Favorite
อันดับ 1 คือ ตระกูลสิริวัฒนภักดี ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณ 630,000 ไร่
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลสิริวัฒนภักดี แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ
กลุ่มแรกคือกลุ่มทีซีซีแลนด์ ที่มี คุณต่อ โสมพัฒน์ กับ คุณเอ๋ วัลลภา ไตรโสรัส (ลูกสาวคนที่ 2 ของเจริญ และ คุณหญิงวรรณา) โดยมีโมเดลธุรกิจ คืออสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ทั้งโรงแรม ห้างสรรพสินค้า และ อาคารสำนักงาน เป็นต้น โดยเป็นกลุ่มที่ถือครอง ธุรกิจโรงแรม ที่น่าจะมีโรงแรมในมือเป็นอันดับต้นๆของประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มอิมพีเรียล ในอดีต ที่ ซื้อมาจาก คุณอากร ฮุนตระกูล เช่น อิมพีเรียล ควีนส์ปาร์ค ที่กำลังปรับปรุงอยู่ในปัจจุบัน และเตรียมเปิดตัวใหม่อย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้แบรนด์ แมริออท ควีนส์ปาร์ค รวมถึง คอมมูนิตี้มอลล์ ชื่อดัง เช่นเอเชียทีค และ อาคารสำนักงาน บนพื้นที่สำคัญ เช่น อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ เป็นต้น
ส่วนกลุ่มที่สอง คือ บริษัท ทีซีซีแอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย)ฯ โดยมี คุณยอด ปณต สิริวัฒนภักดี เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โมเดลธุรกิจคือ อสังหาริมทรัพย์ครบวงจร อีกเช่นกัน ที่มีบริษัทหลัก คือ บริษัทยูนิเวนเจอร์ จำกัด (มหาชน) โดยพัฒนาธุรกิจประเภท ที่อยู่อาศัยเพื่อขาย และโครงการอาคารสำนักงาน สีเขียว ที่รักษาสิ่งแวดล้อม ชื่อดัง ปาร์คเวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ และโรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ รวมถึงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในบริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นต์ จำกัด (มหาชน) อีกหนึ่งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เจ้าเก่าที่ก่อตั้งมายาวนาน
แล้วเหมือนหรือต่างกันอย่างไร กลุ่มแรก เน้นพัฒนาที่ดินที่เจริญกับคุณหญิงวรรณา ได้ทำการสะสมเพื่อก่อร่าง สร้างธุรกิจ มาในอดีต โดยเน้นพัฒนาเพื่อเช่า หรือรับรู้รายได้ระยะยาวเท่านั้น ส่วนกลุ่มที่สองนั้นเน้นพัฒนาที่ดินที่ซื้อเข้ามาใหม่ โดยมีทั้งการพัฒนาเพื่อขาย และรับรู้รายได้ในระยะยาว
อันดับ 2 คือ ตระกูลเจียรวนนท์ ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณไม่ต่ำกว่า 200,000 ไร่
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเจียรวนนท์ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ อีกเช่นกัน โดย
กลุ่มแรกคือบริษัท ซีพี แลนด์ จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ในตระกูลเจียรวนนท์ และมีสุนทร อรุณานนท์ชัย เป็นทั้งผู้ถือหุ้นและบริหารงานหลัก ที่มีทั้งการลงทุน ทั้งห้างสรรพสินค้า บ้านเดี่ยว คอนโด โดยเน้นการลงทุนตามต่างจังหวัด และอาคารสำนักงาน เช่นอาคารซีพีทาวเวอร์ ตามจุดต่างๆ และห้างฟอร์จูนทาวน์ที่กลายเป็น ห้างไอดีลำดับต้นๆของประเทศ เป็นต้น
ส่วนกลุ่มที่สอง มีลูกสาวคนสุดท้องของ เจ้าสัวธนินท์ และคุณหญิงเทวี เจียรวนนท์ อย่าง คุณบี ทิพาภรณ์ เจียรวนนท์ ลงทุนทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ของตนเอง ในชื่อของกลุ่มบริษัท ดีที กรุ๊ปฯ และ แมกโนเลีย หรือ เอ็มคิวดีซี โดยเน้นการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงยังมีบริษัทที่ปรึกษาสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทออกแบบ อย่างไรก็ตามธุรกิจหลักคือการพัฒนาโครงการเอง โดยมีโครงการเด่นๆ ตอนนี้คือ แมกโนเลีย ราชดำริ บูเลอวาร์ด ที่ใกล้จะเสร็จเต็มที ที่เป็นคอนโด พ่วงด้วยโรงแรมระดับ 6 ดาว และ ดิไอคอนสยาม ที่จับมือกับ ซีพี และสยามพิวรรธน์ โดยทั้งสองโครงการ ได้มืออาชีพ คุณนะวัน คุณธนวันต์ ชัยวัฒนะ เป็นผู้นำหลัก สำหรับทั้งสองโครงการใหม่ และยังมีโครงการในอนาคตที่ได้ พี่หนอม คุณถนอมศักดิ์ แก้วเขียว ที่เคยอยู่กับ อนันดา ทำให้มีโครงการเตรียมเปิดตัวอีกมาก โดยสรุป ทำให้กลุ่มนี้มีทั้งธุรกิจ บ้านเดี่ยว คอนโด ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน และโรงแรม เป็นต้น
อันดับ 3 คือ บมจ.สหอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม ดำเนินธุรกิจด้านน้ำมันปาล์มรายใหญ่ในภาคใต้ ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณ 44,400 ไร่
กลุ่มนี้มีการดำเนินการปลูกในสวนปาล์ม และทำธุรกิจเกี่ยวกับการทำน้ำมันปาล์มในภาคใต้เป็นหลัก โดยประมาณครึ่งหนึ่งเป็น พื้นที่สัมปทานของสวนเคียนซากับกรมป่าไม้ โดยประมาณ 8,588 ไร่ และ พื้นที่สัมปทานของสวนชัยบุรีกับกรมป่าไม้ อีก 13,064 ไร่ โดย กลุ่มนี้ ยังมีนโยบายในการหาที่ดินเพื่อนทำสวนปาล์ม เพื่อสนับสนุนธุรกิจหลัก
อันดับ 4 คือ สำนักงานทรัพย์สินฯ ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาร่ณ 30,000 ไร่
สำนักงานทรัพย์สินฯ มีที่ดินที่ทำสัญญาให้เช่าแก่หน่วยงานราชการ องค์กรธุรกิจ และบุคคลทั่วไป ปัจจุบันมีอสังหาริมทรัพย์อยู่ในความดูแลประมาณ 37,000 สัญญา เน้นหาประโยชน์โดยการให้เช่าที่ดิน โดยมีหน้าที่ดูแลรักษาและบริหารทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่แยกต่างหากกับทรัพย์สินส่วนพระองค์ และทรัพย์สินส่วนสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักพระราชวัง โดยปัจจุบันมี คุณจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เป็นผู้อำนวยการสำนักงานฯ
อันดับ 5 คือ บมจ.ไออาร์พีซี ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณ 17,000 ไร่
โดยกลุ่มนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรม และยังมีธุรกิจท่าเรือ โรงไฟฟ้า คลังน้ำมัน และคลังสินค้าอีกด้วย โดยกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจปิโตรเคมี เป็นหลัก ดังนั้น ที่ดินที่นำมาพัฒนา จึงเน้นเป็นโครงการ เพื่อสนับสนุนธรกิจหลัก ดังที่กล่าวไปแล้ว
อันดับ 6 คือ ตระกูลมาลีนนท์ ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณ 10,000 ไร่
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ของตระกูลมาลีนนท์ โดยแต่เดิม เป็นกลุ่มที่เน้นโครงการที่รับรู้รายได้ระยะยาวเช่น อาคารสำนักงาน โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ และสนามกอล์ฟ เป็นต้น โดยช่วงหลัง มีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายอยู่บ้าง แต่ยังขาดความสม่ำเสมอ ทั้งนี้ กลุ่มนี้ ยังมีการเข้าไปถือหุ้นใหญ่ใน บริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด(มหาชน) ดังที่เป็นข่าวครึกโครม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยใช้เงินลงทุนไปกว่า 900 ล้านบาท โดยมีที่ดินชิ้นสวย ชื่อร้อยชักสาว ย่านเจริญกรุง ที่กำลังรอกันอยู่ ว่าจะทำอะไร
อันดับ 7 คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณ 10,000 ไร่
โดยธุรกิจหลัก ของ น.พ.บุญ วนาสิน คือ กลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลธนบุรี ประกอบด้วยโรงพยาบาลในกลุ่ม 18 แห่ง โดยโครงการหลักๆจะเน้นไปที่โครงการเกี่ยวกับสุขภาพ เช่นโรงพยาบาลและ เนิสซิงโฮม เป็นต้น โดยในปัจจุบัน หมอบุญ ได้เตรียมพัฒนาเนอร์สซิ่งโฮมในหัวเมืองต่างๆ โดยจะมีทั้งการรักษา และรับดูแล ทั้งคนชราและกลุ่มคนที่ดูแลตัวเองไม่ได้ เป็นต้น
อันดับ 8 คือ วิชัย พูลวรลักษณ์ ถือครองที่ดินตามข่าวโดยประมาณ 7,000 ไร่
มีการลงทุนอสังหาริมทรัพย์แบ่งเป็นสองกลุ่มหลักๆ
กลุ่มแรกคือกลุ่มของนายวิชัยเอง ที่มีเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เป็นผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์ของประเทศไทโดยมีธุรกิจหลัก เช่น โรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ และลานสเก็ตน้ำแข็ง รวมถึงยังให้ธุรกิจให้บริการพื้นที่ให้เช่า และยังมี บริษัทวรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ ที่มีการพัฒนา คอนโด เซอร์วิสอพาร์ทเม้น และโรงแรม เป็นต้น
ส่วนกลุ่มที่สอง คือ เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซึ่งบริหาร โดย ดร.บี สุริยา และคุณโอ๋ เพชรลดา พูลวรลักษณ์ ภรรยา ผู้โดยเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โครงการคอนโดมิเนียมในระดับไฮเอนด์ และยังมีโรงแรม และสำนักงานอีกด้วย
อันดับ 9 คือ ตระกูลเตชะณรงค์ จำนวน 5,000 ไร่
กลุ่มโบนันซ่า หลายคนอาจจะนึกถึงโครงการโรงแรมและรีสอร์ตขนาดใหญ่บนถนนธนะรัชต์ เขาใหญ่ ภายใต้การบริหารของไพวงษ์ เตชะณรงค์ เจ้าพ่อของวงการอสังหาริมทรัพย์ในโคราช โดยมีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ในบริเวณเขาใหญ่ อย่างไรก็ตาม หลังจากเริ่มเข้ามาบริหาร ของ รุ่นที่สอง คือ สงกรานต์ และ ทักษอร เตชะณรงค์ กลุ่มโบนันซ่าก็เริ่มขยายแนวรุกการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายมากขึ้น โดยมีทั้งโครงการสนามกอล์ฟ บ้าน และที่ดินจัดสรรเพื่อขาย และโรงแรม เป็นต้น
อันดับ 10 คือ ตระกูลจุฬางกูร จำนวน 5,000 ไร่
โดยมี คุณณัฐ ณัฐพล จุฬางกูร กรรมการบริหาร บริษัท ซัมมิท วินด์มิลล์ กอล์ฟคลับ จำกัด ผู้บริหารสนามกอล์ฟซัมมิท วินด์มิลล์ ถนนบางนา-ตราด ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมีโครงการจำพวก อพาร์ตเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารสำนักงาน โรงเรียนนานาชาติ และโรงแรม และยังมีสนามกอล์ฟ และ ยังมีโปรเจคมอลล์ขนาดใหญ่ ย่านราชเทวี อีกด้วย
เห็นกันไปแล้วกับกลุ่ม 10 ตระกูล หรือ องค์กร ที่ครอบครองที่ดินมากที่สุดในประเทศ เป็นยังไงบ้างครับ ไว้มีโอกาสหน้ากู๋จะเจาะลึกแต่ละตระกูลอีกครั้งนะครับ
ติดตามเพจผมได้ที่ อสังหา กล้าลงทุน
A5 ตั้งเป้ารายได้แตะ 5,000 ลบ. ในปี 70 พร้อมวางโรดแมปพัฒนาบ้านหรูต่อเนื่องถึงปี 69 รวม 9 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 16,800 ลบ.
yesterday
ศุภาลัย บุกอสังหาฯ จ.สุราษฎร์ฯ ครั้งแรก พร้อมเปิดตัว “ศุภาลัย ปาล์มวิลล์ โกเตง” บ้านซีรีส์ใหม่สไตล์ Tropical Modern เริ่ม 3.49 ลบ.*
yesterday
อนันดาฯ ส่งแคมเปญ “อนันดา สุดสุด ดีล” กระตุ้นยอดขายส่งท้ายปี พร้อมมอบส่วนลดสูงสุด 7 ล้าน* วันนี้–31 ธ.ค. 67
yesterday
“NARINSIRI” ไพรเวทเรสซิเดนซ์ แบรนด์ใหม่ระดับมาสเตอร์พีซ เหนือระดับในทุกมิติ ควรค่าแก่การครอบครอง 2 โครงการ บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา” ราคา 40 - 100 ล้านบาท*
yesterday
“NARINSIRI” ไพรเวทเรสซิเดนซ์ แบรนด์ใหม่ระดับมาสเตอร์พีซ เหนือระดับในทุกมิติ ควรค่าแก่การครอบครอง 2 โครงการ บนทำเล “กรุงเทพกรีฑา” ราคา 40 - 100 ล้านบาท*
yesterday
ตัวหนังสืออ่านง่ายมาครับ
ผู้เขียนเก่ง บทความดีๆ ทั้งนั้น
รูปในรีวิวสวยดี เห็นล่ะชอบเลย *-*