Favorite
โดย LifeScape
ห้องประกาศ ขาย เช่า เดอะ ทรี ดินแดง-ราชปรารภ ดูที่นี่..
เอาจริงๆ แล้ว ทำเลดีๆ ใจกลางเมืองที่อยู่ติดถนนใหญ่เริ่มหายากขึ้นทุกวัน หรือถ้าหาได้ก็มีราคาสูงเกินกำลัง จึงไม่น่าแปลกใจที่ตอนนี้คอนโดหลายๆ โครงการเริ่มขยับเข้าไปอยู่ในซอย ช่วยให้ผู้คนได้อยู่อาศัยใกล้ใจกลางเมืองมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ควักกระเป๋าจ่ายน้อยลง
แต่ถึงจะเข้าซอย หลายคนก็ยังอยู่ในช่วงต้นๆ ซอย เดินทางไม่ยาก และใกล้ศูนย์กลางการเดินทางที่สะดวกสบาย ซึ่งข้อนี้เองเป็นจุดเด่นของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มือเก๋าอย่าง พฤกษา เรียลเอสเตท ที่ขึ้นชื่อเรื่องความมีฝีมือในการเสาะหาทำเลทางเลือกใหม่ๆ
ตั้งแต่รอบนอกแต่ก็เป็นใจกลางย่านชุมชนสำหรับสร้างบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม ทำเลกลางเมืองเกรดพรีเมี่ยมจนถึงไฮเอนด์ และที่ขาดไม่ได้ก็คือคอนโดระดับกลางที่ซื้อใจคนเมืองด้วยการเสาะหาทำเลใจกลางเมืองที่มาพร้อมราคาที่เอื้อมถึงได้
ล่าสุด พฤกษา ก็ได้เปิดตัวโครงการน้องใหม่อย่าง “The Tree ดินแดง-ราชปรารภ” คอนโด Low Rise ที่ชูจุดขายว่าเป็นคอนโดที่ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพกลางใจเมือง ใกล้จุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางที่ใหญ่ที่สุดในกทม. นั่นก็คือ “ดินแดง-ราชปรารภ” ในราคาเริ่มที่ล้านต้นๆ เท่านั้น ก่อนจะเข้าไปดูภายในโครงการ มาลงลึกที่ทำเลและการเดินทางกันก่อน
The Tree ดินแดง-ราชปรารภ ตั้งอยู่ในซอยดินแดง 1 หรือซอยโรงเรียนราชประสงค์ ห่างจากปากซอยที่เป็นถนนดินแดงเพียง 150 เมตร รายล้อมด้วยถนนสายสำคัญอย่าง ถนนดินแดง เพชรบุรี ราชปรารภ จตุรทิศ ที่สามารถไปยังถนนสายสำคัญๆ ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลอย่างถนนอโศก ราชวิถี ศรีอยุธยา รางน้ำ พหลโยธิน พญาไท วิภาวดีรังสิต รวมทั้งย่าน New CBD ที่กำลังมาแรงอย่างพระราม 9 ได้ไม่ยาก
ถนนดินแดง ถือเป็นถนนสายหลักที่ผ่านหน้าโครงการ The Tree ดินแดง-ราชปรารภ โดยหัวถนนมีจุดเริ่มต้นบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ซึ่งเป็นจุดตัดของถนนดินแดงและถนน 2 สายหลัก นั่นคือ
• ถนนราชวิถี ที่วิ่งตรงไปตัดกับถนนพญาไทและถนนพหลโยธินที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านถนนราชวิถี ศูนย์กลางโรงพยาบาลที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทยและผ่านสถานที่สำคัญอย่างเขาดิน สวนจิตรลดา สี่แยกสะพานซังฮี้ และไปสิ้นสุดก่อนขึ้นสะพานซังฮี้ที่ข้ามไปฝั่งธนฯ
• ถนนราชปรารภ ถนนที่มีความยาวเพียง 1.4 กม. แต่กลับมีเม็ดเงินสะพัดหลายร้อยหลายพันล้านต่อปี เพราะนี่คือศูนย์กลางค้าส่งเสื้อผ้าขนาดใหญ่ แถมยังตัดกับถนนสายสำคัญอย่างถนนรางน้ำ ถนนศรีอยุธยา และไปสิ้นสุดที่แยกประตูน้ำซึ่งเป็นจุดตัดกับถนนเพชรบุรีพอดี
นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับทางเบี่ยงขวาไป ถนนวิภาวดีรังสิต ที่จะพาคุณออกไปทางฝั่งห้าแยกลาดพร้าว พหลโยธิน หลักสี่ ดอนเมือง และไปสิ้นสุดที่อนุสรณ์สถานซึ่งบรรจบกับถนนพหลโยธินอีกครั้ง
ที่สำคัญ จากถนนดินแดงเลี้ยวขวาเข้าวิภาวดี วิ่งตรงไปประมาณ 1.5 กม. ก่อนถึงโรงพยาบาลทหารผ่านศึก จะมีซอยพหลโยธิน 2 ที่สามารถวิ่งทะลุไปโผล่ที่ถนนพหลโยธิน บริเวณอาคารแสงโสม แถวสนามเป้าได้ ช่วยลดเวลาสำหรับคนที่ต้องการเดินทางไปยังซอยอารีย์ ซอยราชครู สะพานควาย หรือสวนจตุจักรได้
ในขณะที่ถนนจตุรทิศ ก็ถือเป็นถนนสายสำคัญที่เชื่อมต่อชีวิตผู้คนฝั่งถนนศรีอยุธยา ราชปรารภ รางน้ำ และพญาไท ให้เดินทางไปยังถนนดินแดงและถนนพระราม 9 ได้ง่ายและประหยัดเวลามากขึ้น หรือจะวิ่งตรงขึ้นทางด่วนเพื่อไปยังถนนรามคำแหง ศรีนครินทร์ หรือไปลงมอเตอร์เวย์เพื่อไปยังสนามบินสุวรรณภูมิหรือออกนอกเมืองไปทางภาคตะวันออกของไทยอย่างชลบุรี ระยอง ฯลฯ
ถนนพระราม 9 ศูนย์กลางธุรกิจ การค้า และการท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่กำลังมาแรง ก็อยู่ไม่ไกลจากตัวโครงการ สามารถวิ่งทางปกติมาตามถนนดินแดงประมาณ 2.4 กม. ก็จะเจอกับสี่แยกพระราม 9 หรือแยกฟอร์จูน ซึ่งเป็นแยกที่ถนนดินแดง ตัดกับถนนอโศก-ดินแดง ถนนรัชดาภิเษก และถนนพระราม 9 ซึ่งถือเป็น New CBD ใหม่ที่กำลังมาแรง เป็นศูนย์กลางธุรกิจ การค้าและช้อปปิ้ง และที่ตั้งออฟฟิศสำนักงานระดับโลกมากมาย
หรือจะหนีรถติดจากถนนดินแดง ไปใช้เส้นทางลัดใต้ทางด่วนไปออกถนนจตุรทิศ เพื่อไปยังพระราม 9 หรืออโศก-ดินแดงก็ได้ หรือจะยูเทิร์นเพื่อไปยังราชปรารภและถนนศรีอยุธยาก็ได้เช่นกัน
ที่สำคัญ ทำเลที่ตั้งของโครงการยังอยู่ใกล้ 3 จุดขึ้นลงทางด่วน คือ ทางด่วนศรีรัช ทางด่วนเฉลิมมหานคร และดอนเมืองโทลล์เวย์ ที่ช่วยให้เข้าออกเมือง เชื่อมต่อชีวิตกับกรุงเทพฯ ชั้นในได้ไม่ยาก หรือจะออกไปรอบนอกอย่างพระราม 2 หรือรังสิตก็ไม่นาน
นอกจากการเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว The Tree ดินแดง-ราชปรารภ ยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสำคัญ 3 สาย นั่นคือ
รถไฟฟ้า BTS สถานีอนุสาวรีย์ชัย ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.2 กม. ถือเป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญที่วิ่งไปยังใจกลางย่านธุรกิจอย่างสุขุมวิท สีลม สาทร
รถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม สถานีดินแดง ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 950 เมตร สำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มจะวิ่งเชื่อมกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน โดยเริ่มวิ่งมาตั้งแต่สถานีตลิ่งชัน มาทางบางขุนนนท์ ศิริราช สนามหลวง ยมราช ราชเทวี ประตูน้ำ ราชปรารภ ดินแดง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ประดิษฐ์มนูญธรรม รามคำแหง สัมมากร มีนบุรี ไปสิ้นสุดที่สุวินทวงศ์ รวม 30 สถานี 39.6 กม.
รถไฟฟ้า Airport Link สถานีราชปรารภ ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.4 กม. เป็นรถไฟฟ้าสายสำคัญที่วิ่งตั้งแต่สถานีพญาไท ผ่านมาทางราชปรารภ มักกะสัน รามคำแหง หัวหมาก บ้านทับช้าง ลาดกระบัง และไปสิ้นสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ
หรือจะใช้บริการขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบายมาก เพราะถนนดินแดงมีทั้งรถเมล์และรถตู้วิ่งผ่าน ซึ่งส่วนใหญ่จะวิ่งตรงไปยังอนุสาวรีย์ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญที่สุดของกรุงเทพฯ ส่วนเช้าๆ ถ้ารีบเร่งก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการตลอดสองฝั่งถนน
บทสรุปการเดินทาง เรียกว่าแม้จะไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองติดถนนใหญ่ แต่ด้วยรูปแบบการเดินทางที่ครบครันทั้งรถยนต์ส่วนตัว ใช้ได้ทั้งถนนสายหลักและทางด่วน แถมยังอยู่ใกล้รถไฟฟ้า 3 สาย ก็เริ่มสัมผัสได้ถึงความสะดวกสบาย เพิ่มเสน่ห์ให้กับ The Tree ดินแดง-ราชปรารภ ได้มากขึ้นเลยทีเดียว
ส่วนสภาพแวดล้อมตั้งอยู่กลางชุมชนขนาดใหญ่ อยู่ใกล้แหล่งชุมชนและแฟลตดินแดงซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการฟื้นฟูโครงการและปรับภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม... สำหรับใครที่กลัวว่าจะเหงาหรือหาของกินยาก... บอกเลยว่าทำเลนี้ไม่มีเหงาและไม่มีหิวแน่นอน
เพราะอย่างที่บอกไปตอนต้นว่า ล้อมรอบโครงการด้วยถนนสายสำคัญมากมายจึงอยู่แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งพักผ่อน และห้างสรรพสินค้ามากมาย อาทิ
โซนอนุสาวรีย์ชัยที่มีห้าง Century และ Center One รวมทั้งสวนสาธารณะใจกลางเมืองอย่างสวนสันติภาพ
โซนราชปรารภก็อยู่ใกล้กับศูนย์กลางค้าส่งขนาดใหญ่อย่างประตูน้ำที่มีห้างขายส่งขึ้นชื่ออย่างห้างแพลตตินั่ม ใบหยกทาวเวอร์ และตลาดประตูน้ำ
โซนรางน้ำ ที่มี Street Food อยู่ตลอดสองข้างทาง และเป็นที่ตั้งของห้าง King Power
โซนราชดำริ อยู่ไม่ไกลจากโซนราชปรารภ-ประตูน้ำ มีห้างเซ็นทรัลเวิลด์ บิ๊กซีราชดำริ และห้างไฮเอนด์มากมายบริเวณแยกราชดำริ
โซนพระราม 9 มีห้างเซ็นทรัลพระราม 9, ฟอร์จูนทาวเวอร์, โชว์ ดีซี
นอกจากแหล่งช้อป ชิม เที่ยวแล้ว ทุกโซนข้างต้นยังเป็นแหล่งรวมอาคารสำนักงานมากมาย โดยเฉพาะย่าน New CBD พระราม 9 ที่เป็นที่ตั้งของออฟฟิศขนาดใหญ่ที่กำลังมาแรง รวมทั้งใกล้กับศูนย์กลางทางการแพทย์มากมาย ตั้งแต่โรงพยาบาลพญาไท 1,2 ไล่ยาวไปจนถึงโรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเด็ก โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ โรงพยาบาลรามาธิบดี ฯลฯ
The Tree ดินแดง-ราชปรารภ คอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่ 1-2-76 ไร่ รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 226 ยูนิต เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน มีพื้นที่ให้เลือกตั้งแต่ 22.50-34 ตร.ม.
สำหรับ Concept การก่อสร้างและออกแบบโครงการก็สมกับที่ชื่อโครงการว่า The Tree เพราะมาพร้อมแนวคิดว่า “สุนทรียภาพแห่งป่าใจกลางเมือง” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผสมผสานนวัตกรรมสมัยใหม่เข้ากับความเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวกและสร้างความสุขในการใช้ชีวิต
ภายในโครงการออกแบบเน้นความร่มรื่นจากต้นไม้ และสีสันจากธรรมชาติโดยเฉพาะสีเขียว เข้ามาเติมเต็มพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น โดยเลือกใช้โทนสีและของตกแต่งที่มีความกลมกลืนและเป็นธรรมชาติ เช่น โทนสีเขียว โทนสีส้มอิฐ โทนสีน้ำตาลเข้มและอ่อน การเลือกใช้วัสดุประเภทไม้ระแนง เครื่องจักสาน เพื่อสื่อถึงความเป็นชาวตะวันออก
ตัวอาคารแบ่งออกเป็น ชั้น 1 ล็อบบี้ โซนพักผ่อน ห้องล็อกเกอร์ และห้องจดหมาย และมีตัวอย่างภาพของแต่ละห้องปล่อยมาดังนี้
มาเริ่มกันที่ภาพแรกกับโซนล็อบบี้ที่เน้น Texture และโทนสีทึบเคร่งขรึมที่เน้นความเป็นธรรมชาติของสวนป่า เน้นเพดานโปร่ง โล่ง สูง เพิ่มความน่าสนใจด้วยแชนเดอร์เลียรูปทรงแปลกตา ตัดกับลวดลายตามฝาผนังที่เลียนแบบมาจากธรรมชาติ และวัสดุประเภทหินอ่อน Black Forest ลวดลายต่างๆ และภายในล็อบบี้ยังเป็นที่ตั้งของห้องเมล์
ส่วนไฮไลท์ของโครงการที่ดูสวยตื่นตาตื่นใจก็คือพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 2 ที่มีครบทั้งโซนพักผ่อน สระว่ายน้ำระบบเกลือ ฟิตเนส ห้องอเนกประสงค์ พื้นที่พักผ่อน สวนแนวตั้ง-น้ำพุล้น
พื้นที่ส่วนกลางชั้น 2 ภายนอกประกอบด้วยสระว่ายน้ำระบบเกลือ โซนพักผ่อนท่ามกลางพื้นที่สีเขียว ที่มีทั้งสวนแนวราบและสวนแนวตั้ง โดยเน้นโทนสีเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่กลมกลืนกับธรรมชาติ แต่ยังคงรูปแบบงานดีไซน์สไตล์โมเดิร์นที่ให้ความรู้สึกแบบชาวตะวันออก
ภาพด้านอีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำระบบเกลือ ที่เน้นรูปทรงดีไซน์ที่เพิ่มความกลมกลืนกับธรรมชาติ และส่วนของที่นั่งเล่นพักผ่อน บังตาสระจากภายนอกด้วยผนังต้นไม้ และไม้ยืนต้น
ภาพสระว่ายน้ำระบบเกลือ มองย้อนกลับไปยังอาคารที่พักอาศัย จะเห็นถึงความร่มรื่นของแนวต้นไม้สีเขียวที่มีอยู่ตลอดทางเดินรอบสระ
ภาพบรรยากาศสวนแนวตั้ง และม้านั่งสำหรับพักผ่อนในพื้นที่พักผ่อนของโครงการ ที่เราจะได้เห็นสวนแนวตั้งดีไซน์แปลกตาตลอดแนวรอบโครงการ
บรรยากาศภายในห้องฟิตเนสชั้น 2
บรรยากาศภายในห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 ที่ทำเป็นห้องดูหนังหรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก็ได้
บรรยากาศภายในห้องอเนกประสงค์ชั้น 2 ที่ทำเป็นโซนทำงานหรือ Co-Working ซึ่งมีการแบ่งสัดส่วนให้เลือกนั่งหลากหลายรูปแบบทั้งแบบส่วนกลางนั่งรวมกัน และห้องส่วนตัวขนาดเล็ก
และภาพบรรยากาศทางเดินเชื่อมในอาคารที่เน้นการใช้วัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ แต่มีความหรูหรา พร้อมหน้าต่างบานสูงเพื่อรับวิวธรรมชาติจากภายนอก
จากตัวอย่างภายนอกโครงการก็เข้ามาสู่ Sale Office ของจริงกันบ้าง จากภาพด้านล่างจะเห็นได้ว่าทางโครงการจะคลุมโทนให้ออกมาในแนวเคร่งขรึม โทนเข้มด้วยการใช้กระเบื้องลายหินอ่อน แบบเดียวกับที่ใช้ใน Lobby โครงการ เพิ่มด้วยวัสดุตกแต่งลวดลายเลียนแบบธรรมชาติ ใช้แสงไฟสีเหลืองอ่อน และเพดานสูงโปร่ง มาช่วยทำให้รู้สึกสบายและผ่อนคลายมากขึ้น
ตัวโครงการมีทั้งหมด 1 อาคาร เป็นอาคารรูปตัว U ทุกห้องจะได้รับแสงแดดและลมในปริมาณพอๆ กัน แตกต่างตามช่วงเวลา ส่วนกลางของตัว U จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในชั้น 2 ส่วนพื้นที่จอดรถจะอยู่ที่บริเวณชั้น 1 และรอบๆ อาคาร
สำหรับแบบห้องของที่นี่แบบเดียวคือ 1 ห้องนอน แต่มีพื้นที่ใช้สอยและการวางผังเมืองให้เลือก 4 แบบคือ ขนาด 34.25 ตร.ม. ขนาด 28 ตร.ม. ขนาด 26.25 ตร.ม. และขนาด 22.60 ตร.ม. ตามตัวอย่างผังห้องด้านล่าง
โดยทางโครงการได้เปิดห้องให้เข้าชมห้องตัวอย่างขนาดใหญ่สุดคือ 34.25 ตร.ม. ซึ่งวันนี้เรามีภาพจริงมาฝากกัน เริ่มกันที่หน้าห้องตัวอย่างที่มีผังห้องให้ทำความเข้าใจทิศทางกันก่อนเลย
สำหรับห้องขนาด 34.25 ตร.ม. มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดของโครงการ เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเจอกับห้องนั่งเล่น แบ่งสัดส่วนห้องนอนออกจากพื้นที่อื่นๆ ชัดเจน โดยห้องน้ำ ห้องครัว และระเบียงจะอยู่ในโซนเดียวกัน
เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็จะพบกับห้องนั่งเล่นเป็นห้องแรก ซึ่งโครงการเลือกใช้วัสดุประเภทหินอ่อนมาตกแต่งทำเป็นผนังเสริมความเป็นธรรมชาติแต่ดูหรูหรา ซึ่งข้อดีของดีไซน์ประเภทนี้ก็คือ ทำความสะอาดง่าย ปกปิดรอยขีดข่วนได้ สำหรับห้องนั่งเล่นมีพื้นที่กว้างพอๆ กับห้องนอน ผนังกั้นระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นเป็นผนังทึบ
จากห้องนั่งเล่น มองไปจะเห็นประตูห้องนอน ส่วนด้านซ้ายมือเป็นประตูกระจกใสเปิดไปยังโซนครัวที่มีห้องน้ำ และระเบียงอยู่ด้วย
ภาพมุมตัดเห็นห้องนั่งเล่นและห้องนอนติดกัน ซึ่งโซนห้องนั่งเล่นกว้างจริงๆ สามารถจัดสรรเพิ่มมุมทำงาน หรือจะเพิ่มตู้บิ้วท์อิน ตู้โชว์ ก็ยังมีพื้นที่เหลือเฟือ
ข้างๆ ห้องนั่งเล่น ออกแบบทางเดินไปโซนครัวและห้องน้ำให้เป็นมุมหลบนิดๆ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยได้ชัดเจนที่เดียว โดยเป็นประตูกระจกกั้น สามารถปิดประตูเพื่อป้องกันไม่ให้กลิ่นอาหารกระจายออกมาภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้ดีเลย
อย่างที่บอกไปว่า พื้นที่ห้องนอนกับห้องนั่งเล่นใหญ่พอๆ กัน สามารถวางเตียง 6-8 ฟุตได้สบายๆ แถมมีพื้นที่รอบๆ เหลือพอจะวางโต๊ะเครื่องแป้ง ทีวี และตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ มาพร้อมหน้าต่างกระจกบานใหญ่
ที่ว่างบริเวณปลายเตียงทำเป็นตู้เสื้อผ้าและตู้บิ้วท์อิน
ข้างเตียงเป็นโซนที่ทางโครงการออกแบบให้เป็นโต๊ะบิ้วท์อินยาวตลอดแนวกำแพง แบ่งพื้นที่เป็นได้ทั้งโต๊ะเครื่องแป้งและโซนทำงานเล็กๆ ส่วนหัวเตียงก็มีชั้นวางของที่เล่นระดับให้อยู่ต่ำลงมาจากโต๊ะเครื่องแป้ง
ส่วนห้องครัวก็อยู่ติดกับระเบียงขนาดใหญ่ เปิดรับลมหรือระบายกลิ่นอาหารไปด้านนอกได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นอับ มีพื้นที่ใช้สอยสบายมาก จัดวางบิ้วท์อินครัวได้เต็มที่ ทั้งตู้บิ้วท์อินเก็บของด้านบน ตู้เก็บของด้านล่าง เตาไฟฟ้า ซิงค์ล้างจาน และชั้นวางเตาอบหรือไมโครเวฟ และมีพื้นที่ว่างวางโต๊ะทานข้าวขนาด 2-4 คนได้สบายๆ
ส่วนในห้องน้ำโครงการให้สุขภัณฑ์เป็นยี่ห้อ Cotto มีอ่างล้างหน้า, กระจกเงาขนาด 1.2X1.2 m. , มีช่องใส่ของตรงห้องอาบน้ำ แต่ไม่มีประตูกระจกนิรภัยกั้นโซนอาบน้ำ แต่มีธรณีกั้นโซนเปียกแห้ง
ที่สำคัญทางโครงการออกแบบให้ประตูห้องน้ำตรงกับประตูระเบียงภายนอก สามารถเปิดรับแสงแดดส่องเข้ามาเพื่อช่วยระบายกลิ่นอับและความชื้นได้ บวกกับมีเครื่องระบายอากาศก็ช่วยลดปัญหาเรื่องกลิ่นอับในห้องน้ำไปได้เยอะเลย
ปิดท้ายที่ระเบียงภายนอก ทางโครงการแขวนตู้แอร์ไว้ทั้ง 2 ตัว เหลือพื้นที่ด้านล่างไว้สำหรับวางเครื่องซักผ้าได้พอดี และมีพื้นที่เหลืออีกเล็กน้อยพอที่จะตากผ้าหรือยืนรับลมได้ แต่อย่างที่บอกว่าตัวโครงการอยู่ท่ามกลางชุมชนขนาดใหญ่ แนะนำให้เลือกและสอบถามเกี่ยวกับมุมห้องและทิศทางของห้องให้ดี
ภายในโครงการมีลิฟต์โดยสารให้ 1 ตัว เป็นลิฟต์แบบล็อคชั้น มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานทั้ง รปภ. ดูแล 24 ชม., กล้องวงจรปิด และเข้าออกผ่านระบบ Bluetooth เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้ลูกบ้านอีกด้วย อีกทั้งยังมีระบบ Urban Forestry Living Assistance เช่น ระบบนับที่จอดรถ และระบบ IOT ที่เป็นผู้ช่วยให้ลูกบ้านสามารถอยู่ด้วยความสะดวกสบายมากขึ้นในการอยู่อาศัยโครงการ
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้มาใน ราคาเริ่มต้นตอนเปิดตัวที่ 1.49 ล้านบาท หรือประมาณ 66,100 บาท/ตร.ม. ถือว่าน่าสนใจทีเดียวกับราคาเปิดตัวที่แจ้งมาเมื่อเทียบกับศักยภาพของทำเลที่ค่อนข้างครบครัน และพิเศษ! เปิดโซนหน้าสวน เริ่ม 2.xx ล้านบาท* แว่วๆ มาว่า ตอนนี้มีส่วนลดสูงสุดถึง 100,000 บาทอีกด้วย
สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนกันไว้ก่อนได้ที่ http://bit.ly/2n31Zp5 หรือโทร. 1729
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ชอบการเขียนลงทุนค่ะ
ห้องดูกว่างมากเลยโครงการนี้
ชอบมากๆๆ ไอเดียดีมาก