิมที่มีเฉพาะหลักสูตรภาษาไทย และหลักสูตรสองภาษาเท่านั้น”

นอกจากนี้ เครือลอรีเอทยังมีแผนบุกตลาดอาเซียน โดยได้ขยายเข้าไปในประเทศเมียนมาแล้ว ด้วยการเปิดหลักสูตร MBA ภายใต้แบรนด์แสตมฟอร์ดโดยใช้คณาจารย์จากประเทศไทยเข้าไปทำการสอน ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการประเมินศักยภาพและความต้องการของตลาดในประเทศอื่น ๆ อีกด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท มีเนื้อที่ 26 ไร่ 3 งาน 89 ตารางวา ประกอบด้วย อาคารเรียนและสำนักงานรวม 17 หลัง มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวม 67,035 ตารางเมตร ประกอบด้วย อาคารเรียน 7 อาคาร โรงอาหารและห้องสมุด 1 อาคาร อาคารอื่น ๆ จำนวน 9 อาคาร พื้นที่ดังกล่าวถือว่าเป็นอีกทำเลกลางเมืองที่น่าสนใจ โดยราคาซื้อขายในย่านดังกล่าวอยู่ที่ตารางวาละประมาณ 5 แสนบาท

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/education/news-167707