Favorite
หลายท่านที่เคยได้มีโอกาสพักโรงแรมระดับ 5 ดาว ตามย่านใจกลางเมืองของประเทศต่างๆ คงจะรู้สึกประทับใจถึงความหรูหราอลังการของสถานที่พัก อาจจะอดคิดไม่ได้ว่าหากเรามีที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง ที่เข้าถึงสิ่งอำนวยความอำนวยสะดวกต่าง ๆ อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง เข้าถึงแหล่งช้อปปิ้งได้อย่างง่ายดาย และรายล้อมไปด้วยเพื่อนบ้านคุณภาพระดับโรงแรม 5 ดาวจากทั่วโลก คงจะดีไม่น้อยที่จะได้ใช้ชีวิตที่สะดวกสบาย ประหยัดเวลาและมีความสุขมากขึ้น
ผมขอแนะนำหนึ่งในสุดยอดที่พักอาศัยของประเทศ Magnolias Ratchadamri Boulevard (MRB) เป็นคอนโดมีเนียมสร้างเสร็จพร้อมพักอาศัยบนทำเลสุดฮอต ”ราชดำริ” หรูหราระดับ Super Luxury บนตึกเดียวกับ Waldorf Astoria Bangkok ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว หรือระดับ Top สุดในเครือ Hilton ถือว่า Exclusive มากๆ เพราะเป็น Waldorf Astoria Bangkok ที่แรกของ South East Asia และด้วยมาตรฐานของ Waldorf Astoria ค่อนข้างจะใส่ใจในการเลือกที่ตั้งโรงแรม ซึ่งการมาเลือกตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ นี้แปลว่าต้องเป็นอะไรที่พิเศษจริงๆ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าโครงการนี้มีความพิเศษอย่างไร
Waldorf Astoria Bangkok
ทำไมโรงแรมระดับโลกถึงมาอยู่บนตึกเดียวกับ MRB?
โดย Magnolias Ratchadamri Boulevard (MRB) โครงการภายใต้การดำเนินงานของ แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น (MQDC) โดย MQDC เป็นผู้พัฒนา ผู้ลงทุน และผู้ให้บริการบริหารอสังหาริมทรัพย์ โครงการคุณภาพระดับสากลมากมาย ประกอบด้วย โครงการที่พักอาศัยและโครงการมิกซ์ยูส สำหรับไลฟ์ไตล์ที่หรูหราและชีวิตทันสมัยของคนรุ่นใหม่ ภายใต้แบรนด์ แมกโนเลียส์ ดิ ไอคอนสยาม ซึ่งมีโครงการที่พักอาศัยระดับหรูตั้งอยู่อีก 2 โครงการ คือแมกโนเลียส์ วอเตอร์ฟร้อนท์ เรสซิเดนซ์ ณ ไอคอนสยาม, เดอะ เรสซิเดนซ์ แอท แมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ และวิสซ์ดอม
MQDC เข้าใจความต้องการของคนเมืองในปัจจุบันที่ต้องการที่อยู่อาศัยที่เป็นมากกว่า Exclusive Building พวกเค้าต้องการ Community, Co-working space, Relaxing, Shopping Place ที่เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว จึงสร้างทุกอย่างในโครงการ MRB ให้ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่แบบ Mixed-use ใน Location ดีที่สุดในประเทศไทย ขณะที่ MQDC มุ่งหน้าพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น บนทำเลที่เหมาะสมที่สุด โรงแรม Waldorf Astoria ก็มองหาแต่ทำเลที่เป็น Top ของแต่ละประเทศเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น New York, Shanghai, Dubai และ BeiJing
การเป็นโครงการ Mixed-use โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแบรนด์ระดับโลกด้วยแล้วนั้น นอกจากจะตอบโจทย์ Lifestyle สมัยใหม่แล้วยังได้ประโยชน์จากการ Maintenance ของตัวตึกด้วยครับ แน่นอนว่า โรงแรมระดับ 5 ดาวมาอยู่ตึกเดียวกันแบบนี้ เค้าค่อนข้างจะมีมาตรฐานในการดูแลสภาพตึกและสภาพแวดล้อมสูงมาก ทำให้ตึกยังดูดีทันสมัยอยู่เสมอและยังช่วยเพิ่มมูลค่าของโครงการในระยะยาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
จากข้อมูลที่หามานี้ผมไม่แปลกใจเลยครับว่าทำไม 2 โครงการนี้ถึงตั้งใจมาอยู่บนตึกเดียวกัน เพราะโครงการใหญ่ยักษ์ทั้ง 2 โครงการที่มีเจตนารมณ์เดียวกันในการสร้างคุณภาพชีวิตระดับ Super Luxury คงจะมีไม่กี่คนบนโลกนี้ที่จะมีที่อยู่อาศัยที่อยู่บนตึกเดียวกับโรงแรมระดับโลกอย่าง Waldorf Astoria Bangkok ถือว่าเป็น Spotlight ที่ดึงดูดนักลงทุนจากทั่วทุกมุมโลกเลยก็ว่าได้
“ราชดำริ” ย่านที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ผมว่าการที่เราอยากจะมีบ้านอยู่ใจกลางกรุงเทพคงจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นอโศก พระราม 9 ทองหล่อ เพลินจิต ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกปกติเพราะมีคอนโดให้เห็นกันทั่วไป แต่น้อยคนที่จะพูดว่า “มีคอนโดอยู่ที่ราชดำริ” เพราะอย่างที่รู้กันว่าย่านนี้มันเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารหรูๆ มีเพียงแค่ไม่กี่คอนโดเท่านั้นที่จะสามารถตั้งอยู่บนพื้นที่เหล่านี้ได้
เป็นย่านที่ดีพร้อมทุกด้าน ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ถือเป็นความ Exclusive ที่เหนือระดับ ทำให้คนซื้อรู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถอาศัยอยู่บนพื้นที่ที่มูลค่าสูงสุดของประเทศ แถมยังเป็นย่านที่ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนฮ่องกงให้ความสนใจที่สุดอีกด้วย เพราะเป็นแหล่งรวม Luxury Lifestyle ที่ล้อมรอบไปด้วยโรงแรม 5 ดาวชั้นนำทั่วโลก เข้าถึง Shopping Mall ได้ภายในไม่กี่ร้อยเมตร
รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านมีระดับและสถานที่สำคัญ
ตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์และมีเอกลัษณ์โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มองวิวสนามม้าที่ The Royal Bangkok Sports Club รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านระดับห้าดาวอย่าง Grand Hyatt Erawan และอื่นๆ อีกมากมาย
สะดวกต่อการดำเนินธุรกิจ การพบปะสังสรรค์ ตลอดจนการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่หลั่งไหลมาจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก อีกทั้งสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ตั้งอยู่หน้าโครงการ
ที่ดินบนถนนราชดำริทั้งหมดเป็นที่ดินของกรมทรัพย์สิน ทำให้โครงการทั้งหมดบนเส้นนี้เป็นโครงการแบบ Leasehold เช่นเดียวกับย่านหรูของต่างประเทศที่มีทำเลระดับ Super Luxury ไม่ว่าจะเป็น Central ของ Hongkong หรือถนน Orchard ของ Singapore ก็เป็น Leasehold ทั้งหมดเหมือนกัน สำหรับ MRB เป็นโครงการที่มีระยะเวลาสัญญา Lease contract ยาวนานถึง 50 (30+20) ปี ในขณะที่โครงการอื่นบนถนนเส้นนี้ได้เพียงแค่ 30 ปีเท่านั้น เทียบกับ Freehold ผมบอกได้เลยครับว่าราคาดีกว่าประมาณ 30 - 40% เลยดีเดียว ยิ่งเป็นตึก Mixed-use แล้วด้วย ผมว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจเลยทีเดียว ทำให้โครงการแห่งนี้ตอบสนองความต้องการด้านพักอาศัยและไลฟ์สไตล์ระดับ Super Luxury ได้อย่างลงตัว
ตลาดอสังหาฯ ระดับนี้นับวันราคามีแต่จะสูงขึ้น ทำเลทองโดนกว้านซื้อไปจนเกือบจะไม่เหลือแล้ว สวนทางกับความต้องการจากเศรษฐีไทยและนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจากฮ่องกงที่ผละจากฮ่องกงไปมองหาทำเลใหม่ๆ ในขณะที่นักลงทุนจีนยังรู้สึกกังวลในการลงทุนในบ้านเกิดเนื่องจากภาวะฟองสบู่และกฏเกณฑ์ที่เปลี่ยนรายวันในประเทศจีน
ราคาคอนโดมีเนียมระดับ Super Luxury ในกรุงเทพฯ มีราคาเพียง 1 ใน 5 เมื่อเปรียบเทียบกับฮ่องกง ผมทำงานอยู่ที่ฮ่องกงยืนยันได้เลยครับว่าไม่ใช่แค่ราคา แต่คุณภาพการก่อสร้างและการออกแบบของโครงการที่กรุงเทพฯ เหนือกว่าที่ฮ่องกงอย่างชัดเจน ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของนักลงทุนจากทั่วภูมิภาค อีกทั้งยังมี Gap ราคาให้วิ่งขึ้นไปได้อีกเยอะมาก ไม่แปลกเลยครับที่โครงการ Super Luxury ในไทยจะราคาสูงขึ้นกว่า 10% และยังส่งผลให้ Rental Yield เพิ่มสูงขึ้นถึง 5% อย่างต่อเนื่องมานานหลายปีแล้ว
คุ้มค่าการลงทุน ราคาเติบโตทุกปีลูกค้าชาวต่างชาติต่อแถวรอเช่าเพียบ
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และกำลังโตอย่างต่อเนื่องมากกว่า 20% ต่อปี มีแนวโน้มที่จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ในอนาคต
ดึงดูดชาวต่างชาติด้วยความเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวที่ทันสมัยผสมผสานอยู่ด้วยกันอย่างลงตัว จากประสบการณ์ในการเดินไปทำงานให้หลายประเทศของผมพบว่า ไม่มีใครไม่รู้จักประเทศไทย และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ฝันอยากมาเที่ยวไทยให้ได้ซักครั้ง
โครงการนี้ช่วงพรีเซลราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น 270,000 บาทต่อตารางเมตรในปัจจุบัน คิดเป็นราคาที่ก้าวกระโดดกว่า 15% ต่อปี ต่อเนื่องยาวนานหลายปีและมีแนวโน้มที่จะวิ่งต่อไปอีกในอนาคต หากมองในแง่ของการลงทุนให้เช่าก็ยังให้ผลตอบแทนจากการเช่าที่คุ้มค่า 5% ซึ่งสูงกว่าโครงการอื่นๆ ในย่านเดียวกัน และโครงการรูปแบบเดียวกันในต่างประเทศมาก คุ้มค่าสำหรับทั้งคนที่ต้องการซื้อไว้อยู่เอง หรือเพื่อการลงทุน
อยากรู้ว่าโครงการน่าดึงดูดขนาดไหน ขนาดสื่อออนไลน์ชั้นนำอย่าง HONG KONG TATLER ยังพูดถึง
"As Hong Kong property prices continue to rise, Bangkok introduces a mixed-use luxury residence in the CBD to attract overseas investors"
ที่มา https://bit.ly/2ra61y1
Magnolias Ratchadamri Boulevard
ที่พักอาศัยทั้งหมด 316 ยูนิต บนตึกชั้นที่ 17 – ชั้นที่ 54 ประกอบด้วย
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ
Private Pool Space
Fitness Center
การบริการที่เหนือระดับ
Reception
ห้องของโครงการขายดีมาก หมดไปแล้วกว่า 80% เหลือขายอีกไม่มากแล้ว มีห้อง 2 ห้องนอน เพนท์เฮ้าส์ และดูเพล็กซ์ เพนท์เฮ้าส์ โดยห้องตัวอย่างที่ทางโครงการเตรียมไว้ต้อนรับคือห้องขนาด 2 ห้องนอนครับ
ห้องแรกเป็น 2 Bedroom 89 ตร.ม. วิว Central World ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจาก Olivia Living บรรยากาศหวานๆ สาวๆ ชอบ ชุดครัว Built-in แบรนด์ Bulthaup พื้นส่วนนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering wood ทั้งหมด แอร์ตัวใหญ่ซ่อนใต้ฝ้า เพื่อความสวยงามของห้อง ระบบแอร์ Water Cooling ช่วยให้ห้องเย็นเร็วและประหยัดพลังงาน กระจกยาวต่อเนื่องเข้ามุมเพื่อเปิดรับวิว ซึ่งใช้เป็นกระจกอินฟาเรด 3 ชั้น สามารถช่วยลดความร้อน ลดเสียง และลดการใช้พลังงานโดยรวม
ห้องที่สองเป็น 2 Bedroom 87 ตร.ม. วิว Royal Sport Club ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์นำเข้าทั้งหมด แบรนด์ Sonder living ให้บรรยากาศดูเท่ สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนลอฟต์
ระเบียงผนังทุกห้องมีลักษณะเป็นชายคายื่นออกไป มี Sun Shade ติดตั้งเพื่อป้องกันแสงแดด ห้องแต่ละวิวจะมีองศาของ Sun Shade ที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละห้องโดนแดดในองศาที่ต่างกัน หากมองจากภายนอกตึกจะเห็นเป็นเหมือน Facade ของตึก ซึ่งถอดแบบออกมาให้เหมือนกลีบดอกแมกโนเลีย
ถ้าให้เปรียบเทียบย่าน ราชดำริ ราชประสงค์ กับเมืองระดับ Top ในประเทศอื่น ๆ ก็อาจเทียบได้กับ ย่าน Orchard Road ของสิงคโปร์ หรือ Central HK ของฮ่องกง ที่เป็นย่านหรูของแต่ละเมืองใหญ่ แต่ราคาถูกกว่ามาก เพราะทั้งสองย่าน ราคาขายต่อ ตรม. วิ่งไปที่ 800,000-1,000,000 บาทต่อตรม. ถ้ามองศักยภาพความเป็นเมืองหลวงอันดับต้นๆของเอเชีย กรุงเทพไม่ได้ดีน้อยกว่าเลย แถมยังมีดีกว่าอีกหลายอย่าง
ดังนั้นราคาของ แมกโนเลียส์ ราชดำริ บูเลอวาร์ด จึงถือว่าถูกกว่าที่ควรเป็นที่ยังมีช่องว่างของราคาที่จะไปต่อได้อีกมาก
ทำให้ที่นี่นอกจากเหมาะจะอยู่เองแล้ว ยังถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง MRB เป็น โครงการ mixed-use กับ โรงแรม Waldorf Astoria Bangkok โรงแรมแบรนด์ดังระดับ 5 ดาวในเครือฮิลตัน อีกทั้งยังตั้งอยู่ใจกลางความเจริญของกรุงเทพแล้วด้วย ยิ่งช่วยสร้าง Value ให้เพิ่มขึ้นอีกมาก
แถมยังได้ Leasehold 50 (30+20) ปี บนราคาที่ดีกว่าโครงการ Freehold บนทำเลเดียวกันถึง 40% การเติบโตของทำเลทำให้ราคาขึ้นกว่า 10% ทุกปี ค่าเช่า Yield สูงถึง 5% คุ้มค่าสำหรับทั้งคนที่ต้องการซื้อไว้อยู่เองและเพื่อการลงทุนครับ
โครงการนี้ประทับใจผมมาก ใครสนใจ Magnolias Ratchadamri Boulevard (MRB) แนะนำให้รีบเข้ามาชมโครงการได้เลยครับ เหลือขายอีกไม่เยอะแล้วจริงๆ เป็นโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
ลงทะเบียน http://bit.ly/2S4hniH หรือติดต่อสอบถาม โทร 083-095-5054
Livinginsider - Weekly Insight Report [10-16 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [03-09 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [27 Oct-02 Nov 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [20-26 Oct 2024]
2024-11-18
Livinginsider - Weekly Insight Report [13-19 Oct 2024]
2024-11-18
ชอบการเขียนลงทุนค่ะ
บทความดีๆ หาอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ ชอบมากๆ
สนุกมากๆเลยค่ะ อ่านเพลินดี
ชอบนะคะ บทความหลากหลายดี
คือชอบมาก มีให้อ่านหลากหลายมาก