คอนโดรอบสถานีบีทีเอสตลาดพลู ทะลุ 20,000 ยูนิต

คอนโดรอบสถานีบีทีเอสตลาดพลู ทะลุ 20,000 ยูนิต

นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ทำเลตลาดพลูถือว่าเป็นทำเลที่ตอบโจทย์สำหรับการอยู่อาศัยที่แท้จริง ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำอย่างเดอะ มอลล์ท่าพระ

การเดินทางสะดวกสบายเนื่องจากเป็นที่ตั้งของตัวสถานีบีทีเอสตลาดพลู และยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ สายสาทร-ราชพฤกษ์ หรือบีอาร์ที ซึ่งถือว่าเป็นโลเคชั่นที่สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย รวมถึงร้านอาหารชื่อดังต่างๆ มากมาย

บริเวณตลาดพลู เรียกได้ว่าแวดล้อมไปด้วยที่กิน ที่เที่ยว ทั้งยังสามารถเดินทางไปสู่ใจกลางเมืองและแหล่งงานได้อย่างสะดวกสบาย และที่สำคัญ ราคาคอนโดมิเนียมยังถือว่าไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับบีทีเอส สถานีก่อนหน้า

พื้นที่โดยรอบสถานีบีทีเอสตลาดพลูปัจจุบันแวดล้อมไปด้วยคอนโดฯ กว่า 20,360 ยูนิต จากการสำรวจ ณ เดือน พฤศจิกายน 2561  พบว่า ปัจจุบันมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 7 โครงการ 4,219 ยูนิต มูลค่าการลงทุนกว่า 11,808 ล้านบาท

ขายไปแล้วประมาณ 3,459 ยูนิต หรือคิดเป็น 82% ของอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด เหลือขายประมาณ 760 ยูนิต หรือคิดเป็น 18%

ปัจจุบันราคาที่ดินย่านตลาดพลูมีการเสนอขายกันอยู่ที่ประมาณตารางวาละ 250,000-350,000 ซึ่งมีการปรับกว่า 100% ก่อนที่บีทีเอสจะเปิดบริการ

สำหรับผลตอบแทนจากการเช่าของย่านนี่อยู่ประมาณ 4-5.5% ถือว่าเป็นผลตอบแทนที่ค่อนข้างน่าสนใจ และจากการสำรวจพบว่า ราคาของคอนโดมิเนียมย่านดังกล่าวมีการปรับตัวขึ้นกว่า 110% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

จากอัตราการขายของทั้งตลาดที่อยู่ที่ประมาณ 82% ในปัจจุบันซึ่งถือว่าเป็นอัตราการขายที่ค่อนข้างสูง ส่งผลให้ที่ดินรอบๆบีทีเอสตลาดพลูเป็นที่จับตามองของกลุ่มดีเวลลอปเปอร์ ซึ่งพบว่ามีที่ดินขนาดใหญ่อีกกว่า 3 แปลงมีการล้อมรั่วรอการพัฒนาและถูกจับจองโดยดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่

ได้แก่ บมจ. แสนสิริ เตรียมพัฒนาโครงการ เดอะ เบส รัชดา-ท่าพระ บนที่ดิน 7-1-55.4 ตารางวา ประมาณ 1,600  ยูนิต และล่าสุด  บมจ. เอพี ( ไทยแลนด์) อยู่ระหว่างเคลียพื้นที่บนที่ดินแปลงใหญ่ใกล้บีทีเอสตลาดพลูเพื่อนำมาพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมอีก 1 โครงการหลังจากปิดการขายโครงการ แอสปาย สาทร ท่าพระ

รวมถึง บมจ. ปริญสิริ ที่เพิ่งก่อสร้างคอนโดมิเนียมโครงการใหม่บนทำเลย่านนี่เช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้คอนโดมมิเนียมย่านตลาดพลูมีการแข่งขันกันอย่างคึกคักในปีหน้า

จากอุปทานที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมด 7 โครงการ ประมาณ 4,219 ยูนิต พบว่า ผู้ประกอบการพัฒนาเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนมากที่สุดถึง 3,061 ยูนิต หรือคิดเป็น 72.5%

รองลงมาเป็นรูปแบบสตูดิโอ  748 ยูนิต คิดเป็น 17.7% และ 2 ห้องนอนขึ้นไปประมาณ 406 ยูนิต หรือคิดเป็น 9.6% และพบว่ารูปแบบห้อง 3 ห้องนอนขึ้นไปของย่านตลาดพลูมีเพียง 4 ยูนิตเท่านั้นเป็นของโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ ตลาดพลู และปัจจุบันไม่มีหน่วยเหลือขายในตลาด

จากการสำรวจพบว่า รูปแบบ 1 ห้องนอน ขายได้มากที่สุดคือขายไปแล้วประมาณ 2,626 ยูนิต คิดเป็น 85.7% จากอุปทานทั้งหมด 3,061 ยูนิต รองลงมาแบบ 2 ห้องนอนที่ขายไปแล้ว 335 ยูนิต คิดเป็น 82.5% จากอุปทานทั้งหมด 406 ยูนิต

จากข้อมูลพบว่า คอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายย่านตลาดพลู ส่วนใหญ่ราคา 2,000,000-2,250,000 บาทมากที่สุดจำนวน 1,002  ยูนิต คิดเป็น 23.7% รองลงมาราคา 3,000,001-5,000,000 บาท จำนวน 846 ยูนิต หรือคิดเป็น 20.0% และราคา 2,500,001-3,000,000 บาท จำนวน 772 ยูนิต คิดเป็น 18.3%

และพบว่าในช่วงราคา 1,750,000-2,000,000 บาท เป็นช่วงราคาที่ขายดีที่สุดและไม่มีหน่วยเหลือขายอยู่ในตลาด รองลงมาราคา 2,500,001-3,000,000 ประมาณ 94.3% และราคา 2,250,001-3,000,000 ประมาณ 93.8%

ขอบคุณภาพและข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

https://www.prachachat.net/property/news-256335