ความคิดเห็น vs. ข้อเท็จจริง

ความคิดเห็น vs. ข้อเท็จจริง

ความคิดเห็น vs. ข้อเท็จจริง คนละเรื่องกันนะครับ อย่าเอามาปนกันหนึ่งในปัจจัยความสำเร็จที่ไม่ค่อยถูกพูดถึง แต่คนที่สำเร็จแล้วทุกคนเข้าใจดีก็คือ...ความแตกต่างระหว่าง "ความคิดเห็น" กับ "ข้อเท็จจริง"

มันต่างกันตรงไหน?

ข้อเท็จจริงเป็นจริงเสมอ หรือถ้าจะเปลี่ยนแปลงก็จะเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความคิดเห็นอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ คนส่วนใหญ่ชอบคิดว่าความคิดเห็นของตัวเองแม่นยำ 90-100% จนเอามันไปปนกับข้อเท็จจริง แต่เชื่อผมเถอะครับว่ามันไม่ได้แม่นอย่างที่เราคิด ซัก 60% ก็หรูละ..

ลองคิดดูเล่นๆ นะครับ เรารู้ข้อมูลบนโลกนี้แค่ไม่ถึง 0.00000001% ทำไมความคิดเห็นเราถึงจะแม่นยำกันล่ะ? เราแค่คิดว่ามันแม่นยำจากข้อมูลอันน้อยนิดที่เรารู้ บวกกับความชอบเข้าข้างตัวเองอันเป็นนิสัยปกติของคนเราทุกคนนั่นล่ะครับ

แล้วมันสำคัญยังไง?

สำคัญมากครับ! ถ้าคุณรู้ว่าเรื่องไหนเป็นความคิดเห็น คุณทำอะไรจะเผื่อแผนสองไว้เสมอ หรืออย่างน้อยก็เผื่อใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นแต่ถ้าคุณเอาความคิดเห็นไปมั่วว่ามันเป็นข้อเท็จจริง คุณจะไม่ได้เตรียมตัวไว้เลย พอมันไม่เกิดขึ้นก็ได้แต่นั่งบ่นโชคชะตา

ถ้าคุณลงทุนซื้อคอนโดหลังนึงที่กำลังสร้างที่ราคา presales คิดว่าราคานี้ถูกมาก สร้างเสร็จเดี๋ยวราคามันก็ต้องขึ้น เพราะมีห้างดังกำลังจะมาเปิดใกล้ๆ และคอนโดกลางเมืองมีคนต้องการเยอะ รอขายทำกำไรก่อนโอน อันนี้เป็นความคิดเห็นครับ! ถ้าจะลงทุนบนความคิดเห็น ต้องมีแผนสองไว้เสมอ ถ้าราคาไม่ขึ้น ขายไม่ออกก่อนวันโอนจะทำยังไงได้บ้าง

แต่ถ้าคุณซื้อคอนโดติดสถานศึกษาสร้างเสร็จแล้ว คนอยู่เต็มตลอด เพราะมีคอนโดบริเวณนี้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับจำนวนนักศึกษามีแต่คนมาถามหาเช่า คุณมีอยู่แล้วห้องนึงก็มีแต่คนมารอเข้าอยู่ต่อ ห้องไม่เคยว่างมาหลายปีแล้ว คุณเลยอยากซื้อเพิ่มอีกห้องเพื่อปล่อยเช่าอันนี้เป็นการลงทุนบนข้อเท็จจริงครับ! โอกาสสำเร็จสูงกว่ามาก แผนสำรองอาจจะมีแต่ก็ไม่ได้หนักมาก เตรียมเงินสดสำรองไว้พอสำหรับกรณีไม่มีคนเช่าซัก 2-3 เดือนก็น่าจะพอ

ยังไงก็ตาม ต่อให้คุณลงทุนบนข้อเท็จจริง ก็ใช่ว่าจะปล่อยปละไม่สนใจเลยได้นะครับ เพราะในระยะยาวข้อเท็จจริงก็เปลี่ยนได้ คอนโดบริเวณนี้ที่มีน้อย อาจมีคนสร้างเพิ่มก็เป็นไปได้ตราบใดที่คุณยังลงทุนกับมันอยู่ ก็ต้องคอยดูเป็นระยะๆ ครับ

เรื่องนี้สำคัญแต่เฉพาะกับการลงทุน?

ไม่ใช่เลยครับ...จริงๆ มันเกี่ยวกับทุกเรื่องตัวอย่างที่เห็นบ่อยที่สุดคือเราคิดว่าคนคนนึงดีมากๆ แบบพระเอกช่อง 7 ยุค 90 ไม่มีข้อเสีย เราเลยไปแพ่งเล็งแต่ความดีของคนคนนั้น มองเห็นแต่ความดี มองข้ามหรือเลือกที่จะไม่เชื่ออะไรที่ไม่ดีไป

จากนั้น เราก็ลงทุนเวลา ลงทุนความเชื่อ ลงทุนเงินทอง ลงทุนใจ หรือแม้แต่ลงทุนทำลายความสัมพันธ์ดีๆ กับคนอื่น เพื่อให้ได้อยู่ข้างคนที่เราเชื่อว่าดีจนเราลืมไปว่า "เราเห็นเค้าวันละ 30 นาที ในขณะที่วันนึงมี 3600 นาที" แล้วบนโลกนี้ทุกคนล้วนแต่มีด้านขาวและด้านดำเพราะฉะนั้น...."การที่เราเชื่อว่าเค้าเป็นคนดีแบบไม่มีด้านมืดเลยเป็นข้อคิดเห็นครับ" อะไรที่เราลงทุนไป ถ้าออกตัวแรงแบบไม่มีแผนสอง ถือเป็นการลงทุนที่อยู่ในความเสี่ยง!

ถ้ายังไง ลองเอาแนวคิดนี้ไปใช้นะครับ ผมลองแล้ว ใช้ได้กับแทบทุกเรื่อง

ลงทุนหนักกับข้อเท็จจริง ถ้าลงทุนกับข้อคิดเห็นต้องมีแผนสำรองทุกครั้ง อย่าออกตัวแรงเกินไป เผื่อใจไว้เสมอว่ามันผิดได้การแยกข้อคิดเห็นกับข้อเท็จจริงออกจากกันถือเป็นทักษะ ต้องฝึก ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ไม่มีใครแยกออกได้ 100% แม้แต่บทความนี้ที่ผมเชื่อว่าผมเขียนออกมาจากข้อเท็จจริง มันอาจจะเป็นเพียงความคิดเห็นก็เป็นได้...

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณครับ

#SalarymanEstator