Favorite
โดย Salaryman Estator
ผมไม่ได้กำลังจะโฆษณาอะไรนะครับ แค่อยากเล่าความจริงบางอย่าง ที่กำลังเกิดขึ้นกับเราทุกคนในบทความนี้ ย้ำนะครับว่า "ไม่ใช่จะเกิดขึ้น" แต่มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ แม้แต่ตอนที่คุณกำลังอ่านบทความฉบับนี้อยู่ก็ตาม...
คุณเคยสังเกตไหมครับว่าคนสมัยนี้รายได้เยอะกว่าสมัยก่อนมาก แต่เรากลับรู้สึกเหมือนเราจนลงๆๆ รายได้เยอะแต่จนลงมันเป็นไปได้ยังไง!
สมัยรุ่นพ่อแม่ เงินเดือนพวกเค้าไม่ถึง 2000 แต่กลับมีกิน มีใช้ มีเหลือเก็บ และ ซื้อบ้าน เป็นของตัวเอง สมัยนี้เงินเดือน 20,000 อย่าว่าแต่มีเหลือเก็บเลยครับ จะใช้ให้ชนเดือนบางครั้งก็ยังไม่ง่าย
ทำไมเป็นยังงั้นล่ะ? "เงินเฟ้อ" ครับ
ผมไม่ได้หมายถึงเงินเฟ้อ 2% ต่อปีตามที่หน่วยงานรัฐประกาศนะ แต่ผมหมายถึงเงินเฟ้อจริง ที่กระทบกับชีวิตเราจริง คิดง่ายๆ เลยครับ ก๋วยเตี๋ยวตอนรุ่นแม่ชามละ 1 บาท สมัยนี้ 40 บาท หรือ 40 เท่า 4000%!!! ถ้าปีละ 2% ผมยังนึกไม่ออกว่ามันจะโตถึง 4000% ได้ยังไง และไอ้ 4000% นี่หละครับที่กำลังกัดกินความมั่งคั่งของเรา โดยที่เราอาจไม่ทันระวังตัวเลย
ที่เหนื่อยก็คือ....เงินเดือนเรามันดันโตช้ากว่าเงินเฟ้อ! เราถึงต้องจัดการค่าใช้จ่ายในอนาคตไว้ล่วงหน้าอาหารซื้อวันนี้เพื่อกินอีก 20 ปีข้างหน้าไม่ได้ แต่บ้านซื้อวันนี้อยู่ไปอีก 30 ปีก็ยังได้
เราไม่มีทางลดค่าอาหารในอนาคตได้ แต่เราลดค่าบ้านได้ด้วยการซื้อไว้เป็นของตัวเอง ทางออกในระยะยาวของเราคือ "บ้าน" ครับ
ราคาบ้านตอนนี้ขึ้นมาอยู่ในระดับที่เราเริ่มซื้อยากแล้ว (แต่ยังพอซื้อไหว) อย่างน้อยๆ ก็คอนโดดีๆ ซักห้องเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยให้กับครอบครัว
ด้วยเงินเฟ้อระดับนี้ อีกไม่นานคนทั่วไปจะไม่สามารถซื้อบ้านได้ ไม่ใช่แค่เงินผ่อนนะครับ แต่เงินดาวน์จะเป็นอุปสรรคสำคัญของการซื้อบ้าน
ปัจจุบันในไทยยังเรียกดาวน์แค่ 10% บางที่ 0% (กู้ 100%) แต่เมื่อราคาบ้านวิ่งหนีรายได้ไปไกลๆ คนผ่อนไม่ไหวจะเยอะขึ้น ธนาคารจะปิดความเสี่ยงของตัวเองโดยการขึ้น % ดาวน์ครับ ในปัจจุบัน บางประเทศขึ้นไปถึง 40% แล้วนะครับ
ไม่ต้องพูดถึงราคาอนาคตเลยครับ เอาแค่ราคาบ้านปัจจุบัน ถ้าต้องดาวน์ 40% ก็น่าจะเป็นล้านซึ่งหนักเกินกว่าที่คนส่วนใหญ่จะเอื้อมถึงไปแล้ว
ในฮ่องกง ปัจจุบัน คอนโดห้องละ 20 ล้านบาท ต้องดาวน์ 8 ล้าน เก็บเงินอีกอย่างน้อย 10 ปีถึงจะได้ แต่ที่ร้ายคือ 10 ปีข้างหน้า ราคาคงขึ้นไปอีก 8 ล้านคงไม่พอดาวน์อยู่ดี
คนฮ่องกงถึงไม่ค่อยมีบ้านเป็นของตัวเอง... สิ่งเดียวกันนี้จะเกิดกับไทยแน่นอนครับ เร็วๆ นี้
ยิ่งใครมีลูกเล็ก ยิ่งน่าซื้อบ้านครับ เมื่อถึงรุ่นลูก ยากมากที่เค้าจะซื้อบ้านได้เอง ถ้าใครมีกำลังและยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ผมว่า "วันนี้" คือเวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้อมันนะ
ถ้าใครคิดว่าซื้อบ้านวันนี้ยังหนักเกินไป ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องรีบร้อน หากคุณวางแผนการเงินดีๆ ไม่กี่ปี ผมเชื่อว่าคุณจะซื้อมันไหว ขอแค่ให้เริ่มทันที วางแผนให้ดีและมีวินัยทางการเงิน ซึ่งก็ไม่ง่ายนะผมเข้าใจแต่ถ้าทำได้คุณจะภูมิใจในตัวเองมากๆ แน่นอน
ขอบคุณนะครับที่ลงทุนเวลาอ่านมาตั้งยาว จริงๆ แล้ว ผมแค่อยากบอกคุณว่า...
"อย่าใจเย็นกับการซื้อบ้าน"
"เงินเฟ้อมันน่ากลัวมากจริงๆ ผมเป็นห่วง"
บทความน่าสนใจที่คุณต้องอ่าน
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ สูงสุด 5 อันดับแรก มาจากประเทศไหนบ้าง⁉️ ตั้งแต่วันที่ 1-21 มกราคม 2567
2024-02-01
10 บริษัทอสังหาฯชื่อดัง เปิดขายโครงการสูงสุด ปี 2565
2023-06-17
พลังของสลิปเงินเดือน
2020-04-10
10 นักลงทุนอสังหาฯ ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
2023-04-04
10 บริษัทอสังหาฯ พัฒนาโครงการ ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลมากสุด (2537-2565)
2023-06-10
บทความดีๆ ก็ที่นี่หล่ะนะ
ดีมากๆเลยค่ะ ลงบ่อยๆนะคะ
สู้ๆ ครับ เป็นกำลังใจให้ผู้เขียน สร้างสรรค์ผลงานมีประโยชน์ออกมาเยอะๆ ครับ